30 พ.ค. 2023 เวลา 01:00 • การตลาด

ซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย มาแรงในสหรัฐฯ

ปัจจุบันผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาทั้งที่อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่และเมืองรอง ต่างได้รับความสะดวกสบายในการหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากเอเชีย เช่น วัตถุดิบการปรุงอาหารและเครื่องปรุงรส เนื่องจากมีผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าเอเชียทั้งในรูปแบบของห้างสรรพสินค้าและร้านขายของชำกระจายตัวอยู่แทบจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ
อีกทั้ง ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตผู้บริโภคมากขึ้นทำให้ผู้บริโภคที่แม้จะอยู่อาศัยห่างไกลเพียงใดก็สามารถเข้าถึงสินค้าอาหารเอเชียได้จากช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ (Online Market Platform) เช่น Amazon และ Walmart เป็นต้น
ปัจจุบันผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาทั้งที่อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่และเมืองรอง ต่างได้รับความสะดวกสบายในการหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากเอเชีย เช่น วัตถุดิบการปรุงอาหารและเครื่องปรุงรส เนื่องจากมีผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าเอเชียทั้งในรูปแบบของห้างสรรพสินค้าและร้านขายของชำกระจายตัวอยู่แทบจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ
อีกทั้ง ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตผู้บริโภคมากขึ้นทำให้ผู้บริโภคที่แม้จะอยู่อาศัยห่างไกลเพียงใดก็สามารถเข้าถึงสินค้าอาหารเอเชียได้จากช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ (Online Market Platform) เช่น Amazon และ Walmart เป็นต้น รวมถึงการใช้บริการสั่งสินค้าให้จัดส่งถึงบ้าน (Grocery Delivery Service) เช่น บริษัท Weee! บริษัท Umamicart บริษัท Yami บริษัท Quicklly และบริษัท Instarcart
เป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติสูง (Most Racially Diverse Country) เนื่องจากมีประชากรหลายเชื้อชาติเดินทางไปอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ๆ แต่ทว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างปี 2553 – 2563) สำนักสำมะโนประชากรสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) รายงานว่า ชาวเอเชียในสหรัฐฯ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ (Ethnic Group) ที่มีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุด (ร้อยละ 35.5) ตามด้วยกลุ่มฮิสแปนิก (ร้อยละ 23)
โดยปัจจุบันมีประชากรชาวเอเชียอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านคน และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังคาดว่า ประชากร กลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มคนผิวขาว (non-whites) ในสหรัฐฯ จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 57 ของประชากรทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2603
โดยล่าสุด บริษัท X Team Retail Advisors ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์สำหรับธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐฯ ได้ทำการศึกษาการขยายตัวของห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียในสหรัฐฯ โดยพบว่า ตลาดมีแนวโน้มขยายตัวไปในทิศทางเดียวกันกับการขยายตัวของกลุ่มประชากรเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการบริโภคสินค้าเอเชียมาก
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังพบว่า ห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียที่เปิดดำเนินกิจการในสหรัฐฯ ในปัจจุบันจะมีการอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย นอกจากนี้ การดำเนินกลยุทธ์เจาะตลาดที่แตกต่างจากห้างสัญชาติอเมริกัน เช่น การเปิดให้ผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยเช่าพื้นที่ทำการค้าภายในห้างและการจำหน่ายสินค้าเอเชียหลากหลายรายการให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเอเชียทุกกลุ่มซึ่งมีแหล่งที่มาแตกต่างกันยังมีส่วนสำคัญช่วยให้กิจการประสบความสำเร็จสูงอีกด้วย
รายงานฉบับดังกล่าวยังได้ยกตัวอย่างห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียในสหรัฐฯ ที่ประสบความสำเร็จในตลาดมีอัตราการขยายตัวสูง เช่น
- ห้าง H Mart (สัญชาติเกาหลี) เป็นห้างซูเปอร์มาเก็ตซึ่งเป็นที่นิยมและรู้จักอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้บริโภคทั้งชาวเอเชียและชาวอเมริกันในตลาดก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยสาขาแรกเปิดที่เมือง Woodside เขต Queens รัฐนิวยอร์ก ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 84 สาขาใน 14 รัฐ เป็นห้างจำหน่ายสินค้าเอเชียหลากหลายสัญชาติ มีทั้งสินค้าอาหารและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ ภายในห้างยังมีศูนย์อาหารสำหรับจำหน่ายสินค้าอาหารและขนมเอเชีย รวมทั้งร้านค้าปลีกรายย่อย เช่น ร้านตัดผม ร้านเสื้อผ้า ร้าน เครื่องสำอาง
- ห้าง Super G Mart เป็นห้างซูเปอร์มาร์เก็ตนานาชาติ ใหญ่ที่สุดในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งกลุ่ม Millennial และ Gen Z (อายุระหว่าง 25 – 44 ปี) มาก ล่าสุดเพิ่งเปิดสาขาที่ 3 ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา
- ห้าง 99 Ranch Market (สัญชาติไต้หวัน) เป็นกิจการภายใต้กลุ่มบริษัท Tawa Supermarket ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2527 เป็นห้าง ซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียขนาดใหญ่มีทั้งสิ้น 54 สาขาในเขตตะวันตกของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟฟอร์เนียซึ่งมีชาวเอเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังได้เปิดเผยข้อมูลวิจัยตลาดของบริษัท IBISWorld โดยระบุว่า อุตสาหกรรมห้างซูเปอร์มาร์เก็ตกลุ่มชาติพันธุ์ (Ethnic Supermarket) ในสหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดทั้งสิ้นประมาณ 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และก่อให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 204,368 ตำแหน่ง
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
ปัจจุบันชาวเอเชียมีบทบาททางการค้าและมีอิทธิพลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจาก ชาวเอเชียเป็นกลุ่มประชากรที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มประชากรอื่นในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ คาดว่า ประชากรชาวเอเชียในสหรัฐฯ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 24 ล้านคน เป็น 41 ล้านคนในปี พ.ศ. 2593 คิดเป็นอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 1.80 ต่อปี (Compound Average Growth Rate หรือ CAGR) อีกทั้ง กลุ่มประชากรเอเชียในสหรัฐฯ ยังมีกำลังการซื้อสูงเป็นมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
เมื่อมีจำนวนประชากรมากขึ้นกลุ่มชาวเอเชียโดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่งย้ายถิ่นฐานไปอยู่อาศัยในสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มประชากรรุ่นที่ 2 ซึ่งยังมีความใกล้ชิดกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนก็มักจะเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเอเชียเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้แนวโน้มความต้องการบริโภคสินค้าเอเชียในสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงและเป็นโอกาสสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกในตลาด
จะเห็นได้จำนวนห้างค้าปลีกสินค้าเอเชียในสหรัฐฯ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด อีกทั้ง กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกและห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเครือข่ายที่ไม่ใช่กลุ่มเอเชียเองก็เริ่มให้ความสำคัญและเริ่มทำตลาดกลุ่มผู้บริโภคเอเชียที่มีศักยภาพสูงในตลาดมากขึ้นด้วย
โดยผู้ประกอบการห้างซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีกเครือข่ายรายใหญ่ในสหรัฐฯ เช่น ห้าง Walmart ห้าง Target และห้าง Jewel – Osco เป็นต้น ได้พิจารณาเพิ่มชั้นและพื้นที่วางจำหน่ายสินค้าเอเชียสำหรับรองรับกลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชียมากขึ้น
ไม่เพียงแต่ปัจจัยด้านการเพิ่มจำนวนของประชากรชาวเอเชียในสหรัฐฯ ที่มีส่วนผลักดันให้ตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียขยายตัวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการพัฒนาของระบบการเดินทางขนส่งในปัจจุบันซึ่งช่วยให้ชาวอเมริกันสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆ ทั่วโลกได้สะดวกรวดเร็วขึ้น เมื่อชาวอเมริกันที่ได้สัมผัสคุ้นเคยกับวัฒนธรรมอาหารเอเชียเดินทางกลับบ้านไปแล้วก็มักจะยังคงเลือกบริโภคสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเอเชียต่อเนื่องจึงมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของตลาดสินค้าเอเชียในปัจจุบัน
การพัฒนาของระบบการสื่อสารทางเทคโนโลยีในปัจจุบันก็มีส่วนทำให้ชาวอเมริกันที่ยังไม่เคยเดินทางไปยังประเทศเอเชียได้สัมผัสกับวัฒนธรรมรวมถึงอาหารของชาวเอเชียได้ง่ายขึ้นผ่านทางสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ เช่น TikTok YouTube Facebook และ Instagram เป็นต้น เมื่อได้สัมผัสมากขึ้นก็จะก่อให้เกิดความอยากทดลองและก่อให้เกิดความต้องการบริโภคมากขึ้นตามไปด้วย
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นจึงน่าจะเป็นโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชียในตลาดจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ผู้บริโภคกลับยังมีความต้องการบริโภคสินค้าที่แตกต่างกันตามแหล่งที่มา ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจทำตลาดผู้บริโภคชาวเอเชียในสหรัฐฯ จึงควรศึกษาความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคนั้นๆ
นอกจากนี้ การขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคเอเชียในสหรัฐฯ ยังน่าจะเป็นโอกาสสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกไทยที่สนใจขยายตลาดไปยังสหรัฐฯ ในลักษณะ Internationalization เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ โดยขณะนี้ยังไม่พบผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตเครือข่ายรายใหญ่สัญชาติไทยในตลาดสหรัฐฯ
การดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไทยร่วมกับห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชียรายใหญ่ในเขตพื้นที่ เช่น ห้างซูเปอร์มาร์เก็ต Patel Brothers สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ มีจำนวนทั้งสิ้น 51 สาขาทั่วสหรัฐฯ (13 สาขาในเขตตะวันตกตอนกลาง)รวมถึงกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตเครือข่ายรายใหญ่ในตลาด เช่น Jewel – Osco สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Itasca
รัฐอิลลินอยส์ อย่างต่อเนื่อง ก็น่าจะช่วยส่งเสริมให้สินค้าอาหารและเครื่องดื่มไทยเป็นที่รู้จักและต้องการบริโภคมากขึ้น
ดังเช่นในขณะนี้ที่บริษัท Truong Enterprises Inc. ผู้นำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากเอเชียรายใหญ่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์กำลังดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนำเข้าจากประเทศไทย เช่น ข้าวหอมมะลิ น้ำมะพร้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว และซอสปรุงรส ในห้างซูเปอร์มาร์เก็ต Jewel – Osco ในเขตพื้นที่
Reference
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก
X Team Retails
โฆษณา