20 ก.ย. 2022 เวลา 13:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
56-1 คืออะไร? ทำไมนักลงทุนต้องรู้
แบบฟอร์ม 56-1 คือรายงานที่บริษัทต้องจัดทำแล้วส่งให้ ก.ล.ต ทุกปี เพื่อใช้ในการกำกับดูแล โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ
📌 ส่วนที่ 1 : การประกอบธุรกิจ
ส่วนนี้จะอธิบายถึงนโยบายและภาพรวมการประกอบธุรกิจ ลักษณะการประกอบธุรกิจ ปัจจัยความเสี่ยงของธุรกิจ และข้อมูลสำคัญอื่นๆ
นับเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดที่เราควรต้องอ่านก่อนจะซื้อหุ้นใดๆ เพื่อทำความเข้าใจลักษณะการประกอบธุรกิจนั้น จะทำให้สามารถคาดการณ์การเติบโต หรือกำไรของบริษัทได้ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ นั่นคือความเสี่ยง
โดยส่วนสำคัญที่เราต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เช่น
- ธุรกิจมีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง และสัดส่วนรายได้ของแต่ละตัวเป็นเท่าไร
- มีการแบ่งรายได้จากในประเทศและต่างประเทศหรือไม่ สัดส่วนเป็นยังไง เติบโตหรือไม่ ด้านไหนเติบโตกว่ากัน หากเกิดสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในค่าเงินที่ผันผวนสูง จะกระทบแค่ไหน
📌 ส่วนที่ 2 : การจัดการและการกำกับดูแลกิจการ
ส่วนนี้จะอธิบายถึงข้อมูลหลักทรัพย์และผู้ถือหุ้น โครงสร้างการจัดการ การกำกับดูแลกิจการ ความรับผิดชอบต่อสังคม และอื่นๆ
เป็นส่วนที่สำคัญรองลงมา แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่เราควรพิจารณา ได้แก่
- ผู้บริหารคือใคร มีทัศนคติในการบริหารเป็นอย่างไร อาจจะต้องพิจารณาไปถึงประวัติของผู้บริหารนั้นๆ ว่าเป็นไปในด้านดีหรือไม่ดีอย่างไร
- ใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถ้าผู้บริหารถือหุ้นในสัดส่วนที่มาก ก็มีโอกาสที่จะบริหารธุรกิจให้ดี ให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูง และผู้บริหารเองก็ได้ผลตอบแทนสูงตามไปด้วย เพราะถือหุ้นไว้มากนั่นเอง
📌 ส่วนที่ 3 : ผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน
เป็นส่วนที่แสดงเกี่ยวกับรายงานทางการเงินและการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงคำอธิบายเพิ่มเติมของฝ่ายจัดการด้วย
เป็นส่วนที่สำคัญเช่นกัน เพราะการวิเคราะห์งบการเงิน และการดูอัตราส่วนทางการเงิน จะช่วยทำให้เห็นธรรมชาติของธุรกิจได้
ซึ่งในงบการเงินนี้ ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจมันได้ จะทำให้เรารู้อะไรหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ในกิจการโดยแสดงผลออกมาเป็นตัวเลขได้
เช่น บริษัทมีความแข็งแกร่งเพียงใด ทำกำไรได้ดีหรือไม่ บริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินเป็นอย่างไร ถ้าผลดำเนินงานของกิจการดี ก็จะส่งผลต่อราคาหุ้นที่ดีในระยะยาว
สำหรับสิ่งที่ควรพิจารณาเน้นๆ หน่อย มีดังนั้น
- กิจการมีหนี้สินระยะยาวมากแค่ไหน เจ้าหนี้การค้าเป็นเท่าไร อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นเท่าไร (ดูที่งบดุล)
- อัตราการเติบโตของรายได้และกำไรเป็นอย่างไร สูงขึ้นหรือลดลง ถ้าเติบโตคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ (ดูที่งบกำไรขาดทุน)
- กิจการมีการขยายการลงทุนอะไรเพิ่มหรือไม่ (งบกระแสเงินสด)
หากนักลงทุนต้องการเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ควรศึกษา 56-1 ในทุกปีสำหรับหุ้นที่ลงทุนอยู่
จะช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนของเราให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ และยังลดโอกาสความผิดพลาดให้น้อยลงด้วย เพราะข้อมูลที่จำเป็นและสำคัญของหุ้นล้วนอยู่ใน 56-1 นี้หมดแล้วค่ะ
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือนค่ะ 😊
ติดตามอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา