😱😱คดีฆาตกรรมอำพรางดังระดับชาติของเกาหลีที่พีคมาก 😱😱
เรื่องนี้เป็นคดีฆาตกรรมอำพรางดังระดับชาติของเกาหลีที่พีคมาก ผู้ชายคนนึงกลายเป็นฮีโร่ของประเทศ เพราะเขาหนีจากแฟนสาวที่เป็นสายลับเกาหลีเหนือมาได้แถมเกือบโดนลักพาตัวไปขังลืม แต่จริงๆ เรื่องนี้เป็นแผนการทั้งหมดของรัฐบาลที่หักมุมหักยิ่งกว่าหนังซะอีก
ในปี 1987 หลังฉลองปีใหม่ไปได้แค่ไม่กี่วัน คนทั่วทั้งเกาหลีใต้ก็ต้องเจอกับข่าวความขัดแย้งระหว่างประเทศครั้งสำคัญ เพราะมีผู้ชายคนนึงลงจากเครื่องบินที่สนามบินคิมโพทั้งน้ำตา เพราะว่าเขาเกือบถูกแฟนสาวที่เป็นสายลับเกาหลีเหนือหลอกจับลักพาตัวไปขังลืมทรมานที่เกาหลีเหนือ ผู้ชายคนนี้ก็คือสั่นกลัวไปหมดจนคนสงสาร ทางการก็ได้จัดงานแถลงข่าวทำให้ทุกคนรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า ยุน (ต่อไปจะเรียกว่านายยุน)
ผู้ชายคนนี้ชื่อ ยุน
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน นายยุนได้เดินทางไปล่าฝันที่ฮ่องกง เขามีความฝันอยากเปิดร้านเช่าหนัง (ที่เป็นม้วน vhs) ก็เลยไปทำงานหาเงิน
ฮ่องกง ปี ค.ศ.1987
เขาก็ไปหาห้องเช่าอยู่ที่นู่น ก็ไปเจอห้องนึงที่คนเช่ากำลังจะย้ายออกก็เลยไปทำสัญญาขอเช่าต่อเรียบร้อย แต่จังหวะก็ยังกะหนังรัก พอย้ายเข้าไปเจ้าของห้องดันยังไม่ย้ายออกด้วยเหตุจำเป็น เธอขอร้องให้เขาอยู่ห้องนอนแขกไปก่อน นายยุนก็ยินดีอยู่กับเธอเพราะเขาหลงรักเธอแต่แรกเห็น
ห้องเช่าที่นายยุนอาศัย
เจ้าของห้องที่นายยุนจำเป็นต้องมาอยู่ด้วยมีชื่อว่า ซูซี่ เป็นสาวชาวเกาหลีแก่กว่านายยุนห้าปี ซูซี่เป็นสาวสวยมีเสน่ห์มาก ไม่นานทั้งสองคนก็หลงรักกันในสถานการณ์บังคับที่ค่ดโรแมนติก ผ่านไปแค่เดือนเดียวทั้งคู่ก็แต่งงานกัน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ซูซี่ก็เป็นคนใจดีซัพพอตแฟนทุกอย่าง
สาวชาวเกาหลีชื่อ ซูซี่
ซูซี่ให้ของขวัญกับนายยุนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อให้เขาได้ไปเปิดร้านเช่าหนังทำตามความฝัน ทั้งคู่ก็เตรียมจะสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่แล้ววันนึงก็มีบุคคลปริศนามาหาถึงที่ห้อง เป็นผู้ชายสองคนท่าทางน่ากลัวบอกว่ามาหาซูซี่ ซูซี่ก็พาผู้ชายสองคนนี้ไปคุยในห้องโดยที่นายยุนอยู่ข้างนอก
นายยุนก็ออกไปซื้อบุหรี่กับน้ำมาเลี้ยงแขกตามที่ซูซี่บอก แต่พอกลับมาที่ห้องกลับไม่มีใครอยู่ ไม่นานก็มีผู้ชายคนนึงหนึ่งสองคนนั้นกลับมาที่ห้องเพื่อมาบอกว่า ภรรยาแกอยู่กับพวกเราที่สิงคโปร์แล้ว ถ้าอยากได้เธอคืนก็ต้องไปสิงคโปร์กับเรา
พวกโจรพวกนี้ยังบอกนายยุนอีกว่าซูซี่ติดเงินเจ้านายของพวกมัน ซึ่งเป็นเงินที่เอามาให้นายยุน นายยุนก็ไปสิงคโปร์จนไปถึงสถานที่นัดพบ แล้วเขาก็พบว่ามันไม่ใช่แก๊งค์โจรมาเฟียธรรมดา เพราะสถานที่นัดพบมันคือสถานทูตเกาหลีเหนือประจำสิงคโปร์ พวกนี้ไม่ใช่โจรแต่คือสายลับ
สถานทูตเกาหลีเหนือประจำสิงคโปร์
กลายเป็นว่าเงินที่นายยุนได้มาจากซูซี่เป็นของเกาหลีเหนือ! เขาจะต้องถูกจับไปอยู่ที่เกาหลีเหนือเพื่อชดใช้ พวกแก๊งค์นี้ก็จับนายยุนไปขังไว้ที่ห้องโรงแรมเตรียมจะพานายยุนกลับประเทศตอนเช้า แต่นายยุนก็สบโอกาสหนีออกมาแล้วไปขอความช่วยเหลือที่สถานทูตเกาหลีใต้ จนหนีได้สำเร็จ
พอเจ้าหน้าที่ได้รู้เรื่องราวของนายยุนก็พานายยุนกลับบ้านเกิดที่เกาหลีใต้ มีการแถลงข่าวใหญ่โต คนก็มองว่านายยุนเป็นคนกล้าหาญ สื่อทั้งในและต่างประเทศก็ต่างประณามเกาหลีเหนือ ทุกคนก็คิดว่าเรื่องจบแค่นี้แล้ว แต่มันดันมีพาร์ทสอง เพราะอีกสิบกว่าวันต่อมาก็มีคนพบศพซูซี่
นักข่าวสัมภาษณ์นายบุญในเหตุการณ์ดังกล่าว(ภาพแรก)และหนังสือพิมพ์ในเหตุการณ์ดังกล่าว(ภาพสอง)
ศพของซูซี่ถูกพบในห้องเดิมที่ฮ่องกง พอดีเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าก็เลยเข้ามาดู จนเจอศพซูซี่ซ่อนอยู่ใต้เตียง สภาพศพมีปลอกหมอนคลุมหัวเอาเข็มขัดรัดคอไว้ดูน่ากลัวมาก ทางสื่อเกาหลีใต้ที่รู้ข่าวก็มองว่าซูซี่คงโดนฆ่าปิดปากเนื่องจากทำภารกิจลักพาตัวนายยุนไม่สำเร็จ
ศพของซูซี่ถูกพบในห้องเดิมที่ฮ่องกง
แต่ว่าทางการของฮ่องกงมองว่าเรื่องนี้มันชักจะยังไงๆ แต่ทางเกาหลีใต้ก็ร่วมมือสืบสวนและระบุแค่ว่าคดีของซูซี่เป็นคดีที่ยังปิดไม่ลง (แต่ภาพก็คือประโคมข่าวว่าคดีนี้เป็นฝีมือสายลับเกาหลีเหนือ) คนเกาหลีใต้ก็ประณามซูซี่ เรียกเธอว่าเป็นสายลับอ่อยเหยื่อ คนเลว ใช้ความสวยหลอกคนบริสุทธิ์
ทางด้านนายยุนก็ได้เป็นฮีโร่ของประเทศ คนก็มองว่าเขาเป็นคนดีจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่อง โดนหลอกจนเกือบตาย เขาก็ได้โอกาสได้ทำงานดีๆ จนไต่เต้าได้เป็นซีอีโอบริษัทใหญ่ รู้จักคนใหญ่คนโตในรัฐบาลเกาหลี รวยระดับซื้อบริษัทที่อเมริกา
จนคดีนี้ใกล้จะครบรอบสิบห้าปีก็ดันมีข่าวลือว่าซูซี่อาจไม่ใช่สายลับเกาหลีเหนือเลย ก็มีการรื้อฟื้นคดีมาสืบสวนใหม่จนได้หลักฐานที่ว่าจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ทั้งนายยุนและซูซี่ไม่ได้รักกันหวานหยดจนวินาทีสุดท้าย แต่พักหลังพวกเขาทะเลาะกันหนักจนเพื่อนบ้านยังได้ยิน ที่ทะเลาะกันก็เพราะเรื่องเงิน จนวันนึงนายยุนเริ่มทนไม่ไหว
ภาพเหตุการณ์จำลองนายยุนกับซูซี่ทะเลาะกัน
นายยุนทนไม่ไหวที่จะเถียงเรื่องเงินที่เขา “ยืม” ซูซี่มาแล้วใช้คืนไม่ได้ ก็เลยเผลอลงมือทำร้ายซูซี่จนเธอเสียชีวิต กลายเป็นว่าเขานี่แหละฆาตกรตัวจริง และที่เขาได้แต่งกับซูซี่ก็เพราะเขาอยากได้เงินจากเธอ ด้วยความเจ้าเล่ห์เขาเลยวางแผนกลบเกลื่อนการฆาตกรรม ด้วยการใส่ร้ายว่าเธอเป็นสายลับ
เขาก็ลงทุนบินไปสิงคโปร์ แล้วคิดว่าจะจัดฉากให้เนียนสุดๆ ด้วยการไปสถานทูตเกาหลีเหนือ ขอวีซ่าเดินทางไปเกาหลีเหนือ แต่เจ้าหน้าที่ก็งงว่าจะไปทำไมอะ ขอเหตุผลหน่อย ซึ่งเขาก็ตอบไม่ได้ เลยตัดสินใจไปสถานทูตเกาหลีใต้แทน แล้วเล่นละครตบตาเจ้าหน้าที่ว่าเขาโดนสายลับลักพาตัว
ที่พีคที่สุดก็คือเจ้าหน้าที่ไม่ได้เชื่อนายยุนซักนิด เจ้าหน้าที่ก็ติดต่อทางการที่เกาหลีใต้ แต่ทางการเกาหลีใต้ก็บอกว่า เออ เล่นไปตามน้ำนั่นแหละ จนมีการจัดการแถลงข่าวให้นายยุนออกสื่อ พอหลังจบการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ก็จับเขามาสอบสวน และนายยุนก็สารภาพว่า เขาโกหกเรื่องทั้งหมด
ภาพแถลงข่าวของนายยุน พอจบหลังแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ก็จับเขามาสอบสวน
แทนที่ทางการจะจับนายยุนโทษฐานฆาตกรรมซูซี่และโกหกสร้างเรื่องขัดแย้งระดับชาติ แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าให้นายยุนปิดความจริงไปจนวันตาย เพราะนายยุนจะได้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ เอาหน้าเอาผลงานของรัฐบาลที่มีประธานาธิบดีชอนดูฮวานเป็นผู้นำเผด็จการเจ้าเก่าเจ้าเดิม
ชอน ดู ฮวาน ประธานาธิบดีจอมเผด็จการของเกาหลีใต้
ทางหน่วยงานความมั่นคงของชาติที่นำโดยมือขวาของประธานาธิบดีก็จัดการปกปิดคดีฆาตกรรมนี้ แถมไปจับสมาชิกในครอบครัวของซูซี่ที่อยู่ที่เกาหลีใต้มากดดันล้างสมองให้เชื่อว่าซูซี่เป็นสายลับเกาหลีเหนือจริงๆ มีการตั้งโค้ดเนมคดีนี้ว่า “มักกะโรนี” (เนื่องจากคนฮ่องกงชอบกินมักกะโรนีตอนนั้น)
คดีนี้ก็ถูกปิดเงียบมาเกือบสิบห้าปีเต็ม จนฟ้ามีตาและมีการรื้อฟื้นคดีจนสามารถเอาผิดนายยุนได้สำเร็จก่อนคดีหมดอายุความแค่สองเดือน แล้วจริงๆ ที่ผ่านมาก็มีหลายครั้งแล้วที่มีคนสืบจนเจอว่านายยุนคือฆาตกร แต่เพราะนายยุนรวยและมีเส้นสายโครตเยอะเลยใช้เงินกับอำนาจปิดปากคน
นายยุนตอนโดนจับกุม
ที่จริงแล้วซูซี่ไม่ได้เป็นสายลับอะไรเลย เธอมาจากครอบครัวที่ยากจน ความรู้น้อย ต้องทำงานหนักตลอดเพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว พ่อตาย ไฟไหม้บ้าน เธอก็ได้ลู่ทางไปทำงานที่ฮ่องกงจนได้เงินเยอะขึ้นส่งให้แม่กับน้อง แล้วมาเจอกับนายยุนที่เอาความรักมาหลอกใช้เธอจนเธอต้องตาย
ตลอดเกือบสิบห้าปีตั้งแต่ที่ทั้งโลกรู้จักซูซี่ในฐานะสายลับหญิงชั่ว ครอบครัวของซูซี่ก็ตกอยู่ในนรก ทั้งโดนทางการจับตามอง (กลัวความลับแตก) โดนจับไปล้างสมอง คนเป็นแม่ล้มป่วยเสียชีวิต น้องของซูซี่โดนสามีไล่ออกจากบ้าน โดนสังคมขับไล่รังเกียจในฐานะญาติของศัตรูของประเทศและคนจากรัฐบาลชุดนั้นก็ไม่ได้รับโทษเลยด้วย
เพราะตามกฎหมายการใช้อำนาจมิชอบคือเอาเรื่องได้แค่ภายในสิบปี แต่อายุความมันเกินแล้วก็เลยเอาเรื่องไม่ได้เลย ทุกคนของทางการที่ปกปิดเรื่องทั้งหมดก็คือลอยตัวพ้นจากความผิดทั้งหมด
หลุมศพของซูซี่ไม่มีแม้กระทั่งชื่อของเธอ เธอถูกฝังทอดทิ้งเยี่ยงคนไร้ญาติขาดมิตร แม้ว่านายยุนจะได้รับโทษแล้ว (จำคุก 15 ปี) แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับที่ทางครอบครัวต้องสูญเสียอะไรหลายอย่าง เพียงแค่เพราะว่ารัฐบาลต้องการสร้างภาพจนถึงขนาดต้องเก็บความลับและทำลายชีวิตคน
หลุมศพของซูซี่ไม่มีแม้กระทั่งชื่อของเธอ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
