20 มี.ค. 2023 เวลา 09:26 • ท่องเที่ยว
น่าน

ระหว่างเดินทาง l Nan Ep.2

ตัวเมือง - โค้งหมายเลขสาม - โค้งพับ - ร้านอาหาร - สะปัน
📌 ⛰ เรื่องเล่าย้อนลอย : การเดินทางเที่ยวน่านคนเดียวของเรา 22-26 พฤศจิกายน 65
ท้องอิ่มใจอิ่ม
เช้านี้เริ่มต้นที่หาของกินรองท้องที่ตลาดเช้าในตัวเมือง เดินเล่นในสวนแอบดูคุณป้ารำพัด การเป็นผู้แอบเฝ้ามองก็สร้างความเพลิดเพลินให้คนขี้เสือกเหมือนกันนะ เราเห็นความไม่พร้อมเพรียงที่สบายตา จังหวะที่ตบพัดไม่เท่ากันแล้วไม่มีเสียงหรือสายตาของการตำหนิจากเพื่อนๆ ฟิลลิ่งเหมือนต่างคนต่างจังหวะแต่อยู่ในเพลงเดียวกัน
ข้าวกั้นจิ้น ซื้อเพราะชื่อล้วนๆ
นั่งดูคุณป้าๆ รำพัด
เตรียมตัวเตรียใจ
เรากลับมาที่พักเตรียมของ และแวปไปหาร้านมือถือใกล้ๆที่บึ๊กซี เพราะจากที่เจอมาปีก่อนสัญญาณมือถือและอินเตอร์เน็ตของค่ายที่เราใช้มักหายไปดื้อๆแล้วก็ดื้อไม่ยอมกลับมาง่ายๆ ปีนี้เราเลยเตรียมซิมมารอแต่ติดตรงที่เราแกะซิมไม่ออก เลยต้องไปพึ่งพี่ๆผู้เชี่ยวชาญ เขาใช้เวลาไม่นานเลยพร้อมกับมาสอนให้เราทำอีก
เราลองทำอยู่อีกพักนึงกับเขาเอาให้ชัวร์ เพราะถ้าหลังจากนี้ทำไม่ได้จะหาพี่ผู้เชี่ยวชาญยากแน่ๆในพื้นที่ที่ห่างออกไปเกือบร้อยกิโล ของพร้อมอุปกรณ์พร้อม เราก็ขอแวะไปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางของพื้นที่ซะหน่อยที่ศาลหลักเมือง เพื่อเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดี
.
ระหว่างทาง
ช่วงต้นของการเดินทาง ทางที่น่านจะเป็นทางราบซะส่วนใหญ่ แล้วเพิ่มเรื่องโค้งเข้ามา ให้เราได้เคาะสนิมการตบเกียร์ เบรก ชลอ เร่งความเร็ว เข้าโค้ง ให้มั่นใจ ความโชคดีก็คือถนนอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีมากๆ น้อยมากที่จะเจอทางขรุขระ เลยทำให้เรามีสมาธิกับการขับได้ง่ายขึ้น
โค้งเลขสาม
สำหรับเรา โค้งเลขสาม เป็นเหมือนประตูทางการที่บอกว่า ‘ต่อจากนี้ไม่ง่ายแล้วนะ’ เพราะถ้าขับเลยต่อจากนี้ก็จะเป็นทางเขาแบบจริงๆจังๆแล้ว ขึ้นและลงสลับกันไปเรื่อยๆ ยากที่จะทำความเร็วไม่ต้องพูดถึงมือใหม่อย่างเราขับได้ไม่เกิน 50 เดี๋ยวก็ต้องชลอแล้ว
โค้งเลขสาม ในวันที่เมฆมาก
โค้งพับบ่อเกลือ
ถัดจากโค้งหมายเลขสามได้ไม่ไกลนักก็มาถึง โค้งพับบ่อเกลือ เอาจริงๆเรารู้สึกว่ามารอบนี้ไม่ได้คิดว่ายากเท่าปีก่อนที่มา หรืออาจจะเพราะเรามาจากตัวเมืองด้วย จำได้ว่าปีก่อนกว่าจะถึงตรงนี้เหมือนเป็นรางวัลของความพยายามที่ทำได้เกือบถึงครึ่งนึงแล้ว เราเลยใช้โค้งพับเป็นอีกจุดนึงที่พักรถ ลงไปถ่ายรูปซะหน่อย
ช่วงที่ยืนชื่นชมและคิดถึงเส้นทางที่ผ่านมา เจอชาวต่างชาติคนนึง ขับมอไซค์เกียร์ออโต้พร้อมขาตั้งกล้อง จริงๆเจอตั้งแต่ที่โค้งเลขสามแล้ว แต่ตอนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นช่างภาพประจำที่โค้งเลขสาม แต่พอเจอที่นี่และได้ยินเขาคุยกับนักท่องเที่ยวคนไทย จึงรู้ว่าพี่แกตะลอนขับเที่ยว นับถือจริงๆที่กล้าขับมอไซค์เกียร์ออโต้มา ทางขึ้นไม่ค่อยเป็นห่วง กลัวช่วงขาลงนี่แหละที่ต้องคอยคุมความเร็วไม่ให้หลุดโค้งไปซะก่อน
โค้งพับบ่อเกลือ
นักท่องเที่ยวที่ผ่านก็จะต้องแวะซักหน่อย
ไม่ยอมศึกษาให้ดี จนได้เจอร้านใหม่
ตอนเราจองที่พักกับเปียงซ้อเขาให้ส่วนลดค่าเครื่องดื่มที่ร้านอาหารใกล้ๆกับบ่อเกลือ เราเลยแพลนว่าจะขับไปกินเป็นมื้อกลางวัน ร้านตั้งอยู่ในช่วงที่น่าจะเป็นมื้อเที่ยงสำหรับพอดิบพอดี แต่ติดอย่างเดียวคือ ร้านที่ใหญ่โตขนาดนี้ขายแต่เค้กกับน้ำหวาน ไม่มีของคาวให้เราได้ฝากท้อง ปัญหาจึงเกิดทันที
วิวข้างห้องน้ำของร้านกาแฟ
เราไม่มีแผนสำรองสำหรับร้านวันนี้เลย ครั้นจะไปกินที่สะปันก็อีกเกือบชั่วโมง หรือจะขับย้อนไปที่เดียวที่รู้จักก็ต้องเป็นช่วงในเมืองซึ่งห่างไปอีกว่า 50-60 กิโล และตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงกว่าเยอะแล้ว เราเลยต้องเอ่ยปากถามเจ้าของร้าน ได้ความว่ามีร้านข้าวซอยอยู่ก่อนถึงไม่ไกลเกิน 5 กิโล
เราไม่มีสิทธิ์ที่เลือก เลยต้องขับย้อนกลับไป แต่ที่แย่คือตอนที่เราขับมาเราเห็นป้ายบอกทางของร้าน แต่พอต้องขับย้อนเลยไม่มีป้ายชื่อร้านหรือจุดสังเกตุเลย เราขับถอยไปพอสมควรจนคิดว่า ‘ถ้าถึงโค้งพับบ่อเกลือ แปลว่าเลยแล้ว’ และพอเราเข้าโค้งมาและเห็นภูเขาสูงข้างหน้า รู้ได้ทันทีว่าเราคงเลยมาซักพัก
มองกระจกหลังแล้วตบไฟเลี้ยวทันที ตั้งต้นกันใหม่ ค่อยๆขับ มองหาป้าย สรุปคือจริงๆแล้วร้านข้าวซอยอยู่ไม่ได้ไกลจากร้านกาแฟมากนัก แต่ป้ายทางเข้านั้นเล็กเหลือเกิน ได้แต่เจ็บใจที่ปล่อยให้ความหิวและใจร้อนบังตาจนเลยร้าน
.
ข้าวซอย ที่เกือบวู่วาม
ถึงจะบอกว่าเป็นร้านข้าวซอย แต่ก็มีเมนูอย่างอื่นให้กินพอสมควร ไหนๆมาเหนือแล้วการจะพลาดของขึ้นชื่อตรงหน้าก็ดูจะกระไรอยู่ เราเลยสั่ง ‘ข้าวซอยไก่’ ไป รอไม่นานก็ได้ ภาพที่เห็นตรงหน้าบวกกับความหิวเราเลยประเมิณแวปแรกว่า ไม่น่าอิ่มแน่ๆ
แต่ยังดีที่เหมือนเรามีภูมิคุ้มกัน เลยมีอีกจิตดังขึ้นมา ‘ลองกินก่อน ไม่อิ่มค่อยสั่งยังมีเวลา’ แล้วก็เป็นดั่งที่คิด คือพอเริ่มกินไปได้เกือบครึ่ง ความหิวเริ่มโดนทดแทน ปริมาณอาหารที่ดูน้อย ก็กลายเป็น ‘พอดีอิ่ม’ สำหรับเรา ขอบคุณสติและจิตอีกด้านที่ดังขึ้นมา ไม่อย่างนั้นเราน่าจะต้องกิน 2 ชาม ที่อิ่มเกินพอดี
หน้าตาข้าวซอย
สะปัน
ถัดจากร้านอาหารประมาณ 40 นาที ป้ายหมู่บ้านสะปันที่อยู่ตรงทางขึ้นเนินก็เชิญชวนเราให้เลี้ยวรถเข้าไปอย่างเร็ว เข้ามารอบนี้ที่มีที่พักใหญ่มาเปิดดักนักท่องเที่ยวตั้งแต่เลยทางเข้ามาไม่ไกล เป็นที่พักที่วิวเป็นเขาที่อยู่ใกล้ที่พักเกินไป ถูกชดเชยด้วยการรับรองที่พักที่ดูหรูหราใหญ่โต สะปันปีนี้ดูใกล้เคียงเดิมกับเมื่อปีก่อน
มีหลายๆที่พักกำลังพุดขึ้นมา และบางที่พักที่หายไป สะพานปูนที่เป็นแลนมาร์กก็มีการจัดการให้จอดรถไกลออกไป เพื่อป้องกันรถติดของนักท่องเที่ยวที่มาจอดรถถ่ายรูปกับชาวบ้านที่ต้องสรรจรผ่านเส้นทางนี้ เราข้ามสะพานแล้วค่อยๆขับไต่ขึ้นไปยังที่พักในคืนนี้
...
#น่าน
#เป็นตัวของฉัน #เที่ยวคนเดียว
อ่านเรื่องราวก่อนหน้าได้ที่
- เหตุผลที่เราเลือกน่าน : https://www.blockdit.com/posts/6413eeadb1d82fa5d8cdb821
โฆษณา