6 ม.ค. 2023 เวลา 12:19 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
The Glory : การบูลลี่ในโรงเรียน ปัญหาสังคมที่ไม่ควรมองข้าม
The Glory เป็นซีรีส์ที่มีโครงเรื่องเกี่ยวกับการบูลลี่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้เมื่อ 2004 จนเหยื่อของการบูลลี่ (Bullying)
ต้องลาออกและทิ้งความฝันของตัวเองไป ส่วนคนที่บูลลี่ก็ยังคงอยู่ในสังคมแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่ไม่รู้ว่าเกือบ 20 ปีต่อมา ความผิดที่เคยทำไว้ จะย้อนกลับมาหาตัวเองอีกครั้ง
ปัญหาการบูลลี่ในโรงเรียน เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อยในเกาหลีใต้ แล้วยิ่งการมาของโซเชียลมีเดีย ทำให้การบูลลี่นั้นถูกพัฒนาขึ้นเป็นการกระทำการไซเบอร์บูลลี่ (Cyberbullying) ความรุนแรงของการกระทำเหล่านี้
ถึงขนาดที่ทำให้เหยื่อหลายคนพยายามจบชีวิตตัวเองลงเลยทีเดียว ดังที่เราน่าจะเคยเห็นข่าวในลักษณะนี้ผ่านๆ ตาอยู่บ้าง
ปรากฏการณ์บูลลี่ในเกาหลีใต้เป็นอย่างไร แล้วมันส่งผลกระทบต่อเหยื่อในระยะยาวได้อย่างไรบ้าง ทำไมหลายๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาการบูลลี่ในโรงเรียน?
📌 การบูลลี่ (Bullying) คืออะไร?
การบูลลี่ (Bullying) หมายถึง การกระทำเชิงลบ หรือการกระทำก้าวร้าวรุนแรงซ้ำๆ ที่มุ่งหวังทำร้ายอีกฝ่ายที่ถูกมองว่าอ่อนแอกว่า
พฤติกรรมการบูลลี่ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งการกระทำทางร่างกาย เช่น การทุบตี การชก การแตะต่อย
การกระทำทางวาจา เช่น การประนาม ยั่วยุ ข่มขู่ และปล่อยข่าวลือ หรืออาจจะรวมถึงพฤติกรรมอื่นๆ เช่น การกีดกันทางสังคม
โดยทั่วไปแล้วการบูลลี่เกิดขึ้นได้ในทุกที่และทุกช่วงวัย แต่ที่พักพบบ่อยที่สุดคือ การบูลลี่ในโรงเรียน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความรุนแรงที่พบเจอในโรงเรียนได้บ่อยที่สุด
พฤติกรรมความรุนแรงที่เกิดขึ้นเหล่านี้ สามารถส่งผลต่อเหยื่อที่ถูกบูลลี่ทั้งทางด้านพฤติกรรมทางสุขภาพ ผลลัพธ์ทางจิตใจ และสังคม
งานวิจัยส่วนมากพบว่าการบูลลี่สามารถนำไปสู่ผลที่ตามมาทางจิตใจและร่างกายอย่างร้ายแรง
เด็กที่ตกเป็นเหยื่อมีโอกาสสูงที่จะมีปัญหานอนหลับยาก วิตกกังวล ซึมเศร้า กลัวโรงเรียน รู้สึกไม่ปลอดภัย มีความมั่นใจในตัวเองต่ำ เหงาและโดดเดี่ยว
อีกทั้งการสำรวจยังพบว่าในระยะยาว เหยื่อที่เคยถูกบูลลี่ในวัยเด็กจะมีปัญหาในด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนรอบข้าง และอาจมีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรงในวัยผู้ใหญ่
📌 ทำไมการบูลลี่กันในโรงเรียน จึงพบได้มากในเกาหลีใต้?
เกาหลีใต้เป็นสังคมที่แข่งขันกันสูงมากในทุกๆ ด้าน นักเรียนเกาหลีมักจะถูกกดดันให้ต้องแข่งขันเพื่อประสบความสำเร็จ นักเรียนเหล่านี้จะไม่มองว่าเพื่อนร่วมชั้นเป็นเพื่อน แต่จะมองว่าเป็นคู่แข่งมาตั้งแต่แรก
จากการสำรวจของกระทรวงศึกษาธิการ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี พบว่า 1 ใน 10 ของนักเรียนชั้นประถมและมัธยมในเกาหลีใต้ ต้องทุกข์ทรมานจากความรุนแรงภายในโรงเรียนที่เกิดจากฝีมือของเพื่อนร่วมชั้น
  • ในปี 2013 มีการรายงานว่ามีการบูลลี่กันในโรงเรียนทั้งสิ้น 11,749 เคส
  • ในปี 2019 การบูลลี่กันในโรงเรียนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวกลายเป็น 31,130 เคส
งานวิจัยจึงได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเด็กอายุ 10 - 17 ปี กว่า 3,200 คนในเกาหลีใต้
โดยให้ผู้เข้าร่วมวิจัยตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับอายุ เพศ ชั้นเรียน การศึกษาของผู้ปกครอง การมีพี่น้อง ผลการเรียน สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม ความพึงพอใจในตัวเอง สุขภาพ ความสัมพันธ์กับผู้ปกครอง และคำถามที่เกี่ยวกับข้องการบูลลี่ เพื่อจะได้หาลักษณะรูปแบบของคนที่ถูกบูลลี่ และจับตาดูความเสี่ยงไว้แต่แรกจะได้ช่วยได้ทัน
จากผลสำรวจพบว่าเหยื่อของการถูกบูลลี่ส่วนใหญ่มีแนวโน้มเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
สำหรับผู้หญิงช่วงอายุที่โดนบูลลี่มากที่สุด จะเป็นช่วงอายุ 13 - 14 ปี
ในขณะที่สำหรับผู้ชายจะเป็นช่วงอายุ 10 - 12 ปี
เมื่อเจาะลึกลงไปถึงลักษณะของเหยื่อการบูลลี่ พบว่าคนที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำ มีผลการเรียนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีอาการซึมเศร้า และมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับผู้ปกครอง มักจะตกเป็นเหยื่อของการถูกบูลลี่ได้มากกว่า
📌 แล้วควรทำอย่างไรถึงจะลดปัญหาการบูลลี่ได้?
ปัญหาการบูลลี่กันในโรงเรียน ก็เป็นปัญหาที่ทางเกาหลีใต้เองไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาแม้โรงเรียนส่วนใหญ่ในโซลจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด
แต่การบูลลี่มักจะเกิดขึ้นในที่ลับตาคน ในมุมอับที่กล้องวงจรปิดมองไม่เห็น จึงมีการส่งเสริมให้ครูคอยดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด
มีการจ้างครูและที่ปรึกษาเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือการพยายามเปลี่ยนวัฒนธรรมในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดให้เบาบางลง ทำให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัยและสนุกสำหรับเด็กๆ เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้เพื่อที่จะเติบโตต่อไป แต่สิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้แก้กันได้ง่ายๆ ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ผู้เขียนเองรู้สึกว่าซีรีส์เกาหลีหลายเรื่อง พยายามสอดแทรกประเด็นปัญหาการบูลลี่กันในโรงเรียนไว้อยู่เสมอ อาจจะเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้ตระหนักรู้ว่ามีเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริง
และหวังว่าสถาบันครอบครัว จะเป็นสถาบันแรกๆ ที่ช่วยขัดเกลาสั่งสอนเรื่องพวกนี้ เพราะอย่างที่เราก็คงจะเห็น ว่าการบูลลี่ของเด็กในโรงเรียนที่หลายคนมักบอกว่าเป็นการเล่นขำๆ แต่กลับสร้างแผลเป็นทั้งร่างกายและจิตใจแบบยากที่จะเยียวยา และกลายเป็นปัญหาสังคมขนาดใหญ่ที่เราไม่สามารถจะมองข้ามไปได้
ผู้เขียน: ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference
เครดิตภาพ : Netflix

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา