30 ต.ค. 2022 เวลา 02:49 • นิยาย เรื่องสั้น

ตอน ขบปัญหา 'ดินหายไปไหน?'

เรื่องเล่าไขคดีปริศนาในเมืองเดลฟท์
ตอนที่ 30 ขบปัญหา"ดินหายไปไหน?"
ผู้แต่ง:เกรแฮม แบรค
ผู้เล่า:สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
'เมอร์คิวเรียส' อดสงสัยตัวเองไม่ได้ว่าทำไมหนอพอเขาสามารถไขปริศนาข้อหนึ่งได้สำเร็จ ไม่นานก็มีคนนำปริศนาข้อใหม่มาให้เขาขบคิดอีก
เกี่ยวกับเรื่องดินแล้วเมอร์คิวเรียสมองไม่เห็นความแตกต่างของมัน ชาวไร่ชาวสวนอาจมีทักษะแยกแยะดินแต่ละประเภทเหมือนอย่างกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์สามารถแยกแยะคุณภาพไวน์จากรสขาติ สี และกลิ่น
เมื่อเมอร์คิวเรียสแยกจากฮาร์เมนแล้วเขาก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อไปบ้านของชายที่ชื่อ'แจน เปียเตอร์ซั่น' แต่ระหว่างเดินไปนั้นสมองของเขาก็ขบคิดตลอดเวลาเพื่อตอบคำถามเรื่องดินที่หายไป
 
เมอร์คิวเรียสเชื่อว่าถ้าเขาเดินไปคิดไปสมองน่าจะแล่นได้ดีกว่าคิดอยู่กับที่แต่แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถคิดไปดูผืนดินไปพร้อมๆกัน เขาจึงตัดสินใจหยุดเดิน แล้วหาที่นั่งเหมาะๆแถวประตูรั้ว
เมอร์คิวเรียสนึกขำตัวเองที่มั่นใจมาตลอดกับมันสมองของตนเองว่ามีความฉลาดเป็นพิเศษไม่น้อยหน้าใครในยุโรปไม่อย่างนั้นมหาวิทยาลัยคงไม่ยอมรับเขาเป็นอาจารย์เป็นแน่
เมอร์คิวเรียสเคยร่ำเรียนตรรกศาสตร์มาอย่างลึกซึ้งเขาควรที่จะหาคำตอบนี้ได้สิแต่ทำไมเขายังคิดไม่ออก
เขาจำคำสอนของศาสตราจารย์เอเดรียน เฮียร์บอร์ดตอนอยู่ปีหนึ่งได้ว่าการจะแก้ปัญหาใดๆจะต้องเอาตัวออกมาจากสิ่งแวดล้อมของปัญหาก่อน แล้วไตร่ตรองดูว่าปัญหาอะไรถึงจะเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ น่าเสียดายที่ท่านเสียชีวิตหลังจากที่เมอร์คิวเรียสเจอท่านได้ไม่นาน
Adriaan Heereboord นักปรัชญาชาวดัทช์ wikipedia
บ่อยครั้งที่รูปแบบของปัญหาดูยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยประเด็นแปลกปลอมก่อให้เกิดความสับสนและก่อผลต่อจิตใจ
อย่างเรื่องที่คนใช้สาวสวยได้เล่าให้เขาฟังและในเวลาต่อมากะลาสีขี้เมาก็มาเล่าให้เขาฟังในเรื่องเดียวกันโดยบังเอิญ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเชื่อว่าสิ่งที่คนใช้สาวพูดเป็นข้อเท็จจริง
เมอร์คิวเรียสพยายามนำหลักการของอาจารย์ท่านนี้มาใช้ขบปัญหา ตอนแรกเขานึกถึงการหาน้ำมาดื่มให้สบายใจก่อนแต่ตอนนี้คงไม่ได้แน่นอน เอาอย่างนี้เริ่มจากคำถามว่า
'ทำไมคนร้ายถึงต้องเคลื่อนย้ายดินออกไป?'
คำตอบที่เป็นไปได้คือคนร้ายต้องการใช้ดิน แต่คนร้ายก็สามารถไปหาดินจากที่อื่นแทนก็ได้นี่ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องใช้ดินตรงหลุมศพ
คำตอบที่เป็นไปได้อีกข้อหนึ่งคือคนร้ายไม่ต้องการทิ้งดินที่เหลือไว้เป็นหลักฐานแต่ก็อาจแย้งได้ว่าถึงทิ้งดินไว้มันก็ไม่ได้โยงไปถึงเขาได้เพราะเกอร์ทรูย์ดไม่ได้ถูกฆ่าตรงนั้น
คำตอบที่สามคือถ้าปล่อยดินที่เหลือไว้ตรงนั้นมันจะเป็นที่สังเกตเห็นได้ง่าย คำตอบนี้ดูมีน้ำหนัก
หน้าดินตรงหลุมศพถ้ามันราบเสมอกับบริเวณรอบๆมันก็จะไม่โดดเด่น แต่ถ้าหน้าดินตรงหลุมปูดสูงกว่ารอบๆมันก็จะยิ่งดูคล้ายหลุมศพ
ถ้าคนร้ายไม่อยากให้ใครเห็นหลุมศพแล้วทำไมไปฝังศพตรงทางแยกล่ะ? คำตอบที่เป็นไปได้คือคนร้ายทนไม่ได้ที่จะทิ้งศพไว้โดยจะไม่มีใครมาพบในภายหลังหรือพูดให้ชัดว่าคนร้ายต้องการให้มีคนมาพบต่างหากเล่า
ขณะที่เมอร์คิวเรียสเอามือเกาศีรษะด้วยความหงุดหงิดอยู่ๆความจำบางอย่างก็โผล่เข้ามาในความคิด
แวนลิวเวนฮอคเคยพูดว่าพื้นที่โดยรอบหลุมศพไม่มีต้นไม้ที่จะเอามาใช้ตกแต่งหลุมศพ
สมมติว่าคนร้ายฝังศพเสร็จแล้วเกิดมีความคิดที่จะแสดงความเคารพต่อศพจึงพยายามหาก้อนหินหรืออะไรก็ได้ที่จะมาใช้ในการแสดงออก
อีกอย่างด็อกเตอร์เดอ กร๊าฟ ก็ได้ยืนยันแล้วว่าคนร้ายพยายามช่วยชีวิตเกอร์ทรูย์ด นอกจากนี้มันง่ายกว่ามากที่คนร้ายจะโยนศพลงในคลองหากเขาไม่ใส่ใจต่อการให้เกียรติศพ เขาขุดหลุมอย่างปราณีต และเขาก็วางศพอย่างทะนุถนอม เป็นไปได้ไหมว่าเขามีเจตนาฝังศพตรงทางแยกเพื่อให้สัญญาลักษณ์ไม้กางเขนได้ปกป้องคุ้มครองศพ?
ถ้าเช่นนั้นมันก็บอกให้รู้บางอย่างเกี่ยวกับคนร้าย พวกคาทอริกให้ความเคารพต่อไม้กางเขน แต่โปเตสแตนต์ไม่ให้ความสำคัญกับไม้กางเขน แต่ถึงแม้เขาไม่ใช่ทั้งสองลัทธิ เขาก็อาจเป็นผู้มีศรัทธาต่อไม้กางเขนก็ได้
Christian cross on top of Bukit Kasih, Kanonang, Kawangkoan, North Sulawesi, Indonesia wikimedia
ทีนี้ลองสมมติว่าคนร้ายมีศรัทธาต่อไม้กางเขนก่อน แล้วในเวลานั้นเขาต้องการทำสัญญลักษณ์ไม้กางเขน แต่รอบๆตัวเขาไม่มีต้นไม้ ตัวเขามีแต่พลั่วและอาจมีมีด ดังนั้นเพื่อไม่ให้หลุมศพที่ยังเสร็จไม่สมบูรณ์ถูกพบเห็นเสียก่อนที่จะทำเสร็จเขาจึงรีบขนกองดินที่เหลือออกโดยขนใส่เกวียนแล้วเอาดินไปทิ้งที่อื่น
เขาย้อนกลับมาที่หลุมศพอีกครั้งพร้อมอุปกรณ์ เขาตอกไม้กางเขนลงบนดินด้วยฆ้อนหรืออาจใช้เท้ากดลงไป
ถึงตรงนี้เมอร์คิวเรียสรู้เหตุผลของการที่ต้องเอาดินที่เหลือออกไปแล้ว ประเด็นต่อไปคนร้ายเอาดินไปทิ้งที่ไหนล่ะ? คิดดูแล้วดินก็คือดิน มันมีประเด็นก็ตอนที่มันกองอยู่ตรงหลุมศพ แต่ดินกองนี้เมื่อไปอยู่ที่อื่นมันก็ไม่แตกต่างจากดินทั่วไป
เมอร์คิวเรียสนึกถึงหลักการของ'ออคแคม'ที่กล่าวว่า"เราไม่ตั้งข้อสมมติฐานเกินความจำเป็น" คราวนี้เมอร์คิวเรียส ลองเพ่งมองที่กองดินแล้วนึกหาวิธีเคลื่อนย้ายดิน
สมมติต่อไปว่าพาหนะที่ใช้ขนย้ายคือเกวียน แน่นอนว่ามันจะต้องถูกใช้สองครั้ง ครั้งแรกคือการขนดินใส่เกวียน ครั้งที่สองคือการขนดินออกจากเกวียน
ถ้าจะให้สะดวกกับคนร้ายเข้าไปอีก ถ้าคนร้ายยืนตรงมุมของที่ดินแล้วใช้พลั่วตักดินในเกวียนทิ้งดินลงถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะล่ะ คิดถึงตรงนี้สมองของเมอร์คิวเรียสก็ปลอดโปร่งโล่งสบายทันที เขารีบเดินต่อไปเพื่อไปหาแจน เปียร์เตอร์ซั่นทันที
- - - - - - - - - - - - - - - -
จบตอนที่ 30
โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป
ขอบคุณทุกท่าน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
โฆษณา