26 เม.ย. 2022 เวลา 13:00 • หนังสือ
O-R-E-O พิมพ์เขียวสู่ความสำเร็จด้วยปลายปากกา
เชื่อไหมครับว่าการเขียนนั้นเป็นรากฐานของทักษะต่างๆ ศาสตราจารย์ Nancy Sommers ผู้สอนวิชาการเขียนของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้กล่าวว่า “ฮาร์วาร์ดจัดการเรียนการสอนวิชาการเขียนเพื่อสร้างบุคลากรที่คิดอย่างมีตรรกะ และเป็นสิ่งที่จำเป็นมากต่อทุกวงการ” เพราะฉะนั้นการจะดูว่าใครเก่งแค่ไหน ให้ดูว่าเขาเขียนเก่งแค่ไหนครับ
จากหนังสือ “ศาสตร์แห่งการเขียนที่โน้มน้าวใจได้ทุกคน” ของคุณ ซง ซุกฮี ได้อธิบายไว้ว่า การเขียนที่ดีต้องมีตรรกะและมีเป้าหมายที่ชัดเจน การเขียนอย่างมีตรรกะคือการไม่นำมุมมองส่วนตัวของเราเพียงคนเดียวมาเขียน มีเหตุผลและหลักฐานที่สนับสนุนอย่างชัดเจน และแต่ละย่อหน้าควรเชื่อมกันอย่างมีเหตุมีผล ส่วนเป้าหมายที่ชัดเจนคือ เมื่อผู้อ่านอ่านจบ เขาต้องรู้ว่างานเขียนนี้แนะนำให้ทำอะไร ถ้างานเขียนนั้นนำเสนอถึงปัญหา ผู้อ่านก็ต้องได้วิธีแก้ปัญหาจากงานเขียนนั้นเช่นกัน
โดยหลักการทั้งหมดนั้นสามารถแก้ได้ด้วยการเขียนตามรูปแบบ OREO
O - Opinion
เป็นการสรุปประเด็นของงานเขียนของเราว่าเราจะเขียนเกี่ยวกับสิ่งใดหรือนำเสนอถึงปัญหาใด ถือว่าเป็นแก่นของงานเขียนของเราเลยครับ ส่วนต่างๆหลังจากนี้จะอิงกับ Opinion เพราะฉะนั้นก่อนจะเริ่มงานเขียนเราต้องรู้ก่อนว่า เราจะเขียนให้ใครอ่าน อยากสื่อสารอะไรกับผู้อ่าน และอยากให้ผู้อ่านเกิดปฏิกิริยาอย่างไร
R - Reason
เป็นเหตุผลที่สนับสนุนประเด็นข้างต้น ต้องมีความเป็นเหตุเป็นผล มีหลักฐาน มีตรรกะที่ชัดเจน และมีความน่าเชื่อถือ ผู้คนชอบงานเขียนที่มีหลักฐานที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ หนังสือ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง
E - Example
เป็นตัวอย่างของงานเขียนเพื่ออธิบายเรื่องราวให้เห็นภาพ อาจจะเป็นข้อมูลสถิติ กลุ่มทดลอง หรือผู้ที่เล่าถึงประสบการณ์จริง ตัวอย่างเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อใจผู้อ่านอย่างมาก
O - Opinion/Offer
เป็นการเน้นย้ำถึงความคิดเห็นของเราอีกรอบเพื่อเรียกความจำของผู้อ่าน และสามารถยื่นข้อเสนอเพื่อให้ผู้อ่านคล้อยตาม โดยมีโครงสร้าง “ถ้า…ละก็ จง…”
นี่ก็เป็นโครงสร้างงานเขียนคร่าวๆที่สามารถไปประยุกต์ได้กับทุกงานเขียนไม่ว่าจะเป็นความเรียง วิทยานิพนธ์ บทความ การนำเสนอธุรกิจ
งานเขียนที่ประกอบไปด้วย 4 ส่วนนี้จะทำให้มีการเชื่อมโยงกันอย่างมีตรรกะ นำเสนอได้ทั้งปัญหา เหตุผล และทางแก้ เหมาะสำหรับยุคเร่งรีบในปัจจุบันที่เพียงแค่อ่านข้อความไม่กี่นาทีก็ต้องตัดสินใจได้แล้ว
ขั้นตอนแรกนั้นเราต้องเขียน OREO ให้อยู่ในรูปแบบ 4 ประโยค ตัวอย่างเช่น
Opinion: "การเขียนด้วยรูปแบบ OREO เป็นพิมพ์เขียวแห่งความสำเร็จ"
Reason: "เพราะว่าเป็นรูปแบบที่อ้างอิงจากมหาลัยชั้นนำอย่าง MIT และฮาร์วาร์ด"
Example: "แก่นเนื้อหาของจดหมายที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เขียนให้แก่ผู้ถือหุ้นก็มีลักษณะเหมือน OREO เช่นกัน"
Opinion/Offer: "ถ้าอยากพัฒนาการเขียนเพื่อความสำเร็จละก็ ลองฝึกเขียนด้วยรูปแบบ OREO ดูสิครับ"
เมื่อเขียนได้ทั้ง 4 ประโยค เราก็จะได้ใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า สามารถเพิ่มเติมเนื้อหาเข้าไปโดยยึดใจความสำคัญเป็นหลัก ทีนี้เนื้อหาของเราก็จะมีตรรกะ มีความชัดเจน และเยื่อมโยงกับย่อหน้าอื่นๆได้ดียิ่งขึ้นแล้วครับ
หลักการต่อมาคือการดึงดูดผู้อ่าน ถึงแม้งานเขียนเราจะดีขนาดไหนแต่ถ้าไม่มีคนเข้ามาอ่านก็เท่านั้นใช่ไหมครับ คุณซง ซุกฮีได้บอกว่า ในยุคที่ชีวิตมีความเร่งรีบ ผู้คนจะมีสมาธิน้อยลง โดยคนเราจะใช้เวลาตัดสินใจว่าจะอ่านหรือไม่อ่าน 0.3 วินาที ใช้เวลาอ่านเบื้องต้น 4.4 วินาที และจดจ่อกับการอ่านจนจบ 180 วินาที
ตัดสินใจว่าจะอ่านหรือไม่: สิ่งนี้จะตัดสินกันด้วยชื่อเรื่องครับ เราสามารถเลือกชื่อเรื่องจาก OREO ทั้ง 4 ประโยคมาตั้งได้ โดยเราก็จะเลือกว่าอยากให้ชื่อเรื่องเป็นประเด็นของงานเขียน(Opinion) เหตุผลหรือหลักฐาน(Reason) ตัวอย่างจากแหล่งต่างๆ(Example) หรือข้อเสนอ(Opinion/Offer)
อ่านเบื้องต้น: สิ่งนี้จะตัดสินด้วยบทนำครับ อย่างที่ได้กล่าวไป ถ้าเราเขียนงานด้วยหลัก OREO นั้น Opinion ก็จะเป็นบทนำที่มีประสิทธิภาพแล้วครับ
จดจ่อกับการอ่านจนจบ: สิ่งนี้จะตัดสินด้วยเนื้อหาทั้งหมดที่เหลือ โดยงานเขียนควรมีข้อความประมาณ 1500 คำ ซึ่งจะสามารถอ่านจบได้ภายใน 180 วินาที เป็นระยะเวลาที่สมาธิของคนส่วนใหญ่รับได้ การเขียนด้วยจำนวนคำที่เหมาะสมและมีการเชื่อมย่อหน้าด้วย OREO อย่างเป็นเหตุเป็นผล การทำให้ผู้อ่านอ่านจนจบก็จะไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดครับ
ก็จบไปแล้วครับกับเทคนิค OREO ถ้าทุกคนสนใจอยากศึกษาเพิ่มเติม “ศาสตร์แห่งการเขียนที่โน้มน้าวใจได้ทุกคน” ที่เขียนโดยคุณ ซง ซุกฮี หนังสือเล่มนี้ช่วยคุณได้ครับ ก่อนที่จะฝึกการเขียนให้เชี่ยวชาญ แน่นอนว่าควรจะมีพิมพ์เขียวที่สอนถึงโครงสร้างในการเขียนเบื้องต้น OREO เป็นพิมพ์เขียวที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เมื่อฝึกฝนและลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าทุกคนจะสามารถเขียนงานเขียนที่ดี โน้มน้าวผู้คนได้ดั่งใจอย่างแน่นอนครับ!
โฆษณา