26 มิ.ย. 2022 เวลา 09:06 • ปรัชญา
Ep.1 [ทำงานยังไงให้มีความสุข]
ผมจะขอพูดเกี่ยวกับเรื่อง “การทำงาน” กับ “เพื่อนร่วมงาน” ก่อนแล้วกันนะครับ
เริ่มจาก [เมื่อก่อน] กับ [ตอนนี้]
[เมื่อก่อน…]
สมัยที่ผมเพิ่งเรียนจบ (ปวช.) และเริ่มทำงาน ผมมีความคิดที่ว่า อยากจะทำอะไรต่อคนเริ่มวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไปเราจะกลายเป็นคนขี้เกียจและหมดไฟในพัฒนาตัวเอง
นี่จึงเป็นเหตุผลหลักๆในการที่ผมตัดสินใจเรียนต่อทันที ผมเลือกสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรี การเรียนของผม จะเป็นรูปแบบการเรียนหลักสูตรนอกเวลา นั่นหมายความว่าผมต้องทำงานในวันจันทร์-ศุกร์ และเรียนในวันเสาร์-อาทิตย์
ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งรูปแบบการทำงานที่ทำงานของผมนั้นจะมีบางครั้งที่เราต้องออกไปทำงานนอกพื้นที่เป็นระยะเวลาหลายวันบางครั้งก็หนึ่งสัปดาห์บางครั้งก็สองสัปดาห์หัวหน้างานจะถามผมเสมอว่าผมว่างหรือเปล่าในการออกไปทำงานนอกพื้นที่ แต่เพราะว่าผมมีความจำเป็นที่ต้องเรียนในวันเสาร์อาทิตย์ซึ่งการออกไปทำงานนอกพื้นที่นั้นมันจะคาบเกี่ยววันเสาร์อาทิตย์ด้วยดังนั้นผมจึงไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่
ทำให้ภาระในส่วนนี้ตกไปอยู่ที่เพื่อนร่วมงาน ทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น นั้นจึงทำให้ผมกับเพื่อนร่วมงานเกิดปัญหากัน ถึงขั้นไม่พูดไม่จากัน
ใครเคยเจอเรื่องแบบนี้น่าจะเข้าใจว่ามันเป็นอะไรที่น่าอึดอัดใจมาก เพราะ คนที่อยู่กลุ่มงานหรือทีมงานเดียวกัน แต่กลับไม่พูดไม่จากัน มันทำให้การทำงานไม่มีความสุข และผมการปฏิบัติงานยังออกมาไม่ค่อยดี อีกด้วยเนื่องจากขาดทีมเวิร์ค
ผมในตอนนั้นนึกไม่ออกจริงๆว่าเราควรจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ทุกอย่างมีแต่ความเงียบความอึดอัด จนกระทั่ง เวลาผ่านไป เพื่อนร่วมงานที่มีปัญหากัน แยกย้ายไปอยู่ กลุ่มอื่น กลุ่มงานเดิมถูกแทนที่ด้วยคนที่เข้ามาใหม่ ผมแค่ปล่อยให้ปัญหานั่นผ่านไปโดยไม่ได้แก้ไขอะไรเลยเหมือนแค่ซุกมันเอาไว้ใต้พรม จนผมเรียนจบ และได้มีโอกาสออกไปทำงานต่างพื้นที่เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม…
[ตอนนี้…]
ในช่วงที่ผมปฏิบัติงานนอกพื้นที่ หัวหน้ากลุ่มคนปัจจุบันได้เกิดการโยกย้ายกระทันหัน จึงทำให้เพื่อนร่วมงานคนที่เคยมีปัญหากันมาก่อน ต้องย้ายกลับมาที่กลุ่ม เพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้างานแทน
ผมได้ทราบแต่ก็ ไม่ได้มีปัญหาติดขัดอะไร ในใจคิดว่า เรื่องที่ผ่านมานานแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เราโตขึ้น มีความคิดมากขึ้น เริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม แล้วเอาความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น ให้เป็นบทเรียนในการการทำงาน
จนกระทั่งผมกลับมา ปฏิบัติงานในหน้าที่รองหัวหน้ากลุ่ม ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ เมื่อมีงานที่ต้องออกนอกพื้นที่ ผมยินดีไปอย่างเต็มใจ มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน ทุกอย่างดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด มีการพูดคุย มีการวิเคราะห์ มีการวางแผนกันในกลุ่มงาน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
แต่ก็ใช่ว่าจะราบรื่นไปซะทุกอย่างยังคงมีปัญหาเล็กๆน้อยๆ ให้ค่อยเป็นกังวลบ้าง ที่ต้องค่อยปรับปรุงแก้ไขกันไป ตามระบบการทำงาน แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมกับเพื่อนร่วมงาน (ซึ่งตอนนี้เป็นหัวหน้ากลุ่ม) ต้องมีปากเสียงกันอีกครั้ง… (ผมจะขอข้ามรายละเอียดของปัญหาแล้วจะมาเขียนในอ่านกันใน Ep หน้านะครับ)
สรุปคือผมมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงานในเรื่องการทำงาน ซึ่ง แวบแรกที่เข้ามาในหัวเลยคือ อย่าให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต จากเมื่อก่อนที่ผมเลือกจะเงียบ แล้วทำให้เกิดความอึดอัด แล้วมีผลกระทบต่องานโดยรวม ในตอนนี้ผมเลือกที่จะพูด
ผมตัดสินใจ เข้าไปพูดกับเพื่อนร่วมงานโดยตรง พยายามอธิบายข้อมูล เหตุผลต่างๆ ที่เขาอาจจะเข้าใจเราผิดหรือได้ฟังมาผิดๆ และไม่ลืมที่จะพูดคำว่า ขอโทษ
ผลคือความเงียบยังคงเกิดขึ้นอยู่ 2-3 หลังจากที่เกิดปัญหา แต่มันเป็นระยะเวลาสั้นๆ เมื่อสิ่งที่เราทำ เราแสดงออกไปอย่างจริงใจให้เพื่อนร่วมเห็น ในเวลาอันสั้น กลุ่มงานกลับมามีทีมเวิร์ค เหมือนเดิม
ซึ่งผมดีใจมากที่ผลมันออกมาดี แล้วมันยังเป็นตัวยืนยัน สิ่งที่ผมคิดมาตลอด ว่าผมคิดถูกแล้ว ที่เมื่อเวลาเรามีปัญหาอะไรสักอย่าง ไม่ใช่แต่เรื่องงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ครอบครัว ความรัก เพื่อน… เราควยคุยกัน ผมเห็นและพิสูจน์มากับตัวเองแล้ว มันดีขึ้นจริงๆ อย่างน้อยถึงแม่ว่าปัญหาจะยังไม่ถูกแก้เดี๋ยวนั้น แต่การพูดคุยกัน จะทำให้เราไม่ต้องคิดไปเองต่างๆนาๆ ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
และในที่สุดผมเชื่อว่า เราจะหาทางออกของปัญหาได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล เริ่มต้นจากมากที่เราเปิดใจ พูดคุยกัน และที่สำคัญ ถ้าเรารู้สึกว่าเรามีส่วนผิดในเรื่องนั้นๆ อย่าลืมพูดคำว่า “ขอโทษ” 😊
โฆษณา