5 พ.ค. 2022 เวลา 11:00 • หนังสือ
สุภาษิตอังกฤษโบราณกล่าวไว้ว่า
“Nothing ventured, nothing gained.”
“ถ้าเราไม่เสี่ยง เราก็จะไม่ได้รับอะไร”
หรืออาจจะคล้ายกับคำว่า “ไม่ลอง ไม่รู้” ถ้าไม่ลองเลย ก็ไม่มีทางรู้ผลได้เลย
ถ้าไม่ลอง ก็ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้มีประสบการณ์ใหม่ ๆ
ไม่กล้าออกจาก Comfort zone ก็คงเติบโตไม่ได้
1
ถ้าเราไม่มีประสบการณ์ใหม่ เราก็จะไม่ได้รับมุมมองใหม่ และสิ่งนี้ยังคงเป็นจริงจนถึงทุกวันนี้
ตั้งแต่ลูกเรือโบราณที่กล้าเสี่ยงฝ่าฟันท้องทะเลอันกว้างใหญ่ และความไม่แน่นอน
เพื่อสำรวจดินแดนใหม่ ๆ จนไปถึงผู้ประกอบการดิจิทัลยุคใหม่ที่ออกเดินทางฝ่าฟันโลกออนไลน์
อันกว้างใหญ่ และเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และโลกยังคงให้รางวัลแก่ผู้กล้าทั้งหลายเหล่านั้น
เพราะพวกเขาเป็นคนส่วนน้อยที่กล้าเผชิญหน้าต่อสิ่งที่คนอื่นพยายามหลีกเลี่ยง
พวกเขาเป็นคนที่พร้อมจะยอมรับกับความรู้สึกที่น่าอึดอัด
และพร้อมที่จะโอบกอดกับความท้าทายที่เข้ามา
กระบวนการเหล่านั้นทำให้พวกแข็งแกร่ง และเติบโตขึ้น
ทุกคนอยากที่จะเติบโตกันทั้งนั้น แต่ส่วนหนึ่งในตัวเราก็ไม่อยากให้เราไปเสี่ยงกับภัยอันตรายใหม่ ๆ
3 เทคนิคก้าวออกจาก Comfort zone
1. เป้าหมายต้องสร้างแรงบรรดาลใจ
เคยไหมครับกับการตั้งเป้าหมายว่า เราต้องรวยขึ้น มีหุ่นที่ดีขึ้น อ่านหนังสือได้มากขึ้น
แต่กลับไม่ได้สร้างแรงบรรดาลใจให้ลงมือทำเราเลย
อย่างนี้ตั้งก็เหมือนไม่ได้ตั้ง ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเดิม
เป้าหมายที่ดีนั้นจะให้แรงบรรดาลใจแก่เรา ช่วยให้เราอยากเคลื่อนไปข้างหน้า
“ถ้าไม่มีไฟอยู่ใต้ที่นั่งของเรา เราจะคาดหวังให้ตัวเองลุกขึ้นและเริ่มวิ่งได้อย่างไร?”
การทำงานพิเศษเพื่อหารายได้ เพื่อมาดูแลแม่ที่กำลังป่วย
หรือการวางแผนไปใช้ชีวิตต่างประเทศ 1 ปีเพื่อฝึกภาษา และหาประสบการณ์ชีวิต
หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราตื่นเต้น และกระตุ้นเราทุกครั้งที่นึกถึงมัน
2. เปลี่ยน “ความกลัว” เป็น “ความตื่นเต้น”
เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว ต่อมาคือเราจำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ทำในสิ่งใหม่ หาประสบการณ์ใหม่
และในจุดนี้ความกลัวจะเกิดขึ้น กลัวในการทำสิ่งใหม่ กลัวในสิ่งที่เราไม่คตุ้นเคย
ความกลัวในความไม่แน่นอน ความกลัวในความล้มเหลว ความกลัวในสิ่งที่เราไม่รู้
ในหนังสือ The Originals ของอดัม แกรนท์ได้กล่าวถึงการศึกษาที่ Harvard Business School
ซึ่งศาสตราจารย์ Alison Brooks ขอให้นักเรียนกล่าวสุนทรพจน์โน้มน้าวใจต่อหน้าคณะกรรมการตัดสิน
ด้วยการเตรียมตัวเพียงสองนาทีเท่านั้น ซึ่งนักเรียนหลายคนมีอาการสั่นอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นเพื่อช่วยพวกเขาจัดการกับความกลัว ศาสตราจารย์จึงขอให้นักเรียนพูดออกมาดังๆ
สามคำก่อนจะกล่าวสุนทรพจน์ โดยการสุ่มให้พวกเขาพูดคำว่า
“ฉันสงบ (I am calm)” และ “ฉันตื่นเต้น (I am excited)”
ผลลัพธ์ที่ได้คือ “เมื่อนักเรียนเชื่อว่าอารมณ์ของตนเองคือความตื่นเต้น สุนทรพจน์ของพวกเขาได้รับการจัดอันดับว่ามีความโน้มน้าวใจได้มากกว่า 17 เปอร์เซ็น และมั่นใจมากกว่านักเรียนที่พูดออกมาว่าฉันสงบ 15 เปอร์เซ็น รวมทั่งการปรับความกลัวใหม่เป็นความตื่นเต้นกระตุ้นให้ผู้พูดเพิ่มความยาวเฉลี่ยของสุนทรพจน์ได้ถึง 29 เปอร์เซ็นต์”
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าต่อจากนี้ในเวลาที่เรารู้สึกกลัวหรือวิตกกังวล
เราลองเปลี่ยนใหม่เป็นเรากำลังรู้สึก ”ตื่นเต้น” ในสิ่งนี้ เช่น
เราตื่นเต้นจะพูดในที่สาธารณะ เราตื่นเต้นที่จะทำงานใหม่ เราตื่นเต้นที่จะได้ไปต่างประเทศ
พลังงานของความเครียดจะเปลี่ยนไป กลายเป็นความท้าทาย และช่วยให้เรากล้าลงมือทำได้มากขึ้น
3. ออกเดินทางทันที
กะลาสีเรือออกเดินเรือด้วยความเชื่อตามเป้าหมายที่ได้สร้างแรงบรรดาลใจให้กับเขา
และด้วยความตื่นเต้นที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ สิ่งสุดท้ายที่จำเป็นก็คืนการเริ่มออกเดินทาง
ลงมือทำขณะที่ยังมีพลังอยู่ ยังมีความตื่นเต้นที่จะทำ ยิ่งปล่อยไว้นานเรือก็ยิ่งเก่า สนิมขึ้น ฝุ่นจับ
แรงบรรดาลใจก็เช่นกัน ถ้ามัวแต่นั้งคิด วางแผนเพราะกลัวความผิดพลาด อาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อย
จากความตื่นเต้นอาจกลายเป็นความวิตกกังวล กลัวจะล้มเหลว ก็คงไม่ได้ออกเดินทางสักที
ทำใจให้เหมือนกับนักสำรวจ เตรียมใจรับมือกับความไม่แน่นอน ความท้าทายทุกอย่างที่เข้ามา
“ แล้วเริ่มออกเดินทางทันที “
การที่เราจะเติมโตในแบบที่เราต้องการนั้น ต้องใช้ทักษะ นิสัย ความรู้ และประสบการณ์ใหม่ ๆ
การจะเติบโตจากที่ที่เราอยู่ไปยังที่ที่เราอยากเป็น แน่นอนเราต้องทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน
เราต้องเต็มใจที่จะรู้สึกไม่สบายใจ และความจริงก็คือเราต้องไม่เพียงแค่โอเคกับความรู้สึกไม่สบายเท่านั้น แต่เราต้องตกหลุมรักกับมันเลยทีเดียว เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนดั่งพายุที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทร เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
เราทำได้เพียงแค่ยอมรับว่ามันมีอยู่ และเตรียมพร้อมรับมือกับมันให้ดีที่สุดก็พอ
สุดท้ายนะครับอยากจะฝากเพื่อน ๆ ไว้ว่า
“เรือเล็กควรออกจากฝั่ง แต่ถ้าเรือพังต้องเอาไปซ่อมก่อนนะครับ” (หยอกครับ ๆ)
1
“Do you want to take a leap of faith or become
an old man filled with regret waiting to die alone”
- Saito (Inception)
“อยากจะกระโจนไปด้วยศรัทธาหรือกลายเป็นชายชราที่เต็มไปด้วยความเสียดาย
และรอความตายเพียงลำพัง”
1
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักเดินทางทั้งหลายนะครับ
อยากรู้เวลาที่ติดอยู่ใน Comfort zone เพื่อน ๆ เป็นยังไงกันบ้าง
แล้วใช้วิธีไหนในการออกจาก Comfort zone กันบ้างครับ
เรามาเกลาไปด้วยกันนะครับ
Writer : KANIN
#เกลานิสัยอันตราย
#comfortzone

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา