3 เม.ย. 2022 เวลา 12:29 • คริปโทเคอร์เรนซี
ทำไมต้องเผาเหรียญ ?
เชื่อว่าคงมีหลายท่านที่มีความสงสัยเหมือนกันกับแอด ว่าทำไมต้องมีการเผาเหรียญ เขาเผาไปทำไม วันนี้จะพามาไขข้อสงสัยด้วยกันค่ะ
การเผาเหรียญ (Coin Burn) หรือ การทำลายเหรียญ Cryptocurrency คือ การนำเหรียญออกจากระบบ เพื่อปรับสัดส่วนของปริมาณของเหรียญให้น้อยลง โดยการโอน Cryptocurrency ออกจากระบบไปยัง Wallet ที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้ แม้แต่บริษัทเจ้าของเหรียญเองหรือตัวผู้พัฒนาเองก็ตาม
และทุกๆ ครั้งก็จะส่งผลต่อราคาเหรียญด้วย ขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อขาย เช่นถ้ามีการซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ราคาก็จะขึ้น ถ้ามีการซื้อที่ลดลงราคาก็จะลงเช่นกัน ซึ่งแต่ละเหรียญจะมีกำหนดระยะเวลาในการเผาเหรียญที่แตกต่างกัน หรืออาจไม่มีเลยก็ได้
แล้วทำไมจึงต้องเผาเหรียญ
เนื่องจาก ค่าธรรมเนียม หรือที่เรียกว่าค่า Gas เป็นอุปสรรคในการผลักดันการใช้งาน จึงได้มีการปรับปรุงโดยการปรับลดค่า Gas ลง เพื่อความสอดคล้องกัน ซึ่งการเผาเหรียญนี้เป็นการปรับสัดส่วนงบประมาณสำรองให้ลดลงมาก ทั้งนี้เพราะต้องการให้เหรียญกระจายอยู่ในมือของนักลงทุนและผู้ใช้งาน เพื่อผลักดันให้เกิดระบบนิเวศ (Ecosystem) ผ่านทางชุมชน
ซึ่งการเผาเหรียญและการปรับค่า Gas จะช่วยส่งเสริมให้ระบบนิเวศของ Block Chain มีสมดุลที่ดียิ่งขึ้น และจะเป็นการลด Supply ลง ส่งผลให้ระบบเศรษฐศาสตร์ของเหรียญมีความเป็นภาวะเงินฝืดมากยิ่งขึ้น
แล้วการเผาแบบนี้จะส่งผลให้มีความต้องการที่จะขายลดลง และจะทำให้เหรียญมีมูลค่าที่สูงขึ้น แต่ก็ไม่เสมอไปนัก ต้องดูปัจจัยหลายๆ ทั้งความต้องการซื้อขายในตลาดด้วย โดยการเผาเหรียญนี้จะไม่กระทบกับส่วนที่นักลงทุนถือครองแต่อย่างใด
ตัวอย่างการเผาเหรียญ
การเผาเหรียญ Binance (BNB)
ก่อนหน้านี้ทาง Binance จะมีกิจกรรมการเผาเหรียญทุก 3 เดือน โดย Binance จะใช้เงินจากกำไรของบริษัท 20% มาซื้อเหรียญคืนในตลาด และเอาไปเผาทิ้ง ซึ่งจะทำให้ราคาเหรียญ BNB ในตลาดราคาพุ่งขึ้นตาม Demand/Supply และจะทำการซื้อคืนจนกว่าจะเหลือ 50% ของ Supply ทั้งหมด
ภาพจาก Pinterest
ปกติแล้วเหรียญ BNB จะมีกลไกการเผาเหรียญ 2 กลไกหลัก คือ
1) การเผาทิ้งในทุกๆ ไตรมาส อย่างในไตรมาสที่ผ่านมาก็นับเป็นรอบการเผาเหรียญครั้งที่ 17 ที่เหรียญ BNB ถูกเผาไปกว่า 1,335,888 BNB รวมมูลค่าราว 2.14 หมื่นล้านบาท
2) การเผาค่าธรรมเนียมการใช้เครือข่าย (ค่า Gas) บางส่วนเมื่อมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้น
แต่จากการประกาศครั้งล่าสุด กลไกการเผาเหรียญแบบตามไตรมาสจะถูกแทนที่ด้วยกลไกที่เรียกว่า “Auto Burn” ที่ทาง Binance ระบุว่ากลไกดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยนแปลงปริมาณการเผาได้อย่างอัตโนมัติ
โดยจะเป็นการอ้างอิงจากราคาเหรียญ BNB ส่งผลให้ Demand/Supply สอดคล้องไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งในขณะนี้ทาง Binance เองก็กำลังต้องการให้ปริมาณเหรียญ BNB ลดน้อยลงด้วย
ซึ่งจากการประกาศทาง Binance ระบุว่าเบื้องต้นต้องการลดปริมาณเหรียญในระบบให้เหลือต่ำกว่า 100 ล้าน BNB ซึ่งเท่ากับว่า Biance ต้องการที่จะปริมาณเหรียญลงไปถึงราว 40% จากนั้นจึงจะหยุดการทำงานของ Auto-burn ไว้ก่อน (อ้างอิงจาก Coinmarketcap)
โดยการเข้ามาของ “Auto-burn” จะทำให้ราคาเหรียญ BNB ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำไรของ Binance อีกต่อไป แต่จะมาขึ้นอยู่กับปริมาณและระดับของกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชนของ Binance นั่นเอง
การเผาเหรียญ Ethereum (ETH)
จากข้อมูลของ ultrasound.money เครือข่ายสัญญา Smart Contract เบอร์หนึ่งของโลกได้บันทึกสถิติสูงสุดใหม่ เหรียญคริปโตฯ ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับนสองของโลกอย่าง ETH ได้เผาค่าธรรมเนียมไปแล้วกว่า 2.2 ล้าน ETH นับตั้งแต่เปิดใช้มาตรฐานโทเค็น EIP-1559 อัพเกรดผ่านตัว hard fork ที่ชื่อว่า London
ตัวอัพเกรด London ได้มีการรวมเอา Ethereum Improvement Proposal (EIP) 1559 เข้ามาติดตั้งในระบบด้วย โดยมีจุดประสงค์เพื่อจัดการค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย
โดยจะมีค่าธรรมเนียมสองประเภทที่ถือเป็นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม Ethereum ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมพื้นฐานและค่าธรรมเนียม priority
ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน คือจำนวนเงินที่กำหนดซึ่งผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อให้ธุรกรรมของพวกเขาเข้าไปอยู่ใน block ธุรกรรม ในขณะที่ค่าธรรมเนียม priority หรือทิป เป็นทางเลือก และสามารถรวมไว้เพื่อกระตุ้นให้นักขุดจัดลำดับความสำคัญของธุรกรรม ขึ้นอยู่กับระดับของความต้องการ
EIP-1559 ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงตลาดค่าธรรมเนียมของ Ethereum เนื่องจากค่าธรรมเนียม Gas ของ Ethereum ก่อนหน้านี้ใช้ระบบการประมูล ซึ่งทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมมีความไม่แน่นอน
แต่ด้วยมาตรฐานโทเค็นใหม่อย่าง EIP-1559 ผู้ใช้ Ethereum จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมขั้นต่ำสำหรับการทำธุรกรรมที่เรียกว่า “ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน” แต่ยังคงสามารถเพิ่มทิปเสริมให้กับนักขุดเพื่อทำธุรกรรมได้เร็วขึ้นได้ในช่วงที่มีการจราจรคับคั่ง
นอกจากนี้แล้วข้อเสนอ EIP-1559 ยังช่วยเพิ่มแรงกดดันให้กับภาวะเงินฝืดต่อ ETH และช่วยลดความต้องการเหรียญลงเมื่อเวลาผ่านไปอีกด้วย
จากสองตัวอย่างใหญ่ๆ ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น คงจะทำให้คุณผู้อ่านได้พอเข้าใจมากขึ้น ว่าทำไมจึงต้องมีการเผาเหรียญออกจากระบบนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
Cr. Investest/siamblockchin/th.investing.com
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ
🌷🌷❤❤🙏🙏🙏🙏❤❤🌷🌷

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา