24 มี.ค. 2023 เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์

ความรู้กับชีวิต

เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมต้นพืชในสวนป่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีการเจริญดีกว่าและเติบโตมากกว่าต้นพืชในกระถาง
รากของต้นพืชทำหน้าที่สำคัญ คือ ยึดลำต้น ดูดและลำเลียงน้ำ แร่ธาตุ รวมถึงสารอาหารต่างๆจากดินไปยังส่วนต่างๆของลำต้น เพื่อการเจริญเติบโต
ต้นพืชในกระถางไม่สามารถหาอาหารเองได้ จึงต้องรอรับการให้ปุ๋ยและรดน้ำ แถมรากก็ไม่มีอิสระชอนไชไปได้ไกลเพราะถูกควบคุมด้วยขอบกระถาง จึงทำให้การเติบโตถูกจำกัด
ต่างจากต้นพืชในสวนป่าธรรมชาติ ที่รากไม่มีสิ่งใดมาควบคุม (ยกเว้นภัยธรรมชาติที่ไม่อาจเลี่ยงได้) จึงหาสารอาหารได้อย่างอิสระ ต้นพืชจึงสามารถปรับตัวเพื่อความอยู่รอดได้เองตามธรรมชาติ
ชีวิตของมนุษย์ก็ไม่ต่างจากต้นพืช เพราะต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการน้ำ อาหาร และปัจจัยจำเป็นอื่นๆเพื่อความอยู่รอด รวมถึงการดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อการเติบโต
เครื่องมือที่ช่วยให้เราเติบโตในชีวิตนั้น เรียกว่า ความรู้ เปรียบได้กับปัจจัยสำหรับต้นพืชบำรุงให้เติบโต ความรู้นั้นได้จากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ชีวิตในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วย
- เปิดโลกความสนใจที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และขยายโอกาสเพิ่มมุมมองให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น และค้นพบความเป็นตัวตนที่แท้จริง
- ทำให้เรามีความสามารถในการมองเห็นความจริง ทำให้มีเหตุและผลในการคิดวิเคราะห์ เป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน - ด้วยปัญญา
- ให้เราตัดสินใจเพื่อช่วยคัดสรรเลือกสิ่งที่ดี (what) และคนที่ดี (who) สำหรับชีวิต - ให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนตัว
เราต่างมีความรู้จากการศึกษาเล่าเรียน ซึ่งเป็นความรู้ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง - เป็นเรื่องเฉพาะอย่าง เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และอื่นๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และนำไปต่อยอดและกลายเป็นอาชีพการงานตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ เรามีความรู้จากการเลี้ยงดูอบรมจากต่างครอบครัวและวัฒนธรรม รวมถึงการผ่านประสบการณ์ชีวิตทั้งดีและร้าย ที่นำมาเป็นบทเรียน เพื่อต่อยอดในการใช้ชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องส่วนตัวและหน้าที่การงาน
รวมถึงความรู้ที่เกิดจากการอ่านเป็นปกตินิสัย การค้นคว้าและศึกษาเรื่องที่ตนสนใจเป็นพิเศษที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติที่เราแต่ละคนมี
ความรู้ต่างๆเหล่านั้น จะถูกสะสมอยู่ในคลังความรู้ส่วนตัว ซึ่งจะกลายเป็นตัวกำหนดในการเติบโตในทุกด้านของชีวิต ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวชี้นำในการดำเนินชีวิตประจำวัน สิ่งนั้นเรียกว่า กรอบความคิด (Mindset) - เปรียบได้กับ(กรอบ)กระถางต้นพืชนั่นเอง
เป็นที่น่าเสียดายว่า บางคนใช้ชีวิตเป็นเหมือนต้นพืชในกระถาง ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบกระถาง - มีความคิดที่ถูกจำกัดและสร้างขึ้นด้วยตัวเอง แทนการใช้พื้นที่อิสระที่ตนมีให้เป็นประโยชน์สูงสุดในการเรียนรู้ เพื่อนำไปต่อยอดในการสร้างอิสรภาพทางชีวิต ชีวิตจึงไม่เติบโตและก้าวหน้าตามศักยภาพที่แท้จริงที่มีอยู่
เพราะการเรียนรู้เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของชีวิต จึงมองว่า ความคิดไม่ควรมีกรอบกำหนด แต่เราควรรับรู้ความเป็นอิสระที่ตัวเองมี และปล่อยให้ตัวเองได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งเราเรียนและรู้มาก เราก็ยิ่งเข้าใจโลกและชีวิตมากขึ้น ความรู้จะค่อยๆสะสมกลายเป็นปัญญา (Wisdom) ฝังกลายเป็นคุณภาพส่วนบุคคล
กรอบความคิดมีสองแบบ - ตามนิยามที่เข้าใจเป็นส่วนตัว คือ
1) กรอบความคิดเติบโต (Growth Mindset)
เป็นความคิดแบบเปิดกว้าง – มองว่าตนยังมีความไม่รู้ และรับรู้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจและน่าค้นหา ทำให้มีการเรียนรู้ตลอดเวลา จึงมีความรู้ใหม่ๆ ที่ต่อยอดจนกลายเป็นปัญญา (knowledge and wisdom)
เปรียบได้กับต้นพืชที่อยู่ในสวนป่าตามธรรมชาติ - ชีวิตแบบนี้จะเติบโตได้อย่างเต็มที่ตามศักยภาพเพราะไม่มีกรอบกระถางความคิด
2) กรอบความคิดตายตัว (Fixed Mindset)
เป็นความคิดแบบยึดติด - มองว่าตนมีการศึกษาเล่าเรียน(สูง)ในระดับหนึ่งตามควรและสอดคล้องกับชีวิตแล้ว เรียนรู้และเข้าใจแล้ว ความรู้ที่มีนั้นเพียงพอต่อการดำเนินชีวิตแล้ว จึงไม่มีแรงกระตุ้นเพื่อให้ตัวเองเรียนรู้เพิ่มเติม ทำให้มีเพียงแค่ความรู้ (knowledge)
เปรียบเหมือนต้นพืชในกระถาง - ชีวิตจึงไม่เติบโตตามศักยภาพที่ควรเป็น เพราะมีความคิดเพียงแค่กรอบกระถาง ที่ถูกจำกัดและกำหนด.. ด้วยตัวเอง
ไม่สายเกินไปกับการเริ่มต้นเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้ไม่มีขีดจํากัด ไม่มีเวลาหรืออายุ และสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและทุกวัน
ไม่สายเกินไปกับการฝึกนิสัยให้ตัวเองกลายเป็นคนเรียนรู้ตลอดชีวิต
เราสามารถเลือกกำหนดชีวิตตัวเองได้ โดยเพิ่มความรู้ - จากการเรียนรู้จากสิ่งใกล้ตัวและรอบข้างให้เป็นนิสัย เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการช่วยคัดสรรเลือกสิ่งที่ดี (what) และคนที่ดี (who) เข้ามาในชีวิต แล้วคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเราก็จะดีขึ้น (well-being) และสามารถเติบโตเป็นไปตามนิยามที่เป็นของเราเองในที่สุด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา