23 ธ.ค. 2022 เวลา 14:00 • ไลฟ์สไตล์

ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?

บางคนกำลังมีความสัมพันธ์ที่อยู่ในจุดที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย จนเกิดความสับสน ลังเลหรือไม่แน่ใจ และมีคำถามเกิดขึ้นกับตัวเองว่า "ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?"
ความสัมพันธ์ในด้านความรัก คือ ความเกี่ยวพัน ซึ่งมี "ความรัก - ที่ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีเหตุผล" เป็นตัวเชื่อมระหว่างคนสองคน โดยต่างฝ่ายต่างได้รับการดูแลและเอาใจใส่จาก"กันและกัน” จนทำให้กลายเป็นความสัมพันธ์ต่างๆ เช่น ระหว่างครอบครัว ระหว่างคนรัก ระหว่างเพื่อน หรือความสัมพันธ์อื่นๆ ที่ทำให้เรามี"ตัวตน" และกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เรามีในสังคม
มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ความเกี่ยวพันของคนสองคนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดี แต่การเป็น “ผู้ให้” จากทั้งสองฝ่าย เป็นพื้นฐานสำคัญของทุกความสัมพันธ์ที่จำเป็น"ต้องมี"
การให้ในที่นี้ คือ การดูแลด้วยความใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ และการปฏิบัติต่อกันและกันอย่างเคารพตามขอบเขตที่แต่ละฝ่ายมี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นด้วยความสมัครใจ ไม่บังคับหรือเรียกร้อง เพราะความสัมพันธ์แบบนี้เป็นการกระทำของความรักที่ไร้เงื่อนไขที่ต่างฝ่ายมีให้กันและกันนั่นเอง
1
ดังนั้น ถ้าเราเป็น “ผู้ให้” เพียงฝ่ายเดียว เราจะรู้สึกหนักและเหนื่อยโดยไม่มีเหตุผล ที่บ่อยครั้งทำให้รู้สึกถึงความทุกข์ แต่ถ้าเป็นทั้ง”ผู้ให้และผู้รับ”จากทั้งสองฝ่าย จะรู้สึกได้ถึงความสบายใจและมีความสุข
ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้น จะเป็นความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือเกิดขึ้นมานานสักระยะหนึ่งแล้ว แต่เมื่อมาถึงจุดๆหนึ่ง แล้วรู้สึกสับสนหรือไม่แน่ใจกับความสัมพันธ์ที่มี นั่นหมายความว่า
1) เราไม่พร้อมกับความสัมพันธ์นั้น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ถ้าทั้งสองพร้อม ต่างฝ่ายจะไม่เสียเวลาเล่นเกม เพื่อยื้อหรือรั้งความสัมพันธ์นั้นไว้ ถามว่า ต้องการใช้เวลานานแค่ไหน เพื่อพิสูจน์และตัดสินได้ว่า"คนนั้น"เหมาะที่จะอยู่ในชีวิตของเราหรือเปล่า
1
การกระทำจากแต่ละฝ่าย คือ ผลพิสูจน์ที่ชัดเจนกว่าคำพูดใดๆเสมอ
ถ้าให้มองความสัมพันธ์เหมือนตะเกียบสองข้าง หากขาดข้างใดข้างหนึ่ง ก็ไม่อาจแสดงบทบาทที่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ ที่ให้กลายเป็น "ตะเกียบ"
เช่นเดียวกันกับความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน หากขาดข้างใดข้างหนึ่ง ก็ไม่อาจแสดงบทบาทที่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ ที่ให้กลายเป็น "ความรัก" ได้
2) เขาคนนั้น คือ คนไม่ใช่ของเรา
ถ้าคนนั้นคือคนที่ใช่ คำตอบจะชัดเจน เราจะไม่สับสนหรือลังเล และมีคำถามที่ยื้อเวลาตัวเองเพื่อหาคำตอบโดยหลอกตัวเองว่า เขาคือคนที่ใช่
ความสัมพันธ์แบบนี้เหมือนการเติมน้ำใส่แก้วที่รั่ว เราเป็นน้ำ อีกคนเป็นแก้วรั่ว - ที่เติมเท่าไหร่ก็"ไม่เคยเต็ม" ในขณะที่เราเติมน้ำใส่แก้ว ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อซ่อมแก้วรั่วนั้นไปด้วย จึงทำให้รู้สึกเหนื่อย ดังนั้น
1) ความรักที่ดี.. จะไม่ต้องอดทน
2) ความรักที่ดี.. จะไม่เหนื่อย
เพราะคนสองคนต้องเป็นทั้ง"ผู้ให้และผู้รับ" ต่อกันและกันอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรามีนิยามของคำว่า "ความรัก" ที่แตกต่างกัน สุดท้ายแล้ว คนที่ตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กับความสัมพันธ์นั้น หรือเลือกที่จะไปจากความสัมพันธ์นั้น ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือ ตัวเรา
ดังนั้น คิดและเลือกตัดสินใจให้ดี - ไม่ใช่เพื่อใคร.. แต่เพื่อตัวเอง
ความรักและความสัมพันธ์ มีทั้งดีและไม่ดีที่มีผลต่อสุขภาพจิตใจของเรา เช่นเดียวกับประสบการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราทุกคน
ดังนั้น อย่าให้ความรักและความสัมพันธ์ที่เลวร้ายที่ผ่านมา มากำหนด"ตัวตน"ของเรา หรือให้เป็นเพียงเป้าหมายเดียวในชีวิต
ถ้าคิดให้ดี เราสามารถมีความรักได้ตลอดในช่วงชีวิต ความรักไม่ได้ยากและน่ากลัวอย่างที่"เราคิด"อย่างที่ใจอยากให้เป็น บางคนกว่าจะได้เจอรักแท้ ก็ต้องผ่านประสบการณ์ความเจ็บปวดและผิดหวังหลายครั้ง..
อย่าปล่อยให้ความผิดหวังกัดกินใจ จนทำให้สูญเสียคุณค่าในตัวเองและความเป็นตัวตนที่มี ไม่เช่นนั้น เรา(อาจ)จะกลัวกับการมีความรักอีกครั้ง
เมื่อเราพร้อม เราจะรู้ได้ด้วยตัวเอง..
บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร แล้วให้เวลาตัวเองรับรู้ทุกความรู้สึกอย่างที่เป็นและอย่างตรงไปตรงมา ปล่อยใจตัวเองให้เผชิญกับความหวั่นไหวและความไม่มั่นคงที่มีอยู่ เรียนรู้จากที่ผ่านมา ค่อยๆลุกขึ้นและเริ่มต้นอีกครั้ง
เพราะความรัก ควรเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตที่เราทุกคนควรได้รับ
1
เพราะการได้รักและการถูกรัก คือ ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของพลังงานชีวิต ที่เข้ามาช่วยเติมความสุขให้กับเรา และเป็นพลังใจในการดำเนินชีวิตในทุกๆวัน นั่นเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา