12 เม.ย. 2022 เวลา 01:17 • การตลาด
EP. 6 จิตวิทยาการตลาด ทำไมคนชอบซื้อกล่องสุ่มแม้จะไม่รู้ว่า ข้างในมันคืออะไร ?
ช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน ปีพ.ศ. 2564 มีกระแสฟีเวอร์ ของสุดยอดนักขายของออนไลน์ท่านนึง ที่สร้างกระแส แร๊ง จนทุกคนต้องหันมาสนใจ
"ยอดขายจากการ LIVE ขายของ 10 นาที มูลค่า 100 ล้านบาท"
เรื่องการ LIVE ขายของได้มูลค่าเยอะแบบนี้ในประเทศไทยอาจจะเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น แต่ในต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน มียอดขายจากการ LIVE เช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง
แต่ประเด็นที่สำคัญที่ผมอยากจะชวนคุย ไม่ได้การ LIVE ขายได้ 100 ล้านบาท... แต่เป็นการ LIVE ขายกล่องสุ่ม ได้ 100 ล้าน
เรื่องเล่า การตลาดพฤติกรรม
หลายคนคงตั้งข้อสงสัยเหมือนผม ว่าถ้าต้องการ LIVE ขายของให้ได้ 100 ล้านบาท เราต้องขายของทั้งหมดกี่ชิ้น ในเวลา 1-2 ชั่วโมง ??
มาชวนคิดกันนะครับ ถ้าเราขายสินค้าราคา 1,000 บาท เราต้องขายให้ได้ 100,000 ชิ้นในเวลา 2 ชั่วโมง (1 ชั่วโมงกับ 50,000 ชิ้น คิดเป็นนาทีละ 800+ ชิ้น !!!)
ถ้าเราขายสินค้าราคา 500 บาท (ซึ่งถือว่าเป็นราคาทั่วไปที่คนมักจะซื้อทาง LIVE เพราะคิดว่าไม่แพงจนเกินไป) เราต้องขายให้ได้ 200,000 ชิ้นในเวลา 2 ชั่วโมง
ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก และน่าจะต้องใช้เทคนิคพิเศษในการพูดขั้นเทพของเทพ ถึงจะขายได้เช่นนี้
แต่เคสของแม่ค้าออนไลน์ชั้นซูเปอร์เทพท่านนี้ ขายสินค้าราคา 100,000 บาท จำนวนแค่ 100 ชิ้น ในเวลา 10 นาที !!!
ภาพจาก https://www.dailynews.co.th/
แล้วสินค้าอะไรที่ เค้าขายและมีคนซื้อถึง 100 คนในเวลา 10 นาที ทั้งๆที่เราต้องจ่ายเงินมากถึง 100,000 บาท
คำตอบคือ "กล่องสุ่ม" ครับ
กล่องสุ่ม คืออะไร ?
กล่องสุ่ม ในต่างประเทศ มีมานานแล้วครับ เริ่มต้นจากการที่พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์อยากมี Gimmick Surprise ให้กับลูกค้าของตน เลยทำเป็นสินค้าแจก แถม ให้กับลูกค้าเก่าของร้าน โดยแต่ละคนจะได้รับสินค้าไม่เหมือนกัน
ซึ่งเป็นที่นิยมและต้องการของหมู่ลูกค้ามาก เพราะเป็นอะไรที่น่าตื่นตา ตื่นใจ จนพัฒนาออกมาเป็นสินค้าจำหน่าย ในรูปแบบ Subscriptions หรือการสมัครสมาชิก (จ่ายเงินรายเดือน)
ลุกค้าจะได้รับสินค้าหลักของร้าน และมีของแถม ของตกแต่ง มาแต่ละเดือนที่แตกต่างกัน และไม่ซ้ำกัน
โดย Package จะแบ่งเป็น 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี
ภาพจาก https://www.cratejoy.com/
แต่ในประเทศไทย กล่องสุ่ม อาจจะยังเข้ามาไม่นานเท่าไหร่ แต่เป็นที่นิยมกันอย่างมากในหมู่ นักช็อปออนไลน์เลย ตัวอย่างเช่น สินค้ามือสองจากประเทศญี่ปุ่น ที่เจ้าใหญ่จะทำการเหมาเล้ง การประมุลจากประเทศญี่ปุ่นและนำเข้ามาขายเป็นสินค้ามือสองในไทย
วิธีการคือ จะขนมาทั้งหมดเป็น Container และแบ่งใส่ลังขนาดใหญ่ โดยไม่ระบุว่าสินค้าข้างในเป็นอะไร แต่รู้ว่าเป็นสินค้ามือสอง ที่โล๊ะมาจากประเทศญี่ปุ่น อาจมีตั้งสินค้ามือสอง แต่ไม่ผ่านการใช้งานมาเลย หรืออาจะเป็นสินค้ามือสอง ที่ใช้งานไม่ได้แล้วก็ได้
ความสนุก คือ เราจะไม่รู้เลยว่าสินค้าที่เราจะได้เป็นอะไร จนกว่าจะมีการแกะกล่อง เอาสินค้าออกมา
ความสนุกแบบนี้แหล่ะครับ ที่ทำให้ กล่องสุ่ม เป็นสินค้าที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ
เราลองนึกย้อนกลับไปตอนเด็กๆ วันที่เราเฝ้ารอคอยเป็นที่สุดคือ วันเกิด และวันคริสมาส เพราะมันจะเป็นวันที่เราจะได้ของขวัญพิเศษ และเราจะเฝ้ารอวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อ และตั้งตารอว่าของขวัญพิเศษ ที่เราจะได้คืออะไร
ภาพจาก https://promotions.co.th/
ที่นี้เราก็มาเข้าเรื่องของเรากันนะครับ ทำไมเราถึงตั้งตารอ เปิดดูของขวัญพิเศษนั้น ??
ทางจิตวิทยาพฤติกรรม เราเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่า "Pandora Effect" หรือผลลัพธ์ของกล่อง Pandora หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือ "เหตุผลของความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์"
เรื่องราวมีอยู่ว่า นางแพนโดร่าเป็นมนุษย์ผู้หญิงคนแรกของโลกที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือของเทพทั้งห้า ได้แก่ ฮีฟิสตัส (Hephaestus) ผู้ปั้นรูปมนุษย์เลียนแบบเทพเจ้าเพศหญิง, อาเธนา (Athena) ผู้ประทานพรให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด, อโฟรไดท์ (Aphrodite) ผู้ประทานพรให้มีความงามและเสน่ห์, เฮร์มิส (Hermes) ผู้ประทานชีวิตจิตใจ และซูส (Zeus) ผู้ประทานความอยากรู้ อยากเห็น
เพื่อแก้แค้นโพรมีเทียส (Prometheus) ที่ขโมยไฟจากยอดเขาโอลิมปัสไปให้เป็นของขวัญแก่มนุษย์บนโลก
ภาพจาก https://lifestyle.campus-star.com/
แต่การแก้แค้นที่แท้จริงของเทพซูสที่แท้จริงคือการส่งกล่องบรรจุความเสียหายต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
นางแพนโดร่าซึ่งไม่รู้ว่าข้างในกล่องมีอะไร แต่ได้รับกล่องใบนั้นไว้ พร้อมกับคำสั่งจากซูสว่า
" ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเปิดกล่องนี้ดูอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นมนุษยชาติจะต้องประสบภัยพิบัติใหญ่หลวง"
แต่ด้วยความอยากรู้ อยากเห็นของนางแพนโดร่า วันหนึ่งเธอจึงแอบเปิดกล่องดูว่าข้างในมีอะไรกันแน่ ทำไมถึงห้ามเปิด
สุดท้ายความหายนะ ความเลวร้ายทั้งหลายที่เทพซูส กักขังไว้ จึงถูกปล่อยออกมาสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับโลกมนุษย์
เรื่องราวของแพนโดรานี่แหล่ะครับ ทำให้เรารู้ว่า ความอยากรู้ อยากเห็น (Curiosity) ของมนุษย์เป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างไม่สิ้นสุด
ฉะนั้นนี่แหล่ะครับ ที่ทำให้ "กล่องสุ่ม" เป็นเสมือนกล่องแพนโดร่า ที่คนเราอยากรู้ อยากเห็นว่าข้างในมันคืออะไร
ส่วนจะมีเหตุร้าย หรือเหตุดี ในกล่องสุ่ม อันนี้เราก็ไม่คาดได้ แต่สิ่งที่คาดหวังได้คือ ความน่าสนใจมันน่าดึงดูดมากกว่า เงินที่เราจะต้องเสียไป
นักการตลาดพฤติกรรม ลองเอา Pandora Effect มาใช้ในการทำการตลาดจะทำให้ แคมเปญการตลาดของเรา น่าติดตาม และน่าสนใจมากขึ้น จนเกิด Talk of the Town แบบ LIVE ร้อยล้าน ก็เป็นได้นะครับ
ใครชื่นชอบการตลาดออนไลน์ แนวคิด วิเคราะห์ อยากแนะนำให้มาติดตามกันครับ
เรืองเล่า "จารย์มหาลัย เล่าเรื่อง" ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ในการเป็นอาจารย์ด้านการตลาดในมุมมองต่างๆ ทาง Blockdit
"เรื่องเล่า การตลาดพฤติกรรม"
ที่อ.โหน่ง อยากมาแชร์ความคิด จิตวิทยามนุษย์ที่เกือบทุกคนตกหลุมพราง และเป็นเหยี่อของการตลาดบนโลกนี้
สอนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ฟรีๆ
ติดตามเรื่องราวดีๆ/บทความด้านการตลาดออนไลน์ ฟรีๆ ได้ที่
พูดคุยกันได้ที่ Line ID : https://lin.ee/ff6B0e0
อ.โหน่ง อลงกรณ์ - พี่เลี้ยงการตลาดออนไลน์
ปล. อย่าลืม Add Line ID: https://lin.ee/ff6B0e0
เพื่อรับข่าวสารประชาสัมพันธ์นะคร้าบ
#MarketingCuisine #พี่เลี้ยงการตลาดออนไลน์ #ปรุงการตลาดออนไลน์
#อโหน่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา