19 ส.ค. 2022 เวลา 06:00 • ดนตรี เพลง
[33 ปี Topline โคตรสตอรี] “ศักดิ์ ภูเวียง” ชายใน Multiverse ของ แดง จิตกร
ว่าด้วยเรื่องของ Multiverse หรือ จักรวาลคู่ขนาน ซึ่งหมายถึง สิ่งที่มีตัวตนในโลกหนึ่งกับตัวตนในอีกโลกหนึ่ง ที่มักจะแตกต่างกันมาก
ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ลองยกอย่างง่ายๆ ว่าในจักรวาลหนึ่งมีผู้ชายเป็นฮีโร่ มีพลังวิเศษ แต่อีกจักรวาลหนึ่ง อาจมีคนที่เป็นฮีโร่เช่นเดียวกัน แต่มีพลังวิเศษที่แตกต่างกัน รูปแบบที่กล่าวมานี้ มักจะเห็นได้ในหนังของจักรวาลมาร์เวลแต่ละเรื่อง หรือแม้แต่ในหนัง การ์ตูน ซีรี่ส์ หลายๆเรื่อง ที่มีเนื้อหาในลักษณะแบบนี้
แน่นอนว่าในบทความนี้เราไม่ได้มาเล่าถึงจักรวาลในหนังฮีโร่แต่อย่างไร เพราะเราจะพาท่านเข้าสู่จักรวาลเพลง เอ๊ย! รู้จักกับศิลปินค่ายท็อปไลน์ท่านหนึ่ง ซึ่งในครั้งที่แล้วเราได้นำเสนอเรื่องราวของ แดง จิตกร ชายที่มากความสามารถจนเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั้งประเทศมาแล้ว
แต่ในฟากของอีกจักวาล ยังมีผู้ชายคนหนึ่งที่มากความสามารถเช่นเดียวกัน ทั้งน้ำเสียง และแนวเพลง จนใครๆ ต่างก็ยกให้เป็นศิลปินที่ทุกคนหลงรักไม่แพ้ “แดง จิตกร” เขาคนนั้นคือ เจ้าของชื่ออัลบั้มที่มักจะมีคำว่า “คิดฮอด” อยู่เสมอ (ยกเว้นชุดหนึ่งที่ไม่ได้ใส่) ชายหนุ่มผู้มาจากแดนไดโนเสาร์ “ศักดิ์ ภูเวียง”
“ศักดิ์ ภูเวียง” หรือชื่อจริงนามว่า “ทรงกรด ยงค์ดา” แค่เห็นชื่อในวงการก็ถึงบางอ้อไปเลยว่า เป็นชาวอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น 100% และแน่นอนว่าในช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขา เขาเป็นเด็กวัด และไม่ใช่เด็กวัดธรรมดา เป็นเด็กวัดที่คลั่งรักเพลงลูกทุ่งอยู่แล้ว โดยมี “พรศักดิ์ ส่องแสง” เป็นไอดอลประจำตัวของเขา คุณศักดิ์เข้าสู่วงการเพลงอย่างเต็มตัวถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกมาในนามศิลปินค่ายเล็กๆ ขายอัลบั้มเพลงลูกทุ่งหมอลำตามพื้นที่ท้องถิ่น แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ สุดท้ายก็เลยกลับไปเป็นเด็กวัดที่ภูเวียงเหมือนเดิม
ส่วนครั้งที่สองนั้น นับว่าเป็นครั้งที่สำคัญของเขา หลังจากใช้ชีวิตทำงานรับจ้างเหมือนกับคนทั่วไปสักระยะ ด้วยความที่คุณศักดิ์ ชอบร้อง ชอบฟังเพลงอยู่แล้ว และการร้องเพลงของเขาก็เป็นเอกลักษณ์ พระอาจารย์ผู้อุปถัมภ์เขามาตั้งแต่เล็กจนโต จึงสนับสนุนให้เขาก้าวสู่วงการเพลงอีกครั้งหนึ่ง โดยเขาได้ไปพบกับครูเพลงชื่อดังอย่าง อ. ทองมัย มาลี เพื่อมาเป็นที่ครูปรึกษาด้านการร้องเพลงให้คุณศักดิ์ และยังได้ไปเรียนรู้การเป็นนักร้องหมอลำในคณะเสียงอิสาน กล่าวคือ ไปเป็นหมอลำฝึกหัดให้กับแม่นกน้อย เป็นเวลาปีกว่าๆ แล้ว
ในที่สุด ความพยายามไม่เคยทำร้ายเด็กวัดผู้ใฝ่ฝันคนนี้ ปี 2545 ศักดิ์ ภูเวียง ได้เดบิวต์เป็นศิลปินสังกัดท็อปไลน์ - ไดมอนด์ กับสตูดิโออัลบั้มชุดแรก “อยากมีคนคิดฮอด” ภายใต้การโปรดิวซ์ของ สองนักแต่งเพลงทั้ง อ. ทองมัย มาลี และ อ. สุดโก้ เจียระไน โดยเพลงในอัลบั้มนี้ มีเพลงที่หลายๆ คนรู้จักทั้ง อยากมีคนคิดฮอด, หูเบาให้เขาลวง, ขายเสียงเลี้ยงแม่
ถึงแม้ชุดแรกจะไม่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ชุดนี้ก็สามารถแสดงได้ถึงความตั้งใจของชายคนหนึ่ง ที่อยากจะทำในสิ่งที่เขาชื่นชอบ และตั้งใจพยายามทำผลงานเพลงออกมาให้ทุกคนได้รับฟัง
แต่หลังจากที่คุณศักดิ์ ได้พักงานเพลงไปนานถึง 3 ปี เพื่อไปหาประสบการณ์เกี่ยวกับเพลงมาเพิ่มเติม ในที่สุด ปี 2549 เขาก็กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มชุดที่ 2 และอัลบั้มนี้ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่กลายมาเป็นจุดกำเนิดของจักรวาลคู่ขนานแห่งวงการเพลงค่ายท็อปไลน์ “อัลบั้ม คิดฮอดสิอดเอา” ที่มีเพลงชื่อเดียวกันเป็นจุดขายของชุดนี้ จากการประพันธ์ของ “อ. สุดโก้ เจียระไน” คนดีคนเดิมอีกแล้ว ที่เพลงนี้คุณศักดิ์ตั้งใจถ่ายทอดอารมณ์ของคนอกหักได้อย่างเต็มที่
เพลงนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะสามารถขึ้นเข้าสู่ชาร์ตเพลงวิทยุในอันอันต้นๆ ได้ ยิ่งไปกว่านั้น บทเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มชุดที่สองของคุณศักดิ์ ก็พลอยได้รับความนิยมเช่นกัน โดยเฉพาะอีกหนึ่งเพลงนำในชุดนี้ ที่คอหมอลำต่างยกให้เป็นเพลงระบชั้นครู ที่บรรดานักร้องหมอลำต่างนำมาร้องอย่าง “วันงานประหารใจ” แค่ได้ฟังเสียงลำของเขาที่เข้าถึงอารมณ์ของเนื้อหา ก็รู้สึกได้ถึงความไพเราะในแบบที่ไม่มีใครจะเลียนแบบได้จริงๆ
แต่ถ้าลองฟังเพลงทั้งอัลบั้ม จะสังเกตได้ว่า เทคนิค และน้ำเสียงของคุณศักดิ์ มีความคล้ายคลึงกับเสียงร้องของคุณแดง จิตกร เป็นอย่างมาก นั่นเป็นสาเหตุที่ตอนแรกไม่ว่าเพลง คิดฮอดสิอดเอา หรือเพลงอื่นๆ ที่เขาร้องนั้น แฟนเพลงอาจะเข้าใจผิด เพราะคิดว่าเป็นเพลงของพี่แดงจริงๆ ทั้งๆ ที่บทเพลงเหล่านี้พี่แดง ไม่ได้ร้องไว้
แต่ไม่ใช่ว่าน้ำเสียงของคุณศักดิ์จะคล้ายเสียงของพี่แดงแบบ 100% เท่าที่ฟังมาทั้งหมด แนวเสียงของคุณศักดิ์ก็ยังมีความเป็นลูกผสมระหว่างพี่แดงกับคุณพรศักดิ์ หรืออ้ายไหมไทยอยู่บ้าง ซึ่งน่าจะเป็นความบังเอิญที่เวลาฟังเสียงร้องของเขาแล้วรู้สึกเหมือนได้ยินแนวเสียงอีกแบบหนึ่งที่คนๆนั้นได้ขับกล่อมเอาไว้
แล้วสิ่งที่ชวนสงสัยยิ่งกว่าเสียงร้องคือ ทั้งคุณศักดิ์และพี่แดง ทำไมถึงกลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญของท็อปไลน์?
คำตอบนั้น อาจจะไม่แน่นอนว่า ทั้งคู่เหมือนกัน หรือ ต่างกันตรงไหน แต่สิ่งที่ทุกคนเข้าใจทั้งสองคนได้อย่างชัดเจน นอกจากเสียงร้องแล้ว ก็คือ แนวเพลงและเนื้อหาที่ทั้งคู่เลือกร้องในแนวทางที่ตรงกัน เพลงของทั้งคู่ล้วนนำเสนอในมุมมองที่แตกต่างกัน แต่อยู่ในบริบทเดียวกันคือ ความรัก ความฝัน และวิถีชีวิตในสังคม นอกจากนี้ คาเร็คเตอร์ของทั้งสองก็ไม่ธรรมดา
อย่างพี่แดง จะมาในบุคคลิกที่เป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่เต็มไปด้วยความสามารถที่ทำให้เราตกหลุมรักได้ ส่วนคุณศักดิ์จะเป็นผู้ชายสุขุม มาดนิ่ง จริงใจ และเป็นกันเอง ซึ่งทั้งคู่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันโดยบังเอิญคือ เป็นคนบ้านเดียวกัน ก็คือเป็นชาว จ. ขอนแก่น โดยกำเนิดนั้นเอง และทั้งคู่ก็มีความฝันว่าอยากจะเป็นนักร้องเช่นกัน
แม้ว่าคุณศักดิ์จะมาเป็นศิลปินในค่ายท็อปไลน์ตามหลังพี่แดงก็ตาม แต่การที่อัลบั้มชุดที่ 2 ของเขาที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องของแนวเสียงนั้น ก็ทำให้แฟนเพลงลูกทุ่งต่างชื่นชม และได้เห็นพัฒนาการด้านการร้องเพลงของคุณศักดิ์ที่ดูไพเราะยิ่งขึ้น จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจของแฟนเพลงได้เช่นเดียวกับพี่แดง จิตกร
ซึ่งในอัลบั้มชุดต่อๆ มา ของ ศักดิ์ ภูเวียง ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะสู้ความนิยมของแดง จิตกร ไม่ได้ แต่แนวทางของทั้งสองถือว่าสูสีกัน ถึงขั้นเปรียบเทียบทั้งสองให้เป็นคู่แข่งในสายเพลงลูกทุ่งอีสานของท็อปไลน์ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่เขาอยู่กับท็อปไลน์ได้แค่ 9 ปีเท่านั้น นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 - 2554 คุณศักดิ์ได้ประกาศจบการศึกษา (ลาออก) อย่างเงียบๆ เพื่อหันไปทำงานเพลงในฐานะศิลปินอิสระแทน
จนกระทั่งในช่วงปี 2558 กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อคุณศักดิ์ป่วยเป็นโรคเบาหวานขั้นรุนแรง นอนพักรักษาที่วัดแห่งหนึ่งใน อ. ภูเวียง โดยมีพระอาจารย์และภรรยาของเขา เป็นคนดูแล เหตุการณ์นั้นทำให้แฟนเพลงรู้สึกเป็นห่วงเป็นใย จึงมีการบริจาคเงินค่ารักษาพยาบาลเพื่อช่วยเหลือเขาให้รอดพ้นจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง แม้ว่าร่างกายจะไม่สมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
แม่ว่าสุดท้ายนี้คุณศักดิ์ได้ลาโลกอย่างสงบไปเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2561 ซึ่งเป็นการปิดตำนานอย่างเงียบๆ ไม่ได้ถึงขั้งช็อกโลกเหมือนกับการเสียชีวิตของพี่แดงก็ตาม (พี่แดงเสียชีวิตก่อนคุณศักดิ์ประมาณ 2 ปี) แต่การจากลาครั้งนี้ กลับทำให้รู้สึกภูมิใจที่ครั้งหนึ่ง คุณศักดิ์ได้สร้างสีสันให้กับวงการลูกทุ่งหมอลำได้อย่างมหัศจรรย์ แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่ได้อยู่กับท็อปไลน์มาก่อน
อาจจะไม่ได้โด่งดังสุดขีด แต่ทุกคนต่างยกย่องในความสามารถของนักร้องเสียงดีคนนี้ ตลอดเวลา 9 ปี กับผลงานสตูดิโออัลบั้ม 5 ชุด ในค่ายท็อปไลน์ และไม่รวมกับผลงานเพลงอื่นๆ ในฐานะศิลปินอิสระ
สำหรับบทเพลงเด่นของ ศักดิ์ ภูเวียง ที่อยากให้แนะนำ นอกจากทั้ง 2 เพลงจากอัลบั้มชุดที่ 2 ที่ถือว่าเป็นเพลงสร้างชื่อแล้ว ยังมีหลายบทเพลงที่เรียกความไพเราะแด่คนฟัง จนต้องพูดถึงตลอด อาทิ “เพลง คิดนำเมียเผิ่น” ที่เป็นผลงานการแต่งของ สลา คุณวุฒิ เพลงนี้คุณศักดิ์ถ่ายทอดเรื่องการแอบรักคนมีเจ้าของได้อย่างแนบเนียน
“เพลง พอกอสอ” เพลงนี้เป็นเพลงที่คุณศักดิ์ตั้งใจแต่งเพลงขึ้นจากประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาหนี้สิน ซึ่งเขาก็ทำออกมาได้แบบจิกกัดเจ้าหนี้ - ลูกหนี้อย่างแท้จริง “เพลง คนตุ้มผ้าให้จำได้บ่” เพลงนี้ก็ชอบมาก กลิ่นอายลูกทุ่งเพื่อชีวิต มาพร้อมกับท่อนแรกเริ่ม ที่ได้ยินกลอนผญา ก็ร้องอ๋อเลยว่าเพลงกำลังจะพูดถึงอะไร ใครที่คิดถึงบรรยากาศแบบบ้านนา ต้องไม่พลาดเพลงนี้
“เพลง มันบ่ใช่” เพลงนี้ชวนสงสัยอย่างหนักเลยว่าตกลงเป็นเพลงช้าหรือเพลงเร็ว? ฟังไปฟังมา อยากโยกย้ายแบบลีลาศจังเลย บีทมีความเป็นรัมบามาก แล้วเนื้อหาคือโคตรเจ็บมากๆ โดนใจเราไปเลยเต็มๆ
และยังมีอีกหลายเพลงที่โดนใจหลายๆ เพลง ซึ่งแต่ละเพลงสามารถพิสูจน์ได้ว่า “ศักดิ์ ภูเวียง” เป็นศิลปินที่เติมเต็มสีสันให้เพลงอีสานไทบ้านได้ม่วนชื่นผ่านเสียงร้องและแนวเพลงที่ไม่ธรรมดาเหลือเกิน ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณเขาคนนี้ ที่ทำให้จักวาลเพลงหมอลำของท็อปไลน์มีสีสันมากขึ้น และเชื่อว่าทุกผลงานของเขาจะยังกล่าวถึงอยู่ต่อไป แม้ว่าเขาจะไม่อยู่จักรวาลนี้หรือใน Multiverse ใดก็ตาม
ติดตาม #ยามเฝ้าเพลง ได้ที่เฟซบุ๊ก
และทุกช่องทางการติดตาม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา