28 ก.ย. 2022 เวลา 17:59 • หนังสือ
ผมขอแนะนำ “หนังสือที่เปลี่ยนมุมมองชีวิตและความจริงแห่งโลก” ของผมครับ
1) Outliers
by Malcolm Gladwell
สิ่งที่ผมเรียนรู้จาก Outliers คือ เอาเข้าจริงๆ ชีวิตประกอบไปด้วยบุญเก่าและบุญใหม่ครับ คล้ายๆกับคำพูดที่ว่า
ไม่มีนกตัวใดบินสูงเกินไป ถ้ามันบินด้วยปีกของตัวมันเอง นั้นคือลมใต้ปีกที่มาหนุนให้นกตัวนั้นลอยสูงขึ้น คือโอกาส คือจังหวะเวลา ที่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าถึงได้ มันคือสิ่งที่ผมเรียกว่าบุญเก่า แต่ความมานะพยายามที่นำคนๆนั้นเข้าสู่โอกาสหรือจังหวะดีๆก็คือบุญใหม่ที่เขาต้องสร้างขึ้นมาเอง
1
Luck is what happens when preparation meets opportunity
Seneca
ผมขอยกเอา highlights ของหนังสือเล่มนี้เท่าที่ผมพอจะจำได้ดังนี้ครับ
# วัฒนธรรมทำให้เครื่องบินตกได้หรือ?
ผมตัดสินใจเป็น FC ของ Malcolm Gladwell ทันทีที่อ่าน Outliers จบ และมีอยู่บทหนึ่งที่เป็นกรณีศึกษาราคาแพงลิบในประเด็นโครงสร้างอำนาจและ subculture หรือ main culture ในองค์กรต่างๆ
เหตุเกิดด้วยเครื่องบินของสายการบินจากเอเชียตก มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าตัวเครื่องไม่มีข้อบกพร่องใดๆ
เมื่อนำข้อมูลจากกล่องดำ หรือ onboard data recorder มาถอดเทป ปรากฎว่าพบเรื่องราวของบทสนทนาระหว่าง กัปตันและผู้ช่วยนักบิน ประมาณว่า
อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งแจ้งเตือนถึงค่าที่ผิดปกติและอาจเป็นอันตรายต่อการบิน นักบินผู้ช่วยเห็นแล้ว แต่กัปตันยังไม่สนใจ นักบินผู้ช่วยไม่กล้าแจ้งเตือนหรือทักท้วง เพราะอาจหมายถึงการไม่ให้เกียรติ์และอาจเป็นการไม่เคารพต่อการตัดสินใจของผู้อาวุโสซึ่งก็คือกัปตัน และอาจมีผลต่ออนาคตชีวิตนักบินของนักบินผู้ช่วยได้ ถ้ากัปตันไม่สนับสนุน!
สุดท้ายนักบินผู้ช่วยพยายามพูดอ้อมค้อม เพื่อเตือนกัปตันแทนที่จะรีบพูดตรงๆ จนทุกอย่างสายเกินไป !!!
# The Beatles
ช่วงยุค 1960s ณ เมืองที่มีสโมสรฟุตบอลใน English Premier League ที่มีคำขวัญว่า
“You will never walk alone.”
มีวงดนตรีวงใหม่ถือกำเนิดขึ้นที่นั่น และยังไม่เป็นที่รู้จัก โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่วงๆนี้ย้ายไปเล่นใน strip club แห่งหนึ่งในเยอรมัน
พวกเขาเล่นดนตรีวันละแปดชั่วโมง วันแล้ววันเล่า “day in, day out” แรมเดือนแรมปี
จนเมื่อเวลาผ่านไป ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เงินทองกลับมามากมาย แต่ชื่อเสียงของวงก็เริ่มเป็นที่รู้จัก จนในที่สุด วงเล็กๆวงนี้ที่มีชื่อวงว่า
“The Beatles”
ก็เป็นตำนาน!!!
ผมได้รับรู้เรื่องราวของ The Beatles จาก หนังสือ Outliers ของ คุณ Malcolm Galdwell โดยที่คุณ MG ได้ อธิบายไว้ว่า การเล่นดนตรีในคลับเปลื้องผ้าเป็นเวลาแปดชั่วโมงต่อวัน เป็นระยะเวลายาวนานนั้น คือหัวใจที่ทำให้ The Beatles มีโอกาสได้พัฒนาฝีไม้ลายมือจนไปเตะหูคนในย่านนั้น และคนทั้งโลกในที่สุด
# Bill Gates
คุณ Gates ในวัยนักเรียนสนใจเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ โดยในยุคนั้น “PC: Personal Computers” หรือ “คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล” ยังไม่มีจำหน่ายในสมัยนั้น
“คอมพิวเตอร์ในยุคนั้น” มีขนาดใหญ่และราคาแพงมากๆ (ราคาไปได้ไกลถึง $5 ล้าน USD) ผู้ที่จะเป็นเจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ต้องเป็น “องค์กรขนาดใหญ่” เช่น บริษัทขนาดใหญ่, ธนาคาร, หรือ “สถาบันระดับอุดมศึกษา”
”An IBM mainframe computer in 1970 (pictured above) cost $4.6 million and ran at a speed of 12.5 MHz (12.5 million instructions per second), which is a cost of $368,000 per MHz.”
Young Bill Gates ในสมัยนักเรียนนั้นอาศัยอยู่ในละแวกที่มี สถานศึกษาขนาดใหญ่พอที่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ และด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ Gates จะเป็นเพียงนักเรียน (ซึ่งผมจำไม่ได้ว่า อันที่จริงแล้วเขาเป็นนักเรียนที่นั่นหรือไม่) แต่เขาก็ได้มี “โอกาส” เข้าไปใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ในสถาบันแห่งนั้น ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง
ซึ่งใช่ว่าทุกสถาบันจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ใช้ และ Gates ยัง “โชคดีมาก” ที่เขาสามารถเดินทางไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ณ สถาบันแห่งนั้นได้เพราะเขาอาศัยอยู่ในละแวกนั้น!
Gates จึงมี “โอกาส” ที่เด็กที่เกิดในราวยุค 1950s คนอื่นๆไม่มี (Steve Jobs เกิดปีเดียวกับ Gates แต่ Jobs ยังไม่มีโอกาสที่ Gates มี) ในการได้ใช้คอมพิวเตอร์ราคาแพงกว่าบ้านเพื่อเรียนการเขียนโปรแกรมซึ่งต่อมา มันเป็น “โอกาส” ที่ทำให้ Gates ก่อตั้ง Microsoft และเขาได้กลายเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ
ถ้า Gates เกิดมาในยุคนี้ “ทักษะการเขียนโปรแกรม” ของเขาอาจทำให้เขามีงานดีๆทำ หรือเขาอาจเป็นเจ้าของบริษัท Tech ดีๆซักแห่ง แต่ยุค Ai มันเป็นยุคที่เป็น game changer และ “คู่แข่ง” ของ Gates จะมีเยอะมากๆ
ซึ่งก็นับว่า Gates เกิดมาในยุคสมัยที่ส่งเสริมให้โอกาสที่เขามีเป็น “โอกาสพันล้าน!”
# เมื่อโลกเปลี่ยน, “ชีวิต” ก็เปลี่ยน!
ในยุคหนึ่ง นักกฎหมายส่วนใหญ่ใฝ่ฝันที่จะทำงานใน Law firms ที่คดีใหญ่ๆที่ทำเงินมักเป็นคดีฟ้องร้อง “การหย่าร้าง” ของผู้มีฐานะ
มีนักกฎหมายจบใหม่ที่ไม่มีเส้นสายคนหนึ่ง ไม่สามารถเข้าทำงานใน Law firm ใหญ่ๆได้ เขาได้งานทำคดีที่ไม่มีใครอยากทำในยุคนั้นคือ “การควบรวมกิจการ” (merger) ของบริษัทต่างๆ
แต่เมื่อเขาทำคดีลักษณะนี้จนมีความชำนาญ วันเวลาเปลี่ยนไป “การควบรวมกิจการ” กลายเป็นคดีที่ทำเงินมหาศาลในเวลาต่อมา และทำให้นักกฎหมายผู้ไร้เส้นสายคนนี้กลายเป็น “เศรษฐี” ในที่สุด
2) The Obstacle is the Way
by Ryan Holiday
”The impediment to action advances action. What stands in the way becomes the way.”
Marcus Aurelius, The Emperor of Rome
ผมแปลในแบบของผมว่า
”จงเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นทางลัดสู่เป้าหมาย”
ผมเรียนรู้เรื่องราวของพระจักรพรรดิแห่งกรุงโรมท่านนี้ที่ท่านทรงใช้พระชนม์ชีพส่วนใหญ่อยู่ในสนามรบ ท่านเองได้ทรงเขียนบันทึกส่วนพระองค์ขึ้นมา ซึ่งต่อมากลายเป็นหนังสือที่มีชื่อว่า Meditations
ผมรับรู้เรื่องราวดังกล่าวมาจาก Ryan Holiday ซึ่งเขาเองโชคดีมากที่ได้อ่าน Meditations ตอนที่เขาอายุเพียง 17 ปี และเขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวบางส่วนที่น่าสนใจผ่านหนังสือของเขาที่มีชื่อว่า
The Obstacle is the Way
3) The Power of Habit
by Charles Duhigg
หนังสือ The Power of Habit by Charles Duhigg เปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตของผมไปตลอดกาล
ผมยกตัวอย่างง่ายๆคือ เมื่อเราพบเจอสถานการณ์ที่วนเวียนเข้ามาในชีวิต เช่น เรารู้สึกหิว สิ่งที่ตามมาคือการเลือกที่จะตอบสนองต่อสิ่งเร้าซึ่งในที่นี้คือความหิว นั่นคือ เราสามารถเลือกได้ว่า เราจะกินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่ สุดท้ายเมื่อคุณกินแล้วคุณก็จะอิ่ม
ทั้งหมดจะทำงานเป็น loop นั่นคือ cue (ความหิว), routine (การเลือกกินอาหาร ไขมันสูง/ไขมันตำ่), reward (หายหิว) เป็นวงกลมวนๆอยู่อย่างนี้
แน่นอนว่า เราหลีกเลี่ยงความหิวไม่ได้ และเราคาดหวังความอิ่มเป็นรางวัล แต่สิ่งที่เราเลือกที่จะเป็น routine ได้คือคุณภาพของอาหารที่เรากิน ซึ่งจะไปส่งผลถึงสุขภาพของเราในระยะยาว
โฆษณา