23 มี.ค. 2023 เวลา 05:34 • ประวัติศาสตร์

โลกของไวน์ “Old World Wines VS New World Wines”

ความต่างของ ไวน์โลกเก่า VS ไวน์โลกใหม่
เพื่อน ๆ เคยได้ยินคำว่า ‘ไวน์โลกเก่า’ (Old world wines) หรือ ‘ไวน์โลกใหม่’ (New world wines) กันไหมครับ แล้ว เคยสงสัยไหมว่ามันคืออะไร? แตกต่างกันอย่างไร? ทำไมต้องแยกไวน์เป็น 2 คำแบบนี้
วันนี้เราจะมาหาคำตอบให้หายข้องใจกันครับ
คำว่า ‘ไวน์โลกเก่า’ หรือ ‘ไวน์โลกใหม่’ เป็นคำที่ใช้บ่งบอกเเหล่งผลิตของไวน์นั่นเองครับ รวมถึงยังสามารถบอกถึงรสสัมผัสเเละเอกลักษณ์ของไวน์นั้นๆ อีกด้วย ว่าเเต่ไวน์ทั้งสองอย่างนี้เเตกต่างกันอย่างไรละ เรามาทำความรู้จัก “ไวน์โลกเก่าเเละไวน์โลกใหม่” นี้กันเลยครับ
Old World Wine (ไวน์โลกเก่า) คือ ไวน์ที่ผลิตในกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปเกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นเเหล่งกำเนิดของไวน์ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี, สเปน, เยอรมัน, โปรตุเกส, ออสเตรีย, กรีซ, ฮังการี เเละที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือเจ้าเเม่เเห่งการทำไวน์ ประเทศฝรั่งเศสนั้นเอง ซึ่งประเทศเหล่านี้มีการผลิตไวน์มาเเล้วมากกว่า 4 ทศวรรษ โดยนอกจากเป็นเเหล่งกำเนิดไวน์เเล้ว ที่นี่ยังเป็นเเหล่งกำเนิดของกฏเเละเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกองุ่น การหมักไวน์ในถังโอ๊คเเละอื่นๆ ที่เป็นกระบวนการเเบบดั้งเดิมที่ทำกันมาหลายรุ่นต่อหลายรุ่น
New World Wine (ไวน์โลกใหม่) คือ ไวน์ผลิตในกลุ่มประเทศที่อยู่นอกทวีปยุโรปเเละมีการเริ่มผลิตไวน์ทีหลังมีทั้งอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีเเลนด์, อาร์เจนติน่า, เเอฟริกาใต้, อินเดีย, จีน, ญี่ปุ่นเเละประเทศไทยด้วย ส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมการผลิตไวน์จากกลุ่มประเทศไวน์โลกเก่า ประกอบกับในโซนอากาศของประเทศไวน์โลกใหม่ นั้นจะอุ่นกว่าทำให้องุ่นนั้นสุกกว่า ผลลัพธ์ที่ได้คือ ไวน์จะมีเเอลกอฮอล์เเละ body สูง เเละรสชาติผลไม้เด่นชัด ส่วนมากไวน์โลกใหม่ (New World) ก็จะใช้โอ๊คมากช่วยมากกว่าอีกด้วย
ในส่วนของเรื่องรสชาติและคาแรคเตอร์ของไวน์โลกเก่า VS ไวน์โลกใหม่
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า
“รสชาติของไวน์บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ตามเเหล่งที่ปลูก”
เป็นข้อความที่นิยามถึงรสชาติของไวน์ได้ระดับหนึ่ง
วันนี้เราขอเสนอความแตกต่างของไวน์ทั้ง 2 โลกนี้ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตามกันมาเลยครับ
เรามาเริ่มกันที่ไวน์โลกเก่ากันก่อนเลย โดยลักษณะของ Old World Wine (ไวน์โลกเก่า) จะมี body เเละเเอลกอฮอล์ที่เบากว่า (เเต่ก็ไม่เสมอไป) Acidity จะสูงกว่า มีรสสัมผัสไปทางพวกเเร่ธาตุมากกว่าผลไม้ เพราะปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น ความสุกก็อาจจะไม่รุนแรงเท่าไหร่ อย่างเช่น องุ่น Pinot Noir, Syrah เเละ Cabernet Sauvignon
เเต่ถึงแม้รสชาติส่วนใหญ่จะออกเเนวเเร่ธาตุ ก็ไม่ได้หมายความว่าไวน์โลกเก่าไม่มีความเป็นฟรุ๊ตตี้นะครับ อย่างอิตาลีนี่ก็ผลิตไวน์ที่ให้รสชาติผลไม้ได้ดี เเถมมีความหรูหรา เเละมีการเก็บไวน์ (เอจไวน์) ได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้คนที่ชอบไวน์โลกเก่าส่วนใหญ่จะติดใจความคลาสสิคของทั้งรสชาติไวน์เเละกระบวนการผลิตที่มีความเป็นขั้นเป็นตอนนั่นเอง
ส่วน New World Wine (ไวน์โลกใหม่) นั้นจะ Full-bodied มากกว่า มีความชุ่มฉ่ำมากกว่า มีรสเปรี้ยวน้อย แต่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงและหอมหวาน เพราะปลูกองุ่นในพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่นเช่น Chardonnay ในออสเตรเลีย มีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นของลูกพีชและมีความเปรี้ยวที่มีมากกว่า Chardonnay ที่ปลูกในพื้นที่ไวน์โลกเก่าหรือ Riesling ในออสเตรเลีย จะมีรสชาติที่เหมือนกับน้ำผึ้งและมะนาวต่างกับ Riesling ที่ปลูกในพื้นที่ของไวน์โลกเก่าเพราะโลกเก่าจะมีกลิ่นของแอปเปิ้ล
โฆษณา