Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BETTERCM
•
ติดตาม
3 เม.ย. 2022 เวลา 12:32 • สุขภาพ
ว่าด้วยเรื่องของยาระบาย
👶ในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน อาจใช้ยาเหน็บกลีเซอรีนได้เป็นครั้งคราว
ในทารกอายุมากกว่า 6 เดือน ควรรักษาด้วยการกินยาระบาย ไม่ควรใช้ยาสวนทวาร เพราะธรรมชาติของเด็กวัยนี้จะกลัวการสอดใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย และ
อาจนำไปสู่พฤติกรรมต่อต้านและกลั้นอุจจาระ ในกรณีท้องผูกที่มีอาการไม่นานอาจให้กินยาระบายในเวลาสั้นๆ
🐝ยาระบายที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ (stimulant laxatives) เช่น Bisacodyl กินวันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 3-7 วัน หรือจนกระทั่งไม่มีอุจจาระหลงเหลือใน rectum
ยาระบายมะขามแขก (SENNA) ควรใช้ในช่วงสั้นๆ (ไม่เกิน 7 วัน) เนื่องจากการกินยาติดต่อกันนานๆ จะทำให้ร่างกายเคยชิน เมื่อหยุดยาจะทำให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายได้เองตามปกติและทำให้เกิดอาการท้องผูกมากขึ้น
นอกจากนี้การใช้ยามะขามแขกในระยะยาวสามารถทำให้เกิด melanosis coli ซึ่งเป็นภาวะที่ลำไส้ใหญ่เปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำตาลดำ ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังได้รับ senna ภายใน 2-3 เดือน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบว่า melanosis coli ที่เกิดขึ้นมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งลำไส้
🐡การสวนอุจจาระที่ใช้ได้ผลดีคือยากลุ่ม hypertonic saline enema หรือ hypertonic phosphate enema โดยสวนวันละ 1-2 ครั้ง จนลำไส้โล่ง สำหรับผู้ป่วยโรคไต ควรระวังฟอสเฟตในเลือดสูง จากการใช้ phosphate enema
🎡ยาระบายที่ใช้ในระยะ maintenance ซึ่งเป็นการกินยาระบายต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จนกว่าพฤติกรรมกลั้นอุจจาระจะหายไป ซึ่งบางรายอาจต้องใช้ยาติดต่อกันนานถึง11เดือน โดยใช้ยาที่ออกฤทธิ์โดยการดูดซึมน้ำกลับเข้ามาในลำไส้ (osmotic laxatives) ทำให้อุจจาระนิ่มและถ่ายง่ายขึ้น
เช่น แลคตูโลส (lactulose), มิลค์ออฟแมกนีเซีย (MOM) ซึ่งไม่ควรใช้ยาระบาย stimulant laxatives ในขั้นตอนนี้เพราะจะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาติดต่อเป็นเวลานาน
ยาระบาย mineral oil มีปัญหาที่รสชาติ เด็กที่กินยายากอาจสำลักลงปอดจนเกิด lipoid pneumonia และในทางทฤษฏียา mineral oil อาจรบกวนการดูดซึมไขมันของลำไส้ ดังนั้นยาระบายในกลุ่ม osmotic laxatives จึงเหมาะสมที่สุดในระยะ maintenance
ยาpolyethyleneglycol (PEG) เป็นยาระบายในกลุ่ม osmotic laxatives ที่ถูกนำมาศึกษาค่อนข้างมาก และพบว่ายาชนิดนี้มีประสิทธิภาพเท่าเทียมหรือดีกว่า milk of magnesia และ lactulose ยา PEG มีข้อได้เปรียบที่รสชาดและผลข้างเคียงน้อยกว่า milk of magnesia แต่มีข้อเสียที่ราคาสูงกว่า
🤓 ในกรณีที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ การปฏิบัติตัวในเรื่องของการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ (ประมาณ 2 ลิตร หรือวันละ 8-10 แก้ว) และการกินอาหารที่มีกากใยก็นับว่าเป็นวิธีที่จะช่วยลดอาการท้องผูกได้ดีและปลอดภัยเช่นกัน
แต่หากปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวแล้วไม่ได้ผล อาจกินยาระบายชนิดที่เพิ่มกากใยในลำไส้ (bulk-forming laxative) ได้แก่ ยาระบายที่มีส่วนผสมของเม็ดแมงลัก, ispaghula husk ยาระบายชนิดนี้เมื่อกินต่อเนื่องกันนานจะมีความปลอดภัยมากกว่ายาระบายชนิดกระตุ้นลำไส้
🤗มีปัญหาเรื่องของการขับถ่าย สามารถขอคำปรึกษาจากเภสัชกรประจำร้านยาได้
.
.
💢
เนื้อหาจาก
https://www.thaipediatrics.org/Media/media-20180817143914.pdf
ijps_thailand,+{$userGroup},+001-IJPS15-43-ถนอมพงษ์+เสถียรลัคนา-OK2.pdf
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=2024
.
.
บทความอื่นๆ
😰ท้องผูกเรื้อรัง
https://www.blockdit.com/posts/63592d416390376113ee182e
📌ไฟเบอร์สำหรับคนเป็นท้องผูก
https://www.blockdit.com/posts/62dfe497c7986dfdfe9ff244
ยาที่ทำให้ท้องผูก
https://www.blockdit.com/posts/62dfec45eadc644f42fe05ec
ท้องผูก
https://www.blockdit.com/posts/5f880ad897640a0a8ee956f5
https://www.blockdit.com/posts/629058f7569971436b89b918
🍌ก็แค่ยาระบาย เรื่องกล้วยๆ - milk of magnesia
https://www.blockdit.com/posts/62e29014fadc67aa6d906ac5
ยาสวนทวาร
https://www.blockdit.com/posts/631dd6aaaa9c5a18b4a2a643
🔰Forlax®
https://www.blockdit.com/posts/62ed1bd2522c9e5b66a70477
POSTED 2022.04.03
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย