USS Kennedy ขนาด 120,000 ตัน
นี่คือ ผู้นำโลกในรอบ 100 ปี เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดยักษ์ ยูเอสเอส จอห์น เอฟ. เคนเนดี (USS John F. Kennedy /USS Kennedy )ขนาด 120,000 ตัน
เดิมที เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นเจอรัลด์ อาร์. ฟอร์ด ( Gerald R. Ford-class aircraft carrier) ขนาด 100,000 ตันของสหรัฐฯ เป็นผู้นำโลกมาเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี
แต่ปัจจุบัน เรือขนาดใหญ่ขึ้นได้รับการปล่อยตัว นี่คือ เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ USS Kennedy ขนาด 120,000 ตัน
คุณรู้ไหม การบรรทุกเต็มพิกัด 120,000 ตันนั้นเทียบเท่ากับขนาดเกือบเท่ากับ
เรือบรรทุกเครื่องบินอัดมีรัลคุซเนซอฟ (Kuznetsov) ของรัสเซีย ถึงสองลำเลยทีเดียว แม้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน Kuznetsov ของรัสเซียกำลังจะทำการการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ระบบไฟฟ้าของเรือบรรทุกเครื่องบิน Kuznetsov ที่ส่งควันโขมงยังคงเป็นระบบกังหันไอน้ำแบบเก่าที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี
กล่าวคือ เริ่มแรกจะเผาน้ำมันหนักเพื่ออุ่นหม้อไอน้ำ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อทั้งหมดน้ำในหม้อต้ม
ไอน้ำที่เกิดจากการต้มสามารถขับเคลื่อนระบบไฟให้ทำงาน กล่าวได้ว่า กระบวนการนี้จะทำให้เกิดไฟฟ้าเป็นเวลาหนึ่งหรือสองวัน
แม้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน Kennedy จะมีระวางขับน้ำถึง 120,000 ตัน
แต่ปัจจุบันระบบส่งกำลังใหม่สามารถส่งกำลังได้ถึง 280,000 หลา เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใหม่ล่าสุดที่มีพฤติกรรมสูงถึง 97%
แรงม้าที่เพียงพอแบบนี้ เอ....แล้วผมจะอธิบายได้อย่างไรว่ามันก้าวหน้าแค่ไหน?
ผมขอตัวอย่างเช่น เรือบรรทุกเครื่องบินฝรั่งเศสชาร์ล เดอ โกล (Charles de Gaulle) ที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และระวางขับน้ำมากกว่า 40,000 ตันเมื่อบรรทุกเต็มที่นั่นสิ....
แต่ขออภัย เพราะอะไร??? เมื่อความเร็วสูงสุดของมันคือ 25 นอตที่ได้นี้ เหมือนกับมันบินไม่ได้
เนื่องจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บน Charles de Gaulle ยังคงให้แรงบิดน้อยกว่า 20%
นี่เป็นเพราะเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เป็นผลจากข้อจำกัด พลังงานของมันจึงน้อยโดยธรรมชาติ และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ก็ต้องถอดเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ
และอยากจะบอกคุณว่าแม้แต่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 4W ในรุ่นก่อนหน้าของชั้นนิมิตซ์ (Nimitz) ในสหรัฐอเมริกา
มันก็ยังมีพฤติกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์แค่ 60%
ด้วยวิธีนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ USS Kennedy ลำล่าสุดจึงนำหน้าโลกไปจริงๆถึง 100 ปี โน้นนนนน.
นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า ระบบเรือไฟฟ้า และลิฟต์อัตโนมัติ
เครื่องบินรบในโรงเก็บเครื่องบินสามารถเข้าถึงดาดฟ้าได้โดยอัตโนมัติผ่านลิฟต์ จากนั้นทำการดีดตัวด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
กระบวนการทั้งหมดทำได้เร็วถึง 45 วินาที ด้วยระบบอัตโนมัติทั้งหมด ผมขอบอกว่าทั้งหมดนะครับ...
ยิ่งไปกว่านั้น พลังงานที่ใช้สำหรับการดีดแม่เหล็กไฟฟ้าของเครื่องบินรบไม่จำเป็นต้องส่งออกจากระบบพลังงานหลักอีกต่อไป
กล่าวคือ ไม่ว่าเครื่องบินจะถูกดีดออกไปกี่ลำ เจ้ายักษ์ขนาด 120,000 ตันลำนี้ยังสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 35 นอต
และด้วยพลังพิเศษของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ตัวใหม่ มันยังติดตั้งปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังสูงและอาวุธเลเซอร์ไว้อีกด้วย
ดังนั้น แม้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความสามารถในการป้องกันก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน
แล้วคุณคิดว่า รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส หรือ กัมพูชา ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการไล่ตามช่องว่าง 100 ปีนี้ ให้ทันได้อย่างไร???
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
