14 มิ.ย. 2022 เวลา 08:09 • การศึกษา
”สัจธรรมจากรถยนต์”
1) ผมเป็นคนชอบรถยนต์มาตั้งแต่เด็กๆ ทุกวันนี้ยังชอบอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือ สมัยเด็กผมอยากได้รถรุ่นนั้นรุ่นนี้ คิดเสมอว่าโตขึ้นจะขับคันนั้นคันนี้
แต่พอโตขึ้น เริ่มค้นพบว่า ผมชอบสิ่งที่เป็นจุดตัดระหว่างศาสตร์และศิลป์ของการออกแบบและเทคโนโลยีของรถ และผมยังชอบ การบำรุงดูแลรักษารถด้วยตัวเอง ซึ่งรถที่ผมใช้ทุกวันนี้อายุย่าง 18 ขวบแล้ว กำลังเป็นวัย teen ตอนปลายแล้ว และผมก็ไม่ได้ซื้อเองด้วย เป็นรถที่น้องมอบให้ โดยผมมีความสุขมากในการที่ได้ดูแลรักษารถคันนี้
2) ตอนผมบวชผมเรียนรู้สัจธรรมของชีวิตผ่านการพิจารณารถ
ร่างกายมนุษย์มีดิน นำ้ ลม ไฟ เป็นส่วนประกอบ มาประชุมกัน ณ ช่วงเวลาสั้นๆช่วงหนึ่ง เมื่อถึงซึ่งเหตุและปัจจัย ก็จะแตกดับแยกย้ายกันไปคืนสู่
ธรรมชาติ
รถก็เช่นกัน มี lifecycle ของมัน มีชิ้นส่วนนับหมื่นชิ้นมาประชุมกัน ตั้งแต่ถอยออกจาก showroom จนคุณเปลี่ยนรถคันใหม่ มีตัวถัง, มีนำ้มันเบรค, มีระบบปรับอากาศ, มีแบตเตอรี่ ซึ่งก็เปรียบกับดิน นำ้ ลม ไฟ ดีๆนี่เอง
3) ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากมายเพียงใด ลองคิดดูสิครับ ถ้าคุณขับรถเยอรมัน คุณจะพูดภาษาเยอรมันได้โดยอัตโนมัติงั้นหรือ?, ถ้าคุณขับรถญี่ปุ่น คุณจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้อัตโนมัติงั้นหรือ?, ถ้าคุณขับรถอิตาเลียน คุณจะพูดภาษาอิตาเลียนได้อัตโนมัติงั้นหรือ?
You aren’t what you have !!!
“จงอย่าวิ่งไล่ความสุข”
1) การวิ่งไล่หาความสุขนั้น นำทุกข์มาให้
สุขทุกข์ไม่เที่ยงพอกัน พุทธศาสนาจึงสอนว่าจงอย่ายินดียินร้ายต่อสิ่งใด
2) อุตสาหกรรมบันเทิง ทั้งการท่องเที่ยว, กีฬา, games, ภาพยนตร์ ฯลฯ ต่างนำเสนอความสุขชั่วคราวที่เราต้องใช้เงินแลกมา แต่ความสุขแบบโลกๆ ในรูปแบบ รูป, รส, กลิ่น, เสียง, สัมผัส นั้น ไม่ยั่งยืน
ความสุขที่ปราศจากความสงบนั้นไม่มี ความสงบจาก โลภ, โกรธ, หลง มอบความสุขที่ยั่งยืน (sustainable)
คุณหนีจากความจำเจโดยการท่องเที่ยว, โดยการดูหนังฟังเพลง, โดยการเปลี่ยนแฟนสักสิบคน! ฯลฯ คุณหนีทุกอย่างในโลกได้ แต่คุณหนีตัวเองไม่ได้!
wherever you go, there you are!
3) Is your success fake?
“ความสุขในแบบของผม”
โฆษณา