27 มิ.ย. 2022 เวลา 11:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
LTLH ทางออกของกาแฟไทย (8) คุณค่าที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นมูลค่า
เมื่อทำการทดลอง LTLH มาสองเดือนจนได้ข้อสรุปบางอย่างแก่ตนเองแล้ว เราก็มั่นใจมากขึ้นที่จะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ให้แก่สังคม แต่เหนือกว่าข้อมูลทางวิชาการก็คือแนวทางการนำไปใช้และ 'โอกาส' ที่จะเกิดผลดีอื่นๆแก่วงการกาแฟไทยต่อไป
ข้อสรุปเบื้องต้นที่เราได้
1.การตากแบบ LTLH สามารถใช้ลดความชื้นจนถึงระดับแห้งสนิทได้จริง
2. เราสามารถควบคุมเวลาการทำงานผลิตได้แม่นยำ โดยไม่ต้องรอสภาพลมฟ้าอากาศ ทำให้วางแผนงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น
3. ห้องความชื้นต่ำทำให้ปลอดภัยจากราและแบคทีเรีย ทำให้ผลผลิตมีความปลอดภัยและคุณภาพสูง
4. ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการตากกลางแจ้ง ผู้ผลิตรายเล็กยังมีทางออกที่ช่วยรักษาผลผลิตไม่ให้เสียหาย หรือสูญเสีย
5. การลงทุนและต้นทุนการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ในระดับที่ 'จ่ายได้' และค่อนข้างคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพของกาแฟที่ได้
แล้วผมมองเห็นโอกาสอะไรบ้าง?
6. กาแฟไทยสามารถยกระดับคุณภาพทั้งระบบขึ้นไปได้อีกมาก เพียงแค่เรามี know how การจัดการ drying ที่ดี และการจัดเก็บ ( storage ) ที่ดี โดยนำความรู้ LTLH ไปประยุกต์ใช้ให้เป็น
7. SME หรือผู้ประกอบการตัวเล็กๆ สามารถทำกาแฟคุณภาพได้ดีไม่แพ้ยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่กาแฟไทยมีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกาแฟลาวหรือพม่าและยังไม่เห็นทางว่าจะลดต้นทุนได้สักเท่าไหร่ หากเราทำกาแฟให้คุณภาพอยู่ในระดับ premium หรือ specialty ได้ก็จะมีโอกาสทางการตลาดที่ได้เปรียบกว่าจุดที่กำลังเผชิญอยู่
8. เครือข่ายความรู้แบบเปิดหรือ Open source ด้านกาแฟในเมืองไทยอาจจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆและความช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ช่วยสร้างให้วงการของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
9. ความรู้และเทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องรอให้ฝรั่งมาสอนหรือสรุปให้ฟัง เพราะเราก็พัฒนามันได้เหมือนกัน เราจะสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ขึ้นมาด้วยมือของเราเอง
ใครมองเห็นโอกาสอะไรกันอีกบ้างครับ?
ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า คุณค่าที่เราทุ่มเทใส่เข้าไปในการทำงานทั้งหลายทั้งมวล ต้องมีคนสัมผัสได้อย่างแน่นอน ลูกค้าจะรับรู้และซาบซึ้ง สังคมจะดีขึ้นเรื่อยๆจากสิ่งที่เราทำ
และที่สุดก็จะแปรเปลี่ยนเป็นมูลค่าจนทำให้องค์กรของทุกท่านเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนได้แน่นอน
สำคัญมากตรงที่ว่า...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา