9 พ.ค. 2022 เวลา 13:50 • การศึกษา
16 เรื่องเล่าของ ดิลโด้
แท่งมหัศจรรย์ แห่งมวลมนุษยชาติ
การขุดคุย หลักฐานทางโบราณคดี สามารถไขปริศนาของมนุษย์เมื่อครั้งอดีต รวมไปถึงโบราณวัตถุคล้ายดิลโด้ ที่ถูกฝังมาอย่างยาวนาน ศาสตราแขนงนี้มีความเป็นมา และน่าค้นหาอย่างไร เราจะย่อไว้แบบที่เข้าใจง่าย ใน 16 ข้อ ต่อไปนี้
1
1 แรกเริ่มเดิมทีเลย ดิลโด้ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อทดแทนไอ้จ้อนเท่านั้น นักประดิษฐ์รุ่นก่อนจึงออกแบบรูปลักษณ์ ให้มีความคล้ายคลึงกับ"ไอ้จ้อน" มากที่สุด ยกเว้นก็แต่ขนาด ที่จะเล็กหรือใหญ่ ตามแต่ผู้นางต้องการ
2 ตรงข้ามกับดิลโด้ในปัจจุบัน ที่ไม่จำเป็นต้องมีรูปลักษณ์เหมือน"ไอ้จ้อน" เหตุผลก็เพราะสาวสมัยใหม่ ในบางกรณีอาจไม่ต้องเป็นหญิงแท้ก็ได้ ต้องการใช้เพื่อผ่อนคลาย บิ้วท์ความรู้สึกด้วยตนเองเท่านั้น นอกจากนี้พวกเธอบางกลุ่มยังมองว่า หากมีรูปร่างเหมือนไอ้จ้อน มันเหมือนเป็นการกดขี่ทางเพศ
1
3 สุดท้ายก็เป็นที่มาของดิลโด้สมัยใหม่ ที่ไม่จำเป็นจะต้องอิงหลักกายวิภาค ไม่เแปลกเลยในที่ปัจจุบันอุปกรณ์ชนิดนี้ จะมีความต่างไป บ้างก็เป็นแท่งยางยาว ๆ หรือบ้างก็คล้ายปลาโลมา ที่มีครีบวิเศษ ซึ่งครีบที่ว่า ไม่ได้ใช้ว่ายน้ำแน่นอน
4 ความหลากหลายของดิลโด้ ที่พัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ใช้ ไม่จำเป็นจะต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์เก่า ๆ ต่อไป เพราะมันมีทั้งแบบคู่ หมายถึงมีปลายสองด้าน เพื่อใช้ระหว่างคนสองคน รวมไปถึงแบบแฝด ที่ใช้ร่วมกับเวจมรรค
5 กล่าวมาถึงขนาดนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า มันเป็นเรื่องวิปริต ผิดธรรมชาติ บ้าบอดีแท้ แต่เปล่าเลยครับ เรื่องเหล่านี้ มีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่สามารถยืนยันได้จากหลักฐานกองมหึมา ท่วมกรุงโตเกียวได้ทีเดียว
6 อย่างที่เรารู้กันก็คือ เมื่อมีการขุดค้น หรือค้นพบโบราณวัตถุใดๆ สิ่งที่จะนำมาเผยแพร่ ก็มีเพียง หม้อไห ขวานหิน หรือไม่ก็ปลายหอกเท่านั้น ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ เพราะคงจะไม่เหมาะซักเท่าไหร่ กับการจะป่าวประกาศถึง วัตถุสีทึม ๆ เทา ๆ ที่เราเรียกว่า ดิลโด้ ให้โลกรู้
7 ยกตัวอย่างการค้นพบที่ประเทศเปรู เมื่อนักโบราณคดีค้นพบรูปผู้ชาย ในอริยาบทอันกระทำต่อเพศชายด้วยกัน มันถูกเขียนไว้บนเครื่องปั้นดินเผา คาดว่าน่าจะมีอายุราวห้าร้อยปีก่อนคริสตกาล หลักฐานประเภทนี้ จะถูกเก็บไว้ในชั้นใต้ดินของพิพิธภัณฑ์อย่างมิดชิด
8 เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการไม่เห็นคุณค่า หรือต้องการปกปิดเป็นท็อปซีเคร็ทแต่อย่างใด แต่มันคงไม่เป็นการเหมาะสม หากจะจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ ที่มีเหล่าประชาชน นักศึกษา นักเรียนคอยแวะเวียนไปเยี่ยม ผู้ให้ความรู้ก็คงรู้สึกมึน ๆ เล็กน้อย หากต้องตอบคำถามสาย 18+
9 ในส่วนของดิลโด้เองก็เช่นกัน มันมักถูกเก็บงำเอาไว้อย่างมิดชิด กลายเป็นเพียงมุมเล็ก ๆ มุมหนึ่งในประวัติศาสตร์ หรืออาจมีบ้างที่จะนำมาจัดแสดง รวมกับโบราณวัตถุอื่น ๆ เช่น ถูกรวมอยู่กับ รูปของผู้หญิงบ้าง หรือไม่ก็รวมอยู่กับ อาวุธของชนเผ่าบ้าง
10 หลักฐานอีกชิ้นที่ถูกพูดถึง และถกเถียงกันอย่างมาก หลังถูกค้นพบในยูเรเซีย ยุคอัพเพอร์ พาลีโอลิธิค โดยย้อนกลับไปราว หนึ่งหมื่นถึงสี่หมื่นปีก่อน ช่วงประมาณยุคหินเก่า เราเรียกมันว่า Phallic Baton มันมีลักษณะคล้ายปลัดขิกในบ้านเรา
11 เจ้าปลัดขิกที่ว่านี้ ต่างจากปลัดขิกของสยามประเทศ ตรงที่มันมีขนาดใหญ่กว่า บ้างก็เป็นแท่งยาวเรียว บ้างก็มีการแกะสลัก รูปภาพและเรื่องราวไว้ด้วย บางอันนั้น ไม่ต้องจินตนาการให้เสียเวลา เพราะมันก็อปปี้น้องชายมาอย่างกับแกะ ไฮไลท์ของงานคือ อันที่มีปลายสองด้าน
12 พร้อมกันนั้น บริเวณส่วนโคนยังเว้นช่องเอาไว้ คล้ายๆ กับว่า เพื่อความสะดวกสำหรับใช้มือจับ Phallic Baton ถูกค้นพบตั้งแต่ปี คศ.1972 แล้ว แต่ด้วยความขี้อายของคนสมัยก่อน ทำให้มันถูกเก็บเข้ากรุ ล็อคกุญแจแปดชั้น ซ่อนไว้อย่างมิดชิด
1
13 ประเด็นมันอยู่ตรงที่ ถ้า Phallic Baton มันมีขนาดใหญ่ เท่ากับศิวลึงค์ตามวิหารต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคย ก็คงไม่มีใครสามารถเก็บซ่อนมันได้ แต่เพราะมันมีขนาดใกล้เคียงกับไอ้จ้อน นั่นทำให้เหล่านักโบราณคดี มองไม่ออกว่าจะเป็นอย่างอื่นไปได้
14 ยังมีนักโบราณคดีบางกลุ่ม พิจารณาถึงความเป็นไปได้อื่น เช่น อาจเป็นของใช้ในพิธีกรรมบางอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับเพศ ซึ่งคล้ายกับปลัดขิกของบ้านเรา ที่สาวไทย สาวเขมรใช้กัน โดยมันไม่ได้ใช้ในลักษณะเดียวกับดิลโด้ แต่ใช้ในทางความเชื่อ หรือไสยศาสตร์นั่นเองมากกว่า
15 เสียงส่วนใหญ่ของนักวิทยาศาสตร์ ก็ยังคงมองว่า สังคมมนุษย์ช่วงนั้น ยังคงไม่มีความซับซ้อนทางด้านวัฒนธรรม หรือมีพิธีกรรมอะไร เปรียบเทียบกับสัตว์ประเภทไพรเมตอื่นๆ มักพบว่า พวกมันนิยมหาความสุข จากการสอดใส่สิ่งของ เพื่อบำบัดอารมณ์เสียมากกว่า
16 ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูง ที่ Phallic Baton เป็นโบราณวัตถุ ที่มีความหมายในเชิงเซ็กส์ของบรรพบุรุษ แม้น้ำหนักของหลักฐานสนับสนุน จะไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน แต่ในแง่ของสมมุติฐาน และวิวัฒนาการของมนุษย์ในช่วงนั้น ก็มีความเป็นไปได้พอสมควร
ติดตามความรู้ซ่อนแอบ
ในแบบที่คุณไม่ต้องอาย
ย้อนหลังได้ที่
อ้างอิง
Ebook : ประวัติศาสตร์ใต้สะดือ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา