2 มี.ค. 2022 เวลา 23:00 • ธุรกิจ
โอกาสการส่งออกรถจักรยานยนต์ไปชิลี ผลพลอยได้จากการเติบโตของการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์
จากวิถีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวัรสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่รัฐบาลชิลีได้ประกาศให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลาถึงสองปี และขอความร่วมมือให้หน่วยงานต่าง ๆ ใช้นโยบาย Work From Home นั้น ส่งผลให้ประชาชนชาวชิลีหันมาใช้บริการสั่งซื้อสินค้า ผ่านแอปพลิเคชันทางมือถือมากขึ้น โดยจากการเก็บข้อมูลของบริษัท Euromonitor ระบุว่าการสั่งซื้อสินค้าอาหารของชาวชิลีประจำปี 2563 มูลค่า ประมาณ 820 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้าที่ร้อยละ 69.7 และในปี 2564 แม้ว่ามูลค่าการสั่งซื้อสินค้าฯ ยังไม่เป็นที่ระบุแน่ชัด เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล แต่คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 70
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับบทความของนิตยสาร Hispanic Entrepreneurs ซึ่งเป็นนิตยสารด้านธรุกิจของประเทศสเปน ซึ่งระบุว่า กระแสการสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือของชาวชิลีเพิ่มสูงขึ้นโดยผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและรายย่อยในชิลีสามารถเพิ่มยอดจำาหน่ายสินค้าผ่านบริการจัดส่ง(Delivery) ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ถึงร้อยละ 160-200 ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมในการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน ได้แก่ อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ยาและเวชภัณฑ์ อาหารสัตว์ เสื้อผ้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้ แอปพลิเคชันที่ชาวชิลีนิยมใช้ในการสั่งซื้ออาหารมากที่สุดคือ Uber Eats เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการครอบคลุมในทุกพื้นที่ และมีจำนวนร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ เข้าร่วมสูงที่สุด (มากกว่า 9,000 ราย) รองลงมาคือแอปพลิเคชัน Rappi และ Corner Shop
ผ่านมาจำนวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ประเทศชิลีมีค่อนข้างน้อย ซึ่งส่วนมากเป็นการใช้งานรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีการใช้งานจักรยานยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการจดส่งสินค้ารายย่อยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจากการเก็บข้อมูลของสมาคมผู้นำเข้ารถจักรยานยนต์ ของประเทศชิลี ระบุว่ายอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์สำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ (ใช้เพื่อรับ-ส่งสินค้า) ประจำปี 2564 มีจำนวน 62,233 คัน (ตารางที่ 1) หรือมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับปี 2562 และขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 100.56 เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยสามยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Honda, Yamaha และ Bajaj ตามลำดับ
ทั้งนี้ จากผลการวิเคราะห์และสืบค้นข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก พบว่าชิลีมีการนำเข้ารถจักรยานยนต์ (พิกัดสินค้า HS Code 8711) ประจำปี 2564 ที่ 221.80 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนมากที่สุด ที่สัดส่วน 50.5% รองลงมา ได้แก่ อินเดีย (18.8%) ญี่ปุ่น (6.5%) เยอรมนี (5.6%) ไทย (4.3%) ออสเตรีย (3.9%) สหรัฐอเมริกา (2.5%) อินโดนีเซีย (2.1%) อิตาลี (1.9%) ไต้หวัน (1.7%) ตามลำดับ
“ไทย” เป็นประเทศอันดับที่ 5 ที่ชิลีมีการนำเข้าสินค้าในกลุ่มรถจักรยานยนต์สูงที่สุด โดยรายละเอียดแบ่งตามพิกัดสินค้า (ตารางที่ 2) เรียงตามลำดับ ดังนี้(1) รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์สูงกว่า 800 ซีซี มูลค่า 4.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ375.82 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า(2) รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์สูง กว่า250 ซีซี แต่ไม่เกิน500 ซีซี มูลค่า2.96 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.14 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า(3) รถจักรยานยนต์ขูดเครื่องยนต์สูง กว่าซีซี แต่ไม่เกิน800 ซีซี มูลค่า 2.35 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 845.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า(4) รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์สูง กว่า50 ซีซี แต่ไม่เกิน250 ซีซี มูลค่า107,051 เหรียญสหรัฐหดตัวลดลง -70.83
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าไทย เป็นฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ยี่ห้อHonda และ Yamaha ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ครองตลาดอันดับที่ 1 และ2 ในประเทศชิลี ดังนั้นการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานรถจักรยานยนต์เพื่อใช้รับ-ส่งสินค้า มากขึ้นที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการใช้งานสั่งซื้อสินค้า ผ่านแอปพลิเคชันมากขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีของการส่งออกสินค้า ในกลุ่มนี้ของไทยทั้งนี้ สคต. ณ กรุงซันติอาโก จะทำการนัดหมายเพื่อทำความรู้จักและประชุมกับสมาคมนำเข้ารถจักรยานยนต์ของชิลี เพื่อหารือถึงทิศทางและโอกาสในการเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทย
โฆษณา