2 เม.ย. 2022 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
รู้จักหลักมาร์เก็ตติ้ง “Co-Branding” แบรนด์ฟีเจอร์สุดปัง!!
4
ทุบ!! ทุกกระแสอีกครั้ง เมื่อปรากฏการณ์ระดับห้างแตก!! ที่คราวนี้ไม่ได้มาจากเหล่า Blink หรือแฟนคลับของวง K-pop วงไหน แต่เป็นการร่วมกันทำ Co-Branding ระหว่าง Omega และ Swatch นาฬิกาแบรนด์ดัง มาจับมือกันเป็นครั้งแรกด้วยการออกนาฬิกา Speedmaster รุ่น MoonSwatch
4
แน่นอนว่าความปัง!! ข้ามทวีปนี้ทำให้เกิดภาพข่าวดังจากทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพฯ ของเราด้วยที่เต็มไปด้วยกองทัพนักช็อปมาต่อคิวข้ามคืนเพื่อซื้อนาฬิการุ่นนี้ จนเกิดความชุลมุน เลยมีการยกเลิกหน้าร้านไปขายทางออนไลน์แทนแล้วก็มี
แต่ที่เห็นเหล่า people มะรุมมะตุ้มกันขนาดนั้น ไม่ใช่เพราะกระแสเพียงอย่างเดียวนะ อาจจะเป็นเพราะของเขาดีจริงๆ ด้วยแหละ ดีไซน์เขาเลิศอยู่นะ MoonSwatch มาในคอนเซ็ปต์ระดับจักรวาล แบ่งเป็นนาฬิกาเป็น 11 โมเดล ตั้งชื่อตามเหล่า
สตาร์สบนท้องฟ้า ตั้งแต่ระบบสุริยะไปจนถึงดาวเคราะห์ต่างๆ อย่าง โลก ดวงจันทร์ พระอาทิตย์ ดาวอังคาร ดาวพลูโต บลาๆๆๆ (OMG!! ที่ไม่ได้หมายถึงโอเมกานะ หมายถึง Oh my god!! นี่แหละ) อะไรจะเว่อร์วังอลังการขนาดนั้น ก็ไม่แปลกใจที่จะยิ่งเสริมความฮึกเหิมและอยากได้ของนักปั่น!! เอ๊ย!! นักสะสม)
Co-Branding คืออะไร?
ที่ชงเข้มมาซะขนาดนี้ จริงๆ แล้วอยากจะชวนมาตั้งเตาเมาท์มอยกันถึงเรื่องเทคนิคมาร์เก็ตติ้งระดับเทพอย่าง Co-Branding ที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ว่า แบรนด์สินค้าหลายๆ แบรนด์ฆ่าไม่ตาย แถมยังกลับมาผงาดล้ำ เดินเฉิดฉายในพรมแดงได้อย่างโดดเด้งยิ่งกว่า วิลสมิธหรือคริสร็อกเสียอีก (เมาท์!!) แล้วที่แท้คำว่า Co-Branding มันมีที่มายังไงกันแน่?
1
เข้าใจง่ายๆ การ Co-Branding ก็เหมือนการฟีเจอริ่งกันระหว่าง 2 แบรนด์ เพื่อให้โปรดักต์หรือแคมเปญที่เปรี้ยงปร้าง!! สร้างกระแส ทำยอดขาย แต่ว่าการรวมแบรนด์นี้ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็จะมารวมกันได้นะ มันก็เหมือนคนจะรักกัน จะคบกันแหละที่ต้องมีอนาคตร่วมกัน หรือไม่ก็ต้องชอบอะไรเหมือนๆ กัน พูดง่ายๆ คือต้องเข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่อง
ข้อดีของการ Co-Branding
  • - กระตุ้นยอดขาย ส่วนใหญ่แบรนด์มักจะจับมือกันสร้าง Collection Limited เช่น นำคาแรกเตอร์การ์ตูนตัวโปรดที่คนทั้งโลกรู้จักมาใส่ลงในแบรนด์คอลเล็กชั่น แน่นอนว่าทั้งเธอทั้งฉัน ต่างก็พร้อมจะควักตังค์จ่ายให้กับการ์ตูนที่เราหลงรัก
  • ได้กระแส ยิ่งถ้าทั้งสองแบรนด์ต่างเป็นเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ป็อบอยู่แล้ว การโคจรมาพบกัน ก็ยิ่งสร้างความน่าสนใจให้ผู้คนสามารถสร้างกระแสให้ Value ของโปรดักต์ที่ทำร่วมกันยิ่งล้ำค่าระดับขึ้นหิ้ง เป็น Collection Limited ที่หาซื้อยากขึ้นไปอี๊ก!!
  • แผ่ขยายฐานลูกค้า จากแบรนด์หนึ่งไปอีกแบรนด์หนึ่ง เหมือนทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้เขยิบไปทำความรู้จักกับอีกแบรนด์ เป็นการเปิดใจผู้บริโภค ขณะเดียวกันเจ้าของแบรนด์ก็เปิดกระเป๋ารับทรัพย์จากฐานลูกค้าใหม่ได้ไม่ยาก
ซึ่งจะว่าไปแล้ว XO ของเราก็เคยส่งแบรนด์ Flying Goose (ศรีราชาห่านบิน) จับมือกับ Ba Hao (ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น)
ในโปรเจ็กต์ Sauce on the table ในช่วงเทศกาลสุดปัง! อยากรู้ดีเทลตามมาดูเร็วๆ คลิปนี้มีเฉลย!!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา