15 ส.ค. 2022 เวลา 12:56 • ปรัชญา
การตื่นรู้-การไม่ตื่นรู้
.
การตื่นรู้ คือ การมองเห็นความจริง ซึ้งจากใจข้างในว่า เราทั้งหลาย มนุษย์ สัตว์ทุกชีวิตและสรรพสิ่งในธรรมชาติ ล้วน
- เกี่ยวข้องเชื่อมโยง ( interconnected) การกระทำต่อคนหนึ่งจะส่งผลถึงผู้อื่นด้วย เป็นร่างแหของชีวิตที่ยิ่งใหญ่
- พึ่งพาอาศัยกัน ( interdependent) ไม่มีใครอยู่ได้โดยลำพัง ทั้งอาหาร น้ำ อากาศ ธรรมชาติ ล้วนต้องพึ่งพาแบ่งปัน
- สัมพันธ์ต่อกัน ( interrelated) เป็นเหตุปัจจัยส่งผลถึงในทุกระดับความสัมพันธ์ กาย ใจ สังคม สิ่งแวดล้อม บนฐานของจิตวิญญาณหนึ่งเดียว
ทำให้มีจิตสำนึกร่วมรับผิดชอบ ปรารถนาร่วมดูแลอย่างจริงจัง เป็นพลังที่จะรักษาโลกไว้ด้วยความรักเมตตา เสียสละให้ ช่วยเหลือเกื้อกูล ปกป้องชีวิตและธรรมชาติทั้งหลายที่อยู่ร่วมกัน ให้อยู่รอดอย่างมีสันติสุข
การไม่ตื่นรู้ คือ การที่ยังไม่เห็นและไม่เข้าใจความจริง จึงเห็นตนเองเป็นศูนย์กลางแยกออกจากสรรพสิ่ง คิดและกระทำบนฐานประโยชน์เฉพาะตนและทุกสิ่งที่เนื่องด้วยตัวเอง จนเกิดเป็น พรรคพวกฉัน ศาสนาของฉัน ประเทศของฉัน ที่เป็นเพียงสมมติ แล้วปกป้องด้วยความหลง ความกลัว ความต้องการ แย่งชิงเพื่อสิ่งที่ตนยึดไว้ เกิดเป็นความขัดแย้ง โกรธ เกลียดชังกันได้ในทุกระดับ แม้กระทั่งกลายเป็นสงคราม
ร่วมสร้างการตื่นรู้ ให้แผ่ขยายกว้างออกไป เกิดความรักเมตตาไม่ทำร้ายกัน การตื่นรู้ของคนใดคนหนึ่ง คือการตื่นรู้ของโลกด้วย จะเป็นเสมือนแสงแห่งความหวังที่จะส่องสว่างให้ความมืดมนของการแบ่งแยกหมดไป และมีความสำคัญยิ่งต่อความอยู่รอดของสังคมและมนุษยชาติ โลกของสรรพชีวิต ในเวลานี้
#คำสอนของครู
รศ.นพ.ธวัชชัย กฤษณะประกรกิจ
โฆษณา