19 เม.ย. 2023 เวลา 10:27 • หนังสือ

#18 HWG. — บทที่ 1️⃣1️⃣ (ส่วนที่ 1)

“เธออาจแตกต่างจากพระเจ้า แต่เธอไม่ได้แยกขาดจากพระเจ้า นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอไม่มีวันตาย”
▪️ผู้แปล : แอดมิน
🔸นี่เป็นงานแปลชิ้นที่ 2 ที่ผมตั้งใจแปลมากๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
𝗦𝗶𝘅𝘁𝗵 𝗥𝗲𝗺𝗲𝗺𝗯𝗿𝗮𝗻𝗰𝗲
ความทรงจำที่ 6️⃣
𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗱𝗶𝗳𝗳𝗲𝗿𝗲𝗻𝘁 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝗚𝗼𝗱, 𝗯𝘂𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼𝘁 𝗱𝗶𝘃𝗶𝗱𝗲𝗱 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝗚𝗼𝗱. 𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝘄𝗵𝘆 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗮𝗻 𝗻𝗲𝘃𝗲𝗿 𝗱𝗶𝗲.
“เธออาจแตกต่างจากพระเจ้า แต่เธอไม่ได้แยกขาดจากพระเจ้า นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอไม่มีวันตาย”
𝗖𝗵𝗮𝗽𝘁𝗲𝗿 𝟭𝟭
บทที่ 1️⃣1️⃣
𝗡𝗲𝗮𝗹𝗲 : 𝗡𝗼𝘄 𝗹𝗲𝘁 𝗺𝗲 𝗿𝗲𝘁𝘂𝗿𝗻 𝗽𝗹𝗲𝗮𝘀𝗲, 𝘁𝗼 𝘀𝗼𝗺𝗲𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗲𝗹𝘀𝗲. 𝗬𝗼𝘂 𝘀𝗮𝗶𝗱 𝗲𝗮𝗿𝗹𝗶𝗲𝗿 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗱𝗲𝘀𝗰𝗿𝗶𝗯𝗲 𝘀𝗼𝗺𝗲 𝗯𝗮𝘀𝗶𝗰 𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝗽𝗿𝗶𝗻𝗰𝗶𝗽𝗹𝗲𝘀 𝗼𝗳 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗺𝗮𝗸𝗲 𝗶𝘁 𝗲𝗮𝘀𝗶𝗲𝗿 𝗳𝗼𝗿 𝘂𝘀 𝘁𝗼 𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝘀𝘁𝗮𝗻𝗱 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗶𝘁𝘀𝗲𝗹𝗳, 𝗮𝗻𝗱 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵.
N : ตอนนี้ขอให้เรากลับไปที่ประเด็นก่อนหน้านี้ ที่ซึ่งพระองค์บอกเอาไว้ว่าจะอธิบายถึงหลักการทางจิตวิญญาณขั้นพื้นฐานของชีวิตที่จะทำให้เราเข้าใจชีวิตและความตายได้ง่ายขึ้น
𝗔𝗻𝗱 𝘄𝗵𝗶𝗹𝗲 𝘆𝗼𝘂'𝘃𝗲 𝘀𝗶𝗻𝗰𝗲 𝘁𝗼𝘂𝗰𝗵𝗲𝗱 𝗼𝗻 𝘀𝗲𝘃𝗲𝗿𝗮𝗹, 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗮𝗻𝘆 𝗼𝗻𝗲 𝘀𝗶𝗻𝗴𝗹𝗲 𝗯𝗮𝘀𝗶𝗰 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗽𝗿𝗶𝗻𝗰𝗶𝗽𝗹𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗰𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝘁𝗵𝗿𝗼𝘄 𝗼𝗽𝗲𝗻 𝘄𝗶𝗱𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗱𝗼𝗼𝗿 𝘁𝗼 𝗱𝗲𝗲𝗽𝗲𝗿 𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝘀𝘁𝗮𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴 𝗶𝗻 𝗼𝗻𝗲 𝗺𝗼𝗺𝗲𝗻𝘁?
ในขณะที่เราได้ทำความเข้าใจกับหลายๆประเด็นไปแล้ว แต่มันมีหลักการชีวิตขั้นพื้นฐานข้อใดอีกไหมครับที่จะสามารถเปิดประตูสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นให้เราได้ในช่วงเวลาสั้นๆ❓
𝗚𝗼𝗱 : "𝗬𝗲𝘀. 𝗔𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗶𝘀...
G : มีสิ และนั่นก็คือ...
𝗧𝗛𝗘 𝗦𝗜𝗫𝗧𝗛 𝗥𝗘𝗠𝗘𝗠𝗕𝗥𝗔𝗡𝗖𝗘
ความทรงจำที่ 6️⃣
𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗻𝗱 𝗚𝗼𝗱 𝗮𝗿𝗲 𝗼𝗻𝗲. 𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼 𝘀𝗲𝗽𝗮𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗯𝗲𝘁𝘄𝗲𝗲𝗻 𝘆𝗼𝘂.
“เธอและพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน #เช่นเดียวกับที่ไม่มีการแบ่งแยกใดๆระหว่างพวกเธอ”★
★พวกเราทุกคนก็เป็นหนึ่งเดียวกันเช่นกัน –ผู้แปล–
"𝗪𝗵𝗶𝗹𝗲 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗺𝗮𝘆 𝗮𝗽𝗽𝗲𝗮𝗿 𝘁𝗼 𝘀𝗼𝗺𝗲 𝘁𝗼 𝗯𝗲 𝗮 𝘃𝗲𝗿𝘆 𝗲𝗹𝗲𝗺𝗲𝗻𝘁𝗮𝗿𝘆 𝗽𝗶𝗲𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝗶𝗻𝗳𝗼𝗿𝗺𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻, 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗽𝗽𝗹𝘆 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗯𝗮𝘀𝗶𝗰 𝗽𝗿𝗶𝗻𝗰𝗶𝗽𝗹𝗲 𝗼𝗳 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗧𝗢 𝗹𝗶𝗳𝗲, 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝗮 𝗰𝗼𝗻𝘁𝗮𝗶𝗻𝗲𝗿 𝘄𝗶𝘁𝗵𝗶𝗻 𝘄𝗵𝗶𝗰𝗵 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗮𝗻 𝗵𝗼𝗹𝗱 𝗮𝗹𝗹 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗿𝗲𝘃𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗥𝗲𝗺𝗲𝗺𝗯𝗿𝗮𝗻𝗰𝗲𝘀 𝘆𝗼𝘂'𝘃𝗲 𝗯𝗼𝘂𝗴𝗵𝘁 𝘆𝗼𝘂𝗿𝘀𝗲𝗹𝗳 𝗵𝗲𝗿𝗲, 𝗮𝘀 𝘄𝗲𝗹𝗹 𝗮𝘀 𝘁𝗵𝗼𝘀𝗲 𝘁𝗼 𝗰𝗼𝗺𝗲.
แม้ว่าสำหรับคนบางคนแล้วเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องที่พื้นฐานมากๆ (ที่ผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณทุกคนควรต้องรู้เรื่องนี้) แต่เมื่อเธอนำหลักการขั้นพื้นฐานของชีวิตนี้ “ไปปรับใช้ในชีวิต” เธอได้สร้างภาชนะเอาไว้ภายในจิตใจที่ซึ่งทำให้เธอสามารถเก็บความทรงจำก่อนหน้านี้ทั้งหมดที่ติดตัวเธอมาเอาไว้ได้ที่นี่ เช่นเดียวกับความทรงจำที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง (หลังจากได้รู้ในสิ่งที่ฉันบอกหรือเตือนเธอให้จดจำถึงมันได้อีกครั้ง)
𝗧𝗵𝗲 𝗶𝗺𝗽𝗹𝗶𝗰𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗦𝗶𝘅𝘁𝗵 𝗥𝗲𝗺𝗲𝗺𝗯𝗿𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗮𝗿𝗲 𝗲𝗻𝗼𝗿𝗺𝗼𝘂𝘀. 𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗰𝗹𝗲𝗮𝗿 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗻𝗱 𝗚𝗼𝗱 𝗮𝗿𝗲 𝗼𝗻𝗲, 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼 𝘀𝗲𝗽𝗮𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗯𝗲𝘁𝘄𝗲𝗲𝗻 𝘆𝗼𝘂, 𝗶𝘁 𝗰𝗵𝗮𝗻𝗴𝗲𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗼𝗻𝘁𝗲𝘅𝘁 𝘄𝗶𝘁𝗵𝗶𝗻 𝘄𝗵𝗶𝗰𝗵 𝘆𝗼𝘂 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗲𝘃𝗲𝗿𝘆𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗶𝗻 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗵𝗮𝘀 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻𝗲𝗱, 𝗶𝘀 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻𝗶𝗻𝗴, 𝗮𝗻𝗱 𝗲𝘃𝗲𝗿 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻.
ความหมายที่แฝงอยู่ในความทรงจำที่ 6️⃣ นั้นยิ่งใหญ่นัก (และมันก็เกี่ยวพันกับอีกหลายเรื่องมาก ๆ) เพราะหากเธอเข้าใจได้อย่างชัดเจนแล้วว่าเธอและพระเจ้าคือหนึ่งเดียวกัน และไม่มีการแบ่งแยกใดๆระหว่างพวกเธอเช่นเดียวกัน มันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจของเธอจากภายในที่จะทำให้เธอได้รับประสบการณ์ว่าทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ได้เคยเกิดขึ้นกับเธอไปหมดแล้ว
𝗧𝗼 𝘂𝘀𝗲 𝗼𝗯𝘃𝗶𝗼𝘂𝘀 𝗲𝘅𝗮𝗺𝗽𝗹𝗲𝘀 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝘄𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗲 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝗯𝗲𝗲𝗻 𝘁𝗮𝗹𝗸𝗶𝗻𝗴 𝗮𝗯𝗼𝘂𝘁 𝗵𝗲𝗿𝗲,
𝗮𝗻 𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝘀𝘁𝗮𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝘂𝗻𝗶𝘁𝘆 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝘁𝗵𝗲 𝗗𝗶𝘃𝗶𝗻𝗲 𝗺𝗮𝗸𝗲𝘀 𝗶𝘁 𝗳𝗮𝗿 𝗹𝗲𝘀𝘀 𝗮𝗿𝗱𝘂𝗼𝘂𝘀 𝗳𝗼𝗿 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗼 𝗿𝗲𝗺𝗲𝗺𝗯𝗲𝗿 𝗮𝗻𝗱 𝗲𝗺𝗯𝗿𝗮𝗰𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝘁𝗿𝘂𝘁𝗵 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗮𝘂𝘀𝗲 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗼𝘄𝗻 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝗼𝗿 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺𝘀 𝗮𝗻𝗱 𝗻𝗼 𝘃𝗶𝗹𝗹𝗮𝗶𝗻𝘀 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗹𝗱.
𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗰𝗮𝗻 𝗺𝗮𝗸𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗽𝗮𝘁𝗵 𝘁𝗼 𝗖𝗼𝗺𝗽𝗹𝗲𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗹𝗲𝘀𝘀 𝗮𝗿𝗱𝘂𝗼𝘂𝘀, 𝗮𝗻𝗱 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵 𝗺𝗼𝗿𝗲 𝗽𝗲𝗮𝗰𝗲𝗳𝘂𝗹.
ฉันจะยกตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากสิ่งที่เราเพิ่งพูดถึงกันในที่นี้ ด้วยความเข้าใจถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของเธอกับพระเจ้าจะทำให้เธอลำบากน้อยลงมากในการจดจำและยอมรับความจริงที่ว่าเธอเป็นต้นเหตุของการตายของเธอเอง และความจริงที่ว่าไม่มีเหยื่อและผู้ร้ายในโลกนี้ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้เส้นทางสู่การเสร็จสิ้นสมบูรณ์ของเธอยากลำบากน้อยลง และจะทำให้เธอจากโลกนี้ไปได้อย่างสงบสุขมากขึ้น
"𝗡𝗼𝘄 𝗼𝗯𝘃𝗶𝗼𝘂𝘀𝗹𝘆, 𝘁𝗵𝗲 𝗶𝗻𝗱𝗶𝘃𝗶𝗱𝘂𝗮𝗹 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 '𝘆𝗼𝘂' 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗿𝗲𝗽𝗿𝗲𝘀𝗲𝗻𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗧𝗼𝘁𝗮𝗹𝗶𝘁𝘆 𝗼𝗳 𝗚𝗼𝗱. 𝗬𝗲𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗮𝗹𝗹 𝘁𝗵𝗲 𝗰𝗵𝗮𝗿𝗮𝗰𝘁𝗲𝗿𝗶𝘀𝘁𝗶𝗰𝘀, 𝗮𝗹𝗹 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗮𝘀𝗽𝗲𝗰𝘁𝘀, 𝗮𝗹𝗹 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝗹𝗲𝗺𝗲𝗻𝘁𝘀 𝗼𝗳 𝗗𝗶𝘃𝗶𝗻𝗶𝘁𝘆 𝘄𝗶𝘁𝗵𝗶𝗻 𝘆𝗼𝘂.
ตอนนี้เธอก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า ปัจเจกบุคคล ที่ซึ่งก็คือ “ตัวเธอ” ในขณะนี้นั้น ไม่ได้กำลังสำแดงถึงความเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าคุณลักษณะทั้งหมด ทุกแง่ทุกมุม และองค์ประกอบทั้งหมดของความเป็นพระเจ้านั้นมีอยู่ภายในตัวเธอ
"𝗚𝗼𝗱 𝗶𝘀 𝘆𝗼𝘂, 𝘄𝗿𝗶𝘁 𝗹𝗮𝗿𝗴𝗲. 𝗜𝗻𝗱𝗲𝗲𝗱, 𝗚𝗼𝗱 𝗶𝘀 𝗲𝘃𝗲𝗿𝘆𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴. 𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗚𝗼𝗱."
พระเจ้าก็คือเธอ นั่นคือความจริง และแน่นอนว่าพระเจ้าคือทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ใช่พระเจ้า
𝗡 : 𝗜'𝘃𝗲 𝗼𝗳𝘁𝗲𝗻 𝗵𝗲𝗮𝗿𝗱 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗮𝗻𝗮𝗹𝗼𝗴𝘆 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝗮𝗺, 𝘁𝗼 𝗚𝗼𝗱, 𝗮𝘀 𝗮 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗶𝘀 𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻. 𝗧𝗵𝗲 𝘀𝗮𝗺𝗲 𝘀𝘁𝘂𝗳𝗳, 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆. 𝗝𝘂𝘀𝘁 𝘀𝗺𝗮𝗹𝗹𝗲𝗿 𝗶𝗻 𝘀𝗶𝘇𝗲.
N : ผมมักจะได้ยินคำเปรียบเทียบที่ว่า “ฉันกับพระเจ้าก็เป็นเหมือนคลื่นกับมหาสมุทร มันคือสิ่งเดียวกัน แต่ตัวฉันที่เป็นดั่งคลื่นแค่มีขนาดที่เล็กกว่า”
𝗚 : "𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗮𝗻𝗮𝗹𝗼𝗴𝘆 𝗵𝗮𝘀 𝗶𝗻𝗱𝗲𝗲𝗱 𝗯𝗲𝗲𝗻 𝘂𝘀𝗲𝗱 𝗺𝗮𝗻𝘆 𝘁𝗶𝗺𝗲𝘀, 𝗮𝗻𝗱 𝗶𝘁 𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗶𝗻𝗮𝗽𝗽𝗿𝗼𝗽𝗿𝗶𝗮𝘁𝗲.
G : การเปรียบเทียบแบบนั้นถูกใช้อยู่บ่อยครั้งจริง ๆ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เหมาะสม
"𝗦𝗼 𝗻𝗼𝘄, 𝗹𝗲𝘁 𝘂𝘀 𝗱𝗲𝗳𝗶𝗻𝗲 𝘁𝗵𝗶𝘀 '𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻.' 𝗟𝗲𝘁 𝘂𝘀 𝗽𝗿𝗼𝗽𝗼𝘀𝗲 𝗵𝗲𝗿𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗚𝗼𝗱 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝗖𝗿𝗲𝗮𝘁𝗼𝗿. 𝗩𝗲𝗿𝘆 𝗳𝗲𝘄 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲 𝘄𝗵𝗼 𝗯𝗲𝗹𝗶𝗲𝘃𝗲 𝗶𝗻 𝗚𝗼𝗱 𝗮𝘁 𝗮𝗹𝗹 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝗮𝗻 𝗮𝗿𝗴𝘂𝗺𝗲𝗻𝘁 𝘄𝗶𝘁𝗵 𝘁𝗵𝗮𝘁.
ทีนี้ เรามาให้นิยามกับคำว่า 'มหาสมุทร' กันเถอะ ก่อนอื่นให้ฉันได้นิยามว่าตัวฉันที่เป็นพระเจ้าก็คือผู้สร้าง เพราะน้อยคนนักที่เชื่อในพระเจ้าจะมีข้อโต้แย้งในเรื่องนี้
"𝗜𝗳 𝗶𝘁 𝗶𝘀 𝘁𝗿𝘂𝗲 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗚𝗼𝗱 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝗖𝗿𝗲𝗮𝘁𝗼𝗿, 𝘁𝗵𝗶𝘀 𝗺𝗲𝗮𝗻𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂, 𝘁𝗼𝗼, 𝗮𝗿𝗲 𝗮 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗼𝗿. 𝗚𝗼𝗱 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲𝘀 𝗮𝗹𝗹 𝗼𝗳 𝗹𝗶𝗳𝗲, 𝗮𝗻𝗱 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲 𝗮𝗹𝗹 𝗼𝗳 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗹𝗶𝗳𝗲. 𝗜𝘁'𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘀𝗶𝗺𝗽𝗹𝗲.
ถ้าหากพระเจ้าเป็นผู้สร้างจริง ก็หมายความว่าเธอเองก็เป็นผู้สร้างเช่นกัน พระเจ้าเป็นผู้สร้างชีวิตทั้งหมดขึ้นมา ส่วนเธอก็เป็นคนสร้างชีวิตทั้งหมดของเธอขึ้นมาเองเช่นกัน ง่ายๆตรงไปตรงมาไม่มีอะไรซับซ้อน
"𝗜𝗳 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗸 𝗼𝗳 𝗶𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘄𝗮𝘆, 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗮𝗻 𝗵𝗼𝗹𝗱 𝗶𝘁 𝗶𝗻 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀.
หากเธอคิดอย่างนั้น เธอก็จะสามารถบันทึกหรือจดจำมันไว้ในจิตสำนึกของเธอได้
"𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗻𝗱 𝗚𝗼𝗱 𝗮𝗿𝗲 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗮𝗹𝗹 𝘁𝗵𝗲 𝘁𝗶𝗺𝗲—𝘆𝗼𝘂 𝗼𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗺𝗶𝗰𝗿𝗼 𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹, 𝗚𝗼𝗱 𝗼𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗺𝗮𝗰𝗿𝗼. 𝗔𝗿𝗲 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗹𝗲𝗮𝗿?"
เธอและพระเจ้ากำลังสร้างอยู่ตลอดเวลา —เธอสร้างในระดับจุลภาค (เล็กมากๆๆๆ) ส่วนพระเจ้าสร้างในระดับมหภาค (ใหญ่โตมโหฬาร) ชัดเจนไหม❓
𝗡 : 𝗬𝗲𝘀. 𝗜 𝘀𝗲𝗲! 𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼 𝘀𝗲𝗽𝗮𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗯𝗲𝘁𝘄𝗲𝗲𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻. 𝗡𝗼𝗻𝗲. 𝗧𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗶𝘀 𝗼𝗻𝗲 𝗽𝗮𝗿𝘁 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻, 𝗮𝗰𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗶𝗻 𝗮 𝗰𝗲𝗿𝘁𝗮𝗶𝗻 𝘄𝗮𝘆. 𝗧𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗮𝗺𝗲 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻 𝗱𝗼𝗲𝘀, 𝗶𝗻 𝘀𝗺𝗮𝗹𝗹𝗲𝗿 𝗱𝗲𝗴𝗿𝗲𝗲.
N : ครับ ผมเข้าใจแล้ว❗ มันไม่มีการแบ่งแยกระหว่างคลื่นกับมหาสมุทร คลื่นเป็นส่วนหนึ่งของ มหาสมุทร ที่กำลังกระทำการบางอย่างในลักษณะที่เฉพาะเจาะจง (ซัดหรือเคลื่อนที่ไปมา) คลื่นกระทำแบบเดียวกับที่มหาสมุทรกระทำ เพียงแต่ในระดับที่เล็กกว่า
𝗚 : "𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝗰𝗼𝗿𝗿𝗲𝗰𝘁. 𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗺𝗲, 𝗮𝗰𝘁𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘆 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗮𝗰𝘁𝗶𝗻𝗴. 𝗜 𝗴𝗶𝘃𝗲 𝘆𝗼𝘂 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗼𝘄𝗲𝗿 𝘁𝗼 𝗮𝗰𝘁 𝗮𝘀 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗮𝗰𝘁𝗶𝗻𝗴. 𝗬𝗼𝘂𝗿 𝗽𝗼𝘄𝗲𝗿 𝗰𝗼𝗺𝗲𝘀 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝗺𝗲.
G : นั่นถูกต้องแล้ว เธอก็คือฉันที่กำลังกระทำการ (สร้าง) ในแบบของเธอ ฉันให้พลังในการกระทำ (การสร้าง) กับเธอเพื่อให้สามารถทำ (สร้าง) ในสิ่งที่เธอกำลังกระทำ (สร้าง) อยู่ได้ ซึ่งพลัง (ในการสร้าง) ของเธอมาจากฉัน
"𝗪𝗶𝘁𝗵𝗼𝘂𝘁 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻, 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗼𝘄𝗲𝗿 𝘁𝗼 𝗯𝗲 𝗮 𝘄𝗮𝘃𝗲. 𝗪𝗶𝘁𝗵𝗼𝘂𝘁 𝗺𝗲, 𝘆𝗼𝘂 𝗱𝗼 𝗻𝗼𝘁 𝗵𝗮𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗼𝘄𝗲𝗿 𝘁𝗼 𝗯𝗲 𝘆𝗼𝘂. 𝗔𝗻𝗱 𝘄𝗶𝘁𝗵𝗼𝘂𝘁 𝘆𝗼𝘂, 𝗺𝘆 𝗽𝗼𝘄𝗲𝗿 𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗺𝗮𝗱𝗲 𝗺𝗮𝗻𝗶𝗳𝗲𝘀𝘁.
หากปราศจากมหาสมุทร คลื่นก็ไม่มีพลังที่จะกลายเป็นคลื่นได้ หากปราศจากฉัน เธอก็ไม่มีพลังที่จะกลายเป็นเธอได้เช่นกัน และหากไม่มีเธอ พลังของฉันก็ไม่มีที่ให้แสดงออก (หรือฉันไม่อาจปรากฏขึ้นเป็นเธอในโลกความเป็นจริงทางกายภาพเพื่อมีประสบการณ์ถึงตัวเองได้)
"𝗬𝗼𝘂𝗿 𝗷𝗼𝘆 𝗶𝘀 𝘁𝗼 𝗺𝗮𝗸𝗲 𝗺𝗲 𝗺𝗮𝗻𝗶𝗳𝗲𝘀𝘁. 𝗧𝗵𝗲 𝗷𝗼𝘆 𝗼𝗳 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻𝗶𝘁𝘆 𝗶𝘀 𝘁𝗼 𝗺𝗮𝗻𝗶𝗳𝗲𝘀𝘁 𝗚𝗼𝗱."
ความเบิกบานของเธอคือการทำให้ฉันได้ประจักษ์ (มีประสบการณ์) ถึงตัวฉันเอง ส่วนความเบิกบานของมนุษยชาติคือการสำแดงความเป็นพระเจ้าของพวกเขาออกไป
𝗡 : 𝗡𝗼𝘄 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲'𝘀 𝗮 𝘀𝘁𝗮𝘁𝗲𝗺𝗲𝗻𝘁.
N : นั่นคือคำแถลงการณ์จากพระเจ้าสินะครับ
𝗚 : "𝗛𝗲𝗿𝗲'𝘀 𝗮𝗻𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿...
G : ยังมีอีกเรื่อง...
"𝗟𝗶𝗳𝗲 𝗶𝘀 𝗚𝗼𝗱, 𝗺𝗮𝗱𝗲 𝗽𝗵𝘆𝘀𝗶𝗰𝗮𝗹.
ชีวิตคือพระเจ้า ที่ถูกทำให้มีร่างกาย
𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗶𝗺𝗽𝗼𝗿𝘁𝗮𝗻𝘁 𝘁𝗼 𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝘀𝘁𝗮𝗻𝗱 𝗶𝘀 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼 𝘀𝗶𝗻𝗴𝗹𝗲 𝘄𝗮𝘆 𝗶𝗻 𝘄𝗵𝗶𝗰𝗵 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗺𝗮𝗸𝗲𝘀 𝗚𝗼𝗱 𝗽𝗵𝘆𝘀𝗶𝗰𝗮𝗹. 𝗦𝗼𝗺𝗲 𝘄𝗮𝘃𝗲𝘀 𝗮𝗿𝗲 𝘀𝗺𝗮𝗹𝗹, 𝗯𝗮𝗿𝗲𝗹𝘆 𝗮 𝗿𝗶𝗽𝗽𝗹𝗲, 𝘄𝗵𝗶𝗹𝗲 𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿 𝘄𝗮𝘃𝗲𝘀 𝗮𝗿𝗲 𝗵𝘂𝗴𝗲, 𝘁𝗵𝘂𝗻𝗱𝗲𝗿𝗼𝘂𝘀 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲𝗶𝗿 𝘀𝘄𝗲𝗲𝗽.
𝗬𝗲𝘁, 𝘄𝗵𝗲𝘁𝗵𝗲𝗿 𝗺𝗶𝗻𝘂𝘀𝗰𝘂𝗹𝗲 𝗼𝗿 𝗺𝗼𝗻𝘀𝘁𝗿𝗼𝘂𝘀, 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗮𝗹𝘄𝗮𝘆𝘀 𝗮 𝘄𝗮𝘃𝗲. 𝗧𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼 𝘁𝗶𝗺𝗲 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗮 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗼𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻. 𝗔𝗻𝗱 𝘄𝗵𝗶𝗹𝗲 𝗲𝘃𝗲𝗿𝘆 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗶𝘀 𝗱𝗶𝗳𝗳𝗲𝗿𝗲𝗻𝘁, 𝗻𝗼𝘁 𝗮 𝘀𝗶𝗻𝗴𝗹𝗲 𝗼𝗻𝗲 𝗶𝘀 𝗱𝗶𝘃𝗶𝗱𝗲𝗱 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻 𝗶𝘁𝘀𝗲𝗹𝗳.
สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ ไม่ได้มีแค่หนทางเดียวที่ซึ่งชีวิตจะทำให้พระเจ้ามีร่างกายได้ คลื่นบางคลื่นมีขนาดเล็กซึ่งแทบจะไม่มีระลอกคลื่นเลย ในขณะที่คลื่นอื่นๆมีขนาดใหญ่และมีความสามารถในการทำลายล้าง แต่ไม่ว่าคลื่นจะเล็กหรือจะใหญ่ มหาสมุทรก็ย่อมมีคลื่นอยู่เสมอ ไม่มีเวลาไหนที่ไม่มีคลื่นในมหาสมุทร และถึงแม้คลื่นทุกลูกจะแตกต่างกัน แต่ก็ไม่มีคลื่นแม้แต่ลูกเดียวที่แยกออกจากมหาสมุทร
"𝗗𝗶𝗳𝗳𝗲𝗿𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗺𝗲𝗮𝗻 𝗱𝗶𝘃𝗶𝘀𝗶𝗼𝗻. 𝗧𝗵𝗼𝘀𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗱𝘀 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼𝘁 𝗶𝗻𝘁𝗲𝗿𝗰𝗵𝗮𝗻𝗴𝗲𝗮𝗯𝗹𝗲.
ความแตกต่างไม่ได้หมายถึงความแตกแยก คำเหล่านั้นนำมาใช้แทนกันไม่ได้
"𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗱𝗶𝗳𝗳𝗲𝗿𝗲𝗻𝘁 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝗚𝗼𝗱, 𝗯𝘂𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼𝘁 𝗱𝗶𝘃𝗶𝗱𝗲𝗱 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝗚𝗼𝗱. 𝗧𝗵𝗲 𝗳𝗮𝗰𝘁 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘆𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼𝘁 𝗱𝗶𝘃𝗶𝗱𝗲𝗱 𝗳𝗿𝗼𝗺 𝗚𝗼𝗱 𝗶𝘀 𝘄𝗵𝘆 𝘆𝗼𝘂 𝗰𝗮𝗻 𝗻𝗲𝘃𝗲𝗿 𝗱𝗶𝗲.
เธออาจแตกต่างจากพระเจ้า แต่เธอไม่ได้แยกขาดจากพระเจ้า จากความจริงที่ว่าเธอไม่ได้แยกขาดจากพระเจ้าจึงเป็นเหตุผลที่ทําให้เธอไม่มีวันตาย (เธอไม่อาจตาย และ ไม่มีทางที่เธอจะตายได้เลย)
"𝗧𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗹𝗮𝗻𝗱𝘀 𝗼𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝗯𝗲𝗮𝗰𝗵, 𝗯𝘂𝘁 𝗶𝘁 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗰𝗲𝗮𝘀𝗲 𝘁𝗼 𝗯𝗲. 𝗜𝘁 𝗺𝗲𝗿𝗲𝗹𝘆 𝗰𝗵𝗮𝗻𝗴𝗲𝘀 𝗳𝗼𝗿𝗺, 𝗿𝗲𝗰𝗲𝗱𝗶𝗻𝗴 𝗯𝗮𝗰𝗸 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻.
คลื่นซัดเข้าหาชายหาด แต่คลื่นก็ยังคงเป็นคลื่น มันไม่ได้หยุดเป็นตัวเอง มันแค่เปลี่ยนรูปไป ด้วยการถอยกลับลงไปในมหาสมุทร
"𝗧𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻 𝗱𝗼𝗲𝘀 𝗻𝗼𝘁 𝗴𝗲𝘁 '𝘀𝗺𝗮𝗹𝗹𝗲𝗿 𝗲𝘃𝗲𝗿𝘆 𝘁𝗶𝗺𝗲 𝗮 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗵𝗶𝘁'𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝘀𝗮𝗻𝗱. 𝗜𝗻𝗱𝗲𝗲𝗱, 𝘁𝗵𝗲 𝗶𝗻𝗰𝗼𝗺𝗶𝗻𝗴 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗱𝗲𝗺𝗼𝗻𝘀𝘁𝗿𝗮𝘁𝗲𝘀, 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲𝗳𝗼𝗿𝗲 𝗿𝗲𝘃𝗲 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻'𝘀 𝗺𝗮𝗷𝗲𝘀𝘁𝘆. 𝗧𝗵𝗲𝗻, 𝗯𝘆 𝗿𝗲𝗰𝗲𝗱𝗶𝗻𝗴 𝗶𝗻𝘁𝗼 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻, 𝗶𝘁 𝗿𝗲𝘀𝘁𝗼𝗿𝗲𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻'𝘀 𝗴𝗹𝗼𝗿𝘆.
มหาสมุทรไม่ได้ “เล็กลง” ทุกครั้งที่คลื่นกระทบกับผืนทราย อันที่จริงคลื่นที่ซัดเข้ามานั้นได้แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของมหาสมุทร และเมื่อคลื่นถอยกลับลงไปในมหาสมุทร มันก็จะฟื้นคืนความรุ่งโรจน์ให้กับมหาสมุทร
"𝗧𝗵𝗲 𝗽𝗿𝗲𝘀𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗮𝘃𝗲 𝗶𝘀 𝗲𝘃𝗶𝗱𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗶𝘀𝘁𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗰𝗲𝗮𝗻.
ซึ่งการปรากฏตัวของคลื่นเป็นหลักฐานของการมีอยู่ของมหาสมุทร
"𝗬𝗼𝘂𝗿 𝗽𝗿𝗲𝘀𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗶𝘀 𝗲𝘃𝗶𝗱𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗲𝘅𝗶𝘀𝘁𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝗚𝗼𝗱."
การปรากฏตัวของเธอจึงเป็นหลักฐานของการมีอยู่ของพระเจ้า
𝗡 : 𝗜 𝘀𝗵𝗼𝘂𝗹𝗱 𝘁𝗮𝗰𝗸 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝘁𝗼 𝗺𝘆 𝗿𝗲𝗳𝗿𝗶𝗴𝗲𝗿𝗮𝘁𝗼𝗿. 𝗬𝗢𝗨𝗥 𝗣𝗥𝗘𝗦𝗘𝗡𝗖𝗘 𝗜𝗦 𝗘𝗩𝗜𝗗𝗘𝗡𝗖𝗘 𝗢𝗙 𝗧𝗛𝗘 𝗘𝗫𝗜𝗦𝗧𝗘𝗡𝗖𝗘 𝗢𝗙 𝗚𝗢𝗗. 𝗪𝗵𝗮𝘁 𝗮 𝗴𝗿𝗲𝗮𝘁 𝗯𝘂𝗺𝗽𝗲𝗿 𝘀𝘁𝗶𝗰𝗸𝗲𝗿! 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗽𝗹𝗮𝗻𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗶𝘀 𝘀𝗼 𝘀𝗶𝗺𝗽𝗹𝗲, 𝗮𝗻𝗱 𝘆𝗲𝘁 𝘀𝗼 𝗲𝗹𝗲𝗴𝗮𝗻𝘁.
N : ผมควรจะต้องติดข้อความนี้ไว้ที่ตู้เย็นของผม “#การปรากฏขึ้นของเธอเป็นหลักฐานของการมีอยู่ ของพระเจ้า” เป็นข้อความที่เจ๋งอะไรขนาดนี้❗ คำอธิบายนี้ช่างเรียบง่ายนัก แต่ก็ดูสง่างามด้วยในขณะเดียวกัน
𝗦𝗼 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝘄𝗲 𝘀𝗮𝘆 𝘁𝗵𝗮𝘁 '𝗚𝗼𝗱, 𝗮𝗻𝗱 𝗚𝗼𝗱 𝗮𝗹𝗼𝗻𝗲' 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲𝘀 𝘁𝗵𝗲 𝘁𝗶𝗺𝗲 𝗼𝗳 𝗼𝘂𝗿 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵, 𝘄𝗲 𝗮𝗿𝗲 𝘀𝗮𝘆𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻𝘀 𝗮𝗿𝗲 𝗽𝗮𝗿𝘁 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗽𝗿𝗼𝗰𝗲𝘀𝘀.
ดังนั้นเมื่อเราพูดว่า “พระเจ้า และมีเพียงพระเจ้าเท่านั้น ที่เป็นผู้เลือกช่วงเวลาแห่งความตายของเราได้ นั่นคือการที่เรากําลังบอกว่ามนุษย์ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนั้นด้วย
𝗚 : "𝗬𝗲𝘀, 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗲𝘅𝗮𝗰𝘁𝗹𝘆 𝗿𝗶𝗴𝗵𝘁."
G : ใช่ นั่นถูกต้องแล้ว
𝗡 : 𝗔𝗻𝗱 𝘄𝗵𝗲𝗻 𝗜 𝗱𝗶𝗲, 𝗺𝘆 𝗱𝗲𝗮𝘁𝗵 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗯𝗲 𝗵𝗮𝗽𝗽𝗲𝗻𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗿𝗼𝘂𝗴𝗵 𝗺𝗲, 𝗻𝗼𝘁 𝘁𝗼 𝗺𝗲.
N : และในตอนที่ผมตาย ความตายของผมก็แค่เกิดขึ้นผ่านผม ไม่ได้เกิดขึ้นกับผม (เพราะผมไม่มีวันตาย)
𝗚 : "𝗧𝗵𝗮𝘁 𝗶𝘀 𝗰𝗼𝗿𝗿𝗲𝗰𝘁. 𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗻𝗼𝘄 𝗹𝗼𝗼𝗸𝗶𝗻𝗴 𝗮𝘁 𝗶𝘁 𝗶𝗻 𝗮 𝗱𝗶𝗳𝗳𝗲𝗿𝗲𝗻𝘁 𝘄𝗮𝘆. 𝗬𝗼𝘂 𝗮𝗿𝗲 𝗰𝗵𝗮𝗻𝗴𝗶𝗻𝗴 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗽𝗲𝗿𝘀𝗽𝗲𝗰𝘁𝗶𝘃𝗲. 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗰𝗵𝗮𝗻𝗴𝗲 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗽𝗲𝗿𝗰𝗲𝗽𝘁𝗶𝗼𝗻. 𝗔𝗻𝗱 𝗶𝘁 𝘄𝗶𝗹𝗹 𝗮𝗹𝘁𝗲𝗿 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲. 𝗣𝗲𝗿𝗰𝗲𝗽𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗲𝘀 𝗲𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲."
G : ถูกต้องแล้ว ตอนนี้เธอกำลังมองมันในมุมที่ต่างออกไป เธอกำลังเปลี่ยนมุมมองของตัวเอง การเปลี่ยนมุมมองนี้จะเปลี่ยนการรับรู้ของเธอ และมันจะเปลี่ยนประสบการณ์ของเธอ เพราะการรับรู้เป็นตัวสร้างประสบการณ์
𝗡 : 𝗕𝘂𝘁 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗲 𝗶𝘀 𝗷𝘂𝘀𝘁 𝗼𝗻𝗲 𝗹𝗮𝘀𝘁 𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴 𝘁𝗵𝗮𝘁 𝗜 𝗰𝗮𝗻'𝘁 𝘆𝗲𝘁 𝗽𝘂𝘁 𝘁𝗼𝗴𝗲𝘁𝗵𝗲𝗿. 𝗪𝗵𝘆 𝗶𝗻 𝘁𝗵𝗲 𝘄𝗼𝗿𝗹𝗱 𝘄𝗼𝘂𝗹𝗱 𝗜 𝗰𝗵𝗼𝗼𝘀𝗲 𝘁𝗼 𝗱𝗶𝗲, 𝗲𝘃𝗲𝗿?
N : แต่ผมก็ยังมีคำถามที่หาคำตอบไม่ได้อยู่ดีว่า ทำไมผมถึงได้เลือกที่จะตายล่ะครับ ทำไมผมถึงไม่เลือกอยู่ต่อไปล่ะ❓
𝗚 : "𝗢𝗵, 𝘁𝗵𝗮𝘁'𝘀 𝘀𝗶𝗺𝗽𝗹𝗲.
G : โอ้ คำตอบนั้นเรียบง่ายมาก
"𝗕𝗲𝗰𝗮𝘂𝘀𝗲 𝘆𝗼𝘂'𝗿𝗲 𝗱𝗼𝗻𝗲. 𝗙𝗶𝗻𝗶𝘀𝗵𝗲𝗱. 𝗖𝗼𝗺𝗽𝗹𝗲𝘁𝗲."
เพราะเธอทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ภารกิจในการมาที่นี่ของเธอจบแล้ว ทุกอย่างที่ต้องทำในชีวิตนี้นั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วไงล่ะ
(((จบบทที่ 11)))

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา