23 ก.ย. 2022 เวลา 03:46 • ไลฟ์สไตล์
บทที่ 6 : มหรสพยามค่ำคืน
มาว่ากันที่ชื่อจริงของผมนั้นมันสุ่มเสี่ยงมาก หลังคลอดได้ไม่กี่วัน พ่อกับแม่ พาผมไปหาหลวงตาที่วัดแถวบ้าน พอไปถึงพ่อก็แจ้งความประสงค์ว่า อยากให้หลวงตาท่านตั้งชื่อลูกให้หน่อย
พ่อบอกกับหลวงตาว่า เอาแบบฉลาดหลักแหลมเลยนะครับ ผลก็คือ หลวงตาท่านตั้งให้ว่า “หอก” โอ้ย!! ดีนะที่พ่อกับแม่ไม่เห็นดีด้วย ไม่อย่างนั้นผมอาจถูกเรียกว่า “บักหอก” ก็เป็นได้
ว่าที่ ดช.หอก
นอกจากทีวีแล้ว ยังมีความบันเทิงที่เข้ามาในตำบลอีกอย่าง นั้นก็คือ หนังกางแปลง ที่มันบันเทิงก็คือ บ้านผมดันอยู่ติดกับลานโล่งๆ ที่เค้ามีไว้ฉายหนังนั่นเอง หนังกางแปลง สมัยนั้นแบ่งเป็น 2 แบบ แบบแรกคือ หนังล้อมผ้า คือ จะกางจอหนังไว้แล้วเอาผ้าใบล้อม หากจะดูก็ซื้อตั๋วเข้าไปดูในราคา 1 บาท
การที่จะซื้อตั๋วเข้าไปดูก็ไม่สนุกสิเนาะ ก็ต้องแอบดูไม่ว่าจะเป็น ตามรู ตามช่องของผ้าไบที่ล้อมเพราะบางจุดมันก็ขาดเป็นรู หรือ ไม่ก็ปีนต้นมะขามดูมันซะเลย แรก ๆ ก็คิดว่านึกได้คนเดียว พอปีนขึ้นไปโอ้โห ข้างบนคนเพียบเลย
cr.fb มานะ มานี ปิติชูใจ
ด้านหน้าโรงหนังกางแปลง ก็จะมีของขายเยอะมาก สนนราคาก็พอได้นะ เช่น ส้มตำใส่ถุงเล็กๆ ไว้ไปหยิบกินด้านในก็ราคา 1 บาท ก๋วยเตี๋ยวถ้วยเล็ก ๆ ซดร้อนๆ ก่อนเข้าไปดูหนังก็ 1 บาท ได้ลูกชิ้นน้อย ๆ 2 ลูก หรือ น้ำอัดลมใส่แก้ว ที่ทำมาจากแก้วกระดาษเคลือบเทียนไข ก็แก้วละ 1 บาท เท่านั้นเอง
เป็นที่น่าเสียดาย ที่หลายอย่างไม่ได้มีภาพประกอบเป็นของตัวเองเท่าใดนัก เพราะการถ่ายภาพในสมัยนั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินมาก เท่าที่ผมมาหารูปเก่าๆ ดูก็ใช้ได้เป็นบางรูป จึงต้องขออภัยทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ครับ
เด็กยุค 90 เค้ารู้กัน
การจะไปดูหนังกางแปลงนั้น เราต้องเตรียมที่นั่งไปเอง นั่นก็คือเสื่อ หรือ ใครจะเอาหมอนไปด้วยก็ได้ เพราะการฉายหนังแบบล้อมผ้านั้น จะฉายรวดเดียว 4-5 เรื่องไปกันยันเช้าเลย ใครใคร่ดูก็ดูจะหลับไปก็ไม่ว่า ก็มีบ่อยครั้งที่หนังจบแล้วยังมีคนนอนค้างอยู่เลย
หนังกางแปลงอีกแบบก็คือ “หนังขายยา” หนังแบบนี้จะไม่มีการล้อมผ้า และ จะเริ่มฉายกันตั้งแต่ 1 ทุ่ม หรือ หลังจากฟ้าเริ่มมืด ฉายไปสักครึ่งเรื่องก็จะเปิดไฟ เพื่อขายของ โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็น ยาบำรุงกำลัง หรือ ยาถ่ายพยาธิตัวตืด
โดยเฉพาะอย่างหลังนี่ เค้าจะมีพยาธิตัวอย่างที่ดองมาในโหล ตัวยาว ๆ เอาออกมาโชว์ด้วย แถมบอกว่าหากวันนี้ใครซื้อยาถ่ายพยาธิไปกินแล้ว เช้ามามีพยาธิออกมาเค้ารับซื้อด้วยนะ
cr.internet
หลังจากขายยาเสร็จ ก็จะฉายหนังต่อจนจบ ส่วนใหญ่ก็จะเพียงเรื่องเดียว ช่วงเช้าก็จะขับรถวนรอบหมู่บ้านสักรอบ เพื่อขายยาต่อ หรือ รับซื้อพยาธิที่ถ่ายออกมาเมื่อคืนนั่นเอง
อย่างที่บอกว่าบ้านผมอยู่ใกล้ลานโล่งๆ ที่ฉายหนัง เวลาหนังฉายที โอ้โห!!! บันเทิงมากเลย บ้านไม้หลังคามุงด้วยสังกะสีของแม่ ก็จะสั่น ๆ ไปตามแรงของหนัง หากวันไหนฉายเรื่อง “ทอง” หนังไทยแนวแอ็คชั่น ของ คุณฉลอง ภักดีวิจิตร ล่ะก็สนั่นเลย
ทั้งเสียงเฮลิคอปเตอร์ เสียงระเบิด หนังฟอร์มยักสมัยนั้นจะมาพร้อมกับ "จอผ่าโลกโคงเรดาร์" ของคุณแอ๊ด เทวดา ระบบเสียงจัดเต็ม หลังคาดัง ตืดๆ ทั้งคืน ห้องน้ำไม่ต้องเข้าก็ได้ อันนั้นสั่นทั้งหลังเลยล่ะ
หลังจากดูหนังกางแปลง เช้ามาก็จะต้องไปเมาท์มอยแปลงร่างกันต่อที่โรงเรียน หนักเข้าก็แบ่งทีมต่อสู้กัน เหมือนในหนังก็สนุกไปอีกแบบ
หากยังจำกันได้ผมได้เงินไปโรงเรียนช่วงแรก ๆ นั้น 1 บาทถ้วน เหลือกลับบ้านทุกวันเพราะไม่รู้จะซื้ออะไร มาระยะหลังนี้เริ่มมีของมาขายมากขึ้น แต่สิ่งทีทำให้ผมยอมจ่ายนั่นก็คือ “ขนมสายไหม”
รสชาติไม่เท่าไร่แต่มันสนุกตรง ที่เราต้องเอาเงินเหรียญมาหยอด แล้วจะมีเข็มหมุนๆ หมุนไปยังต้วเลขต่าง ๆ หลัก ๆ ผมก็ได้ไม่เกิน 2 หรือ 3 อัน หรอกครับ
cr.https://board.postjung.com/874312
แต่มันก็สนุกดีนะ......

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา