[Bnomics] คิม แด จุง อดีตผู้นำเกาหลีใต้ ผู้จุดประกาย Soft Power Blockdit Orginals by Bnomics เกาหลีใต้ ประเทศแห่ง Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล และส่งออกวัฒนธรรมไปทั่วโลกจนประสบความสำเร็จอย่างถล่ม

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

24 เม.ย. 2022 เวลา 12:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ

คิม แด จุง อดีตผู้นำเกาหลีใต้ ผู้จุดประกาย Soft Power Blockdit Orginals by Bnomics

เกาหลีใต้ ประเทศแห่ง Soft Power ที่สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล และส่งออกวัฒนธรรมไปทั่วโลกจนประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักภาพยนตร์ดีกรีรางวัล Oscar อย่าง Parasite ปรากฏการณ์ซีรีส์ Squid Game และวงบอยแบนด์ระดับโลกอย่าง BTS

แต่ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากกำลังสำคัญอย่าง ภาครัฐ

และผู้ที่ริเริ่มผลักดัน Soft Power ของเกาหลีใต้ก็คือ รัฐบาลภายใต้การนำของ ประธานาธิบดี คิม แด จุง

📌 ชีวิตวัยเด็กของ ประธานาธิบดี คิม แด จุง

คุณ คิม แด จุง เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ.1924 ที่จังหวัดช็อลลาใต้

ในครอบครัวชนชั้นกลางที่ประกอบอาชีพเป็นชาวนา

และด้วยความที่คุณคิมเป็นเด็กหัวดี เรียนเก่ง ทำให้เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนพาณิชย์ม็อกโปด้วยคะแนนลำดับต้น ๆ ของชั้นเรียน

ภายหลังจากที่จบการศึกษาในปี 1943 คุณคิมก็ได้เข้าทำงานเป็นเสมียนที่ในบริษัทขนส่งทางเรือของญี่ปุ่น ซึ่งช่วงนั้นเกาหลียังถูกปกครองโดยญี่ปุ่นอยู่

อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถคุณคิม ก็ได้ทำให้เขาไต่เต้าขึ้นมาจนสามารถครอบครองกิจการได้สำเร็จและกลายเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยในที่สุด

หลังจากที่คุณคิม กลายเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยแล้วนั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น นั่นก็คือ สงครามเกาหลี ทำให้คุณคิม ถูกกลุ่ม คอมมิวนิสต์ จับไปเป็นตัวประกัน และหวังจะฆ่าเขาให้ตาย แต่คุณคิมก็สามารถหนีรอดออกมาได้

📌 เส้นทางการเมือง และ การลอบสังหาร

ในช่วงทศวรรษ 1950s คุณคิม เข้าสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการเป็นนักกิจกรรม เพื่อประชาธิปไตย

และต่อมาในปี 1961 คุณคิม ก็ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังจากการพยายามในการลงสมัครเลือกตั้งถึง 5 ครั้ง

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งในครั้งนั้นก็ต้องเป็นโมฆะ เมื่อเกาหลีใต้ถูกรัฐประหารด้วยการนำของ นายพล พัก จ็อง ฮี

ด้วยความที่คุณคิมเป็นผู้มีความสามารถด้านวาทศิลป์ และวิจารณ์นโยบายของนายพลพักเสมอ ทำให้ในเวลาต่อมาคุณคิมก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานของพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี และลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ คุณพัก แต่คุณคิมก็แพ้ในการลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการทำงานการเมืองนั้น คิม แด จุง ต้องเผชิญกับการคุกคามอย่างร้ายแรงจากรัฐบาลเผด็จการทหารทั้งในสมัยของ พัก จ็อง ฮี และสมัยของ ช็อน ดู ฮวัน ซึ่งเขาถูกคุกคามที่หมายเอาชีวิตหลายครั้ง ทั้งการลักพาตัว ลอบสังหาร และต้องโทษประหารชีวิต

ต่อมาในปี 1973 คุณคิม ถูกลักพาตัวจากโรงแรมในโตเกียวโดยตัวแทนจากสำนักข่าวกรองกลางของเกาหลีและถูกส่งตัวกลับประเทศเกาหลีใต้ จากการที่เขาวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญยูชิน ที่ให้อำนาจทั้งหมดกับนายพลพัก จ็อง ฮี โดยการลักพาตัวในครั้งนั้น ได้หมายเอาชีวิตคุณ คิม แต่เขาก็รอดมาได้อีกครั้ง

ปี 1980 คุณ คิมก็ถูกจับกุมอีกครั้งภายใต้กฎอัยการศึก จากคำสั่งของนายพลช็อน ดู ฮวัน ที่มุ่งเอาผิดเขาในโทษฐานการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในจังหวัดกวางจู

ผลจากความผิดในฐานเรียกร้องประชาธิปไตย คุณ คิมถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เนื่องจากการกดดันจากนานาชาติ ทำให้นายพล ช็อน ดู ฮวัน เปลี่ยนจากโทษประหารชีวิตเหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต และลดเหลือจำคุก 20 ปี

ทว่าในปี 1982 โทษจำคุกก็ถูกระงับไว้เนื่องจากเขาได้ออกเดินทางไปรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา แต่การไปในครั้งนั้นไม่ได้ไปเพื่อการรักษาตัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการลี้ภัยทางการเมืองอีกด้วย

หลังจากนั้นเพียง 3 ปี คุณ คิม ก็ได้เดินทางกลับมายังเกาหลีใต้ และเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

แต่ก็ต้องแพ้การเลือกตั้งอีกครั้ง จนในปี 1995 คุณ คิม ได้ตัดสินใจไปตั้งพรรคการเมืองของตัวเอง และชนะการเลือกตั้งในปี 1997 ในที่สุด

📌 การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี กับ การผลักดัน Soft Power ให้เป็นแหล่งพัฒนาเศรษฐกิจใหม่แห่งเกาหลีใต้

ในช่วงที่คุณ คิม แด จุง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ก็เป็นช่วงเดียวกันกับที่กำลังเกิดวิกฤติการเงินในทวีปเอเชีย หรือ ที่คนเกาหลีเรียกว่า วิกฤติ IMF

หลังจากที่ทำให้เกาหลีใต้ได้เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก ในปี 1997 เกาหลีใต้จึงได้นำวัฒนธรรมมาเป็นสื่อหลักในการพัฒนาภาพลักษณ์ประเทศ

โดยกระแสของ "Korean wave" หรือ "Hallyu" ได้เริ่มเกิดขึ้นภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีคิม แด จุงที่เขาได้เรียกตัวเองว่า “ประธานาธิบดีแห่งวัฒนธรรม” ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งระหว่างปี 1998-2003

โดยคุณคิม ประธานาธิบดี คิม แด จุง ได้ผลักดันแผนนโยบายฟื้นฟูวัฒนธรรม ‘Hallyu Industry Support Development Plan’

ซึ่งใช้วัฒนธรรมเกาหลี ความเป็นเกาหลีควบคู่ไปกับการสร้างภาพลักษณ์ประเทศ สินค้า และบริการเกาหลี

มุ่งเป้าไปที่การส่งออกวัฒนธรรมสื่อที่ได้รับความนิยมเป็นความคิดริเริ่มทางเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของต่างประเทศที่สำคัญต่อการอยู่รอดทางเศรษฐกิจของประเทศและความก้าวหน้า

ซึ่ง รัฐบาลคิม แด จุงกำหนดได้เป็นเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปี อุตสาหกรรมวัฒนธรรมจะมีมูลค่า 9.8 ล้านล้านบาท มากกว่ามูลค่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่มีมูลค่าปีหนึ่ง 9.4 ล้านล้านบาท และรัฐบาลยังเพิ่มงบประมาณให้แก่อุตสาหกรรมวัฒนธรรม จาก 472 ล้านบาทในปี 1998 เป็น 2,831 ล้านบาทในปี 2001

นอกจากจะส่งเสริมด้านวัฒนธรรมแล้ว ประธานาธิบดี คิม แด จุง ยังคลายการห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อการล่าอาณานิคมของญี่ปุ่นในเกาหลีในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 มังงะเรื่องแรกได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาในปีถัดไป

ซึ่งโมเดลที่ รัฐบาลใช้ในการส่งเสริมวัฒธรรมก็คือ การจับมือกับภาคเอกชนในการส่งเสริมการเพิ่มการผลิตสินค้าวัฒนธรรม โดย กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวได้พัฒนาแผนธุรกิจ สำหรับตลาดต่างประเทศ ให้กับการส่งออกละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และเพลง รวมทั้งการให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการ และการฝึกฝนแก่ศิลปิน

หนึ่งในผลผลิตที่สำคัญจากการผลักดันของรัฐบาลก็คือ ละครโทรทัศน์ Winter Sonata หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ เพลงรักในสายลมหนาว ที่ออกอากาศในปี 2002 ได้กลายเป็นซีรีส์เกาหลี ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในหลากหลายประเทศ

การริเริ่มของ คิม แด จุง และ การดำเนินนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ของรัฐบาลต่อ ๆ มาก็ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจมหาศาลแก่เกาหลีใต้ โดยในปี 2020 เกาหลีใต้มีรายได้จากอุตสาหกรรมวัฒนธรรมอยู่ที่ 3.6 ล้านล้านบาท และกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จจากการส่งออกวัฒนธรรมไปทั่วโลก