30 พ.ค. 2023 เวลา 08:23 • ไลฟ์สไตล์

เรื่องราวของชาวประมงกับนักธุรกิจ

ความสุขของชีวิตอยู่ไม่ไกล
และอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ
เรื่องราวของชาวประมงกับนักธุรกิจ
เมื่อคุณใช้ชีวิตประจำวันของคุณไปเรื่อยๆ ตื่นเช้า ไปทำงาน กลับบ้าน กินข้าว แล้วเข้านอน วนลูปแบบนี้ทุกๆ วัน
จนคุณเกิดความรู้สึกว่า "นี้คือ ชีวิตที่เราต้องการจริงๆ รึเปล่า"
เราทุกคนทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง เราทุกคนมีสิทธิได้รับความสุขจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
คุณอาจจะซื้อกระเป๋าแบรนด์ โทรศัพท์แพงๆ สักเครื่อง เพื่อให้รางวัลกับตัวเอง
คำถาม: แล้วความสุขที่แท้จริงของคุณคืออะไร ใช่ความสุขจากการซื้อกระเป๋าแบรนด์ หรือ โทรศัพท์เครื่องใหม่ไหม?
"จงถามคำถามยากๆ กับตัวเอง
แล้วคุณจะใช้ชีวิตง่ายขึ้น"
หลังจากที่คุณค้นพบคำตอบ คุณอาจจะเปลี่ยนความคิดของคุณ
จากที่ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม กลายเป็นซื้อกระเป๋าเดินทาง ออกไปเที่ยวที่ไหนสักที่
จากที่ซื้อโทรศัพท์แพงๆ กลายเป็นซื้อหนังสือสักเล่ม แล้วไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมทะเล
เหมือนกับเรื่องราวของชายชาวประมงกับนักธุรกิจท่านหนึ่ง ที่ทั้งสองได้มาเจอกันด้วยความบังเอิญ
วันหนึ่งมีนักธุรกิจจากสหรัฐอเมริกามาพักผ่อนที่ชายหาดของประเทศเม็กซิโก
นักธุรกิจคนนั้นได้เหลือบไปเห็นชาวประมงคนหนึ่ง ค่อยๆ พายเรือเข้ามาเทียบท่า พร้อมด้วยปลาที่จับได้ ซึ่งน่าจะมีมูลค่าพอสมควร
ด้วยความที่เป็นนักธุรกิจช่างสงสัย เมื่อชาวประมงนำเรือมาเทียบท่า นักธุรกิจจึงเดินไปถามว่า 'ปกติคุณจับปลานานไหม'
ชาวประมงตอบกลับมาว่า 'ไม่นานหรอก'
นักธุรกิจจึงพูดขึ้นมาว่า 'แล้วทำไมคุณไม่จับปลาให้นานขึ้นอีกนิด คุณจะได้มีปลาเพิ่มขึ้นมากกว่านี้'
ชาวประมงตอบว่า 'ผมหาปลาเพื่อเลี้ยงครอบครัวของผมเท่านั้น ปลาที่เหลือก็นำไปขาย'
'แล้วเวลาที่เหลือคุณเอาไปทำอะไร' นักธุรกิจถาม
'ชีวิตผมไม่มีอะไรหรอก ปกติผมจะก็นอนตื่นสาย ใช้เวลาช่วงบ่ายนอนกลางวันกับภรรยา เล่นกับลูกๆ ตกเย็นก็ไปนั่งจิบไวน์ที่หมู่บ้าน' ชาวประมงตอบ
นักธุรกิจเมื่อได้ยินดังนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า 'ผมเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีรายได้หลายสิบล้านดอลลาร์ โดยทำงานแค่ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ผมสามารถช่วยให้คุณมีรายได้มากกว่านี้ได้ อย่างแรกที่คุณต้องทำ คือ คุณต้องออกไปจับปลานานขึ้น เมื่อจับปลาได้นานขึ้น คุณก็จะมีรายได้มากขึ้น
พอคุณมีรายได้มากขึ้น คุณก็นำเงินตรงนั้น ไปซื้อเรือลำใหญ่ขึ้น เพื่อที่คุณจะได้จับปลาคราวละมากๆ
เมื่อคุณจับปลาได้มากพอ คุณก็นำปลาพวกนั้นไปแปรรูปเพิ่มราคาขึ้นไปอีก หรือไม่ก็สร้างโรงงานแปรรูปปลาไปเลย คุณจะได้เป็นเจ้าของโรงงานและไม่ต้องขายปลาผ่านพ่อค้ากลาง ที่ได้ราคาต่ำ
ทีนี้ เมื่อเปิดโรงงานไปสักพัก และเริ่มมีรายได้ คุณก็เปิดโรงงานเป็นบริษัทและนำเข้าตลาดหลักทรัพย์
บริษัทของคุณก็ยิ่งมีทุน มีรายได้ โดยที่คุณเป็นเจ้าของบริษัทควบคุมทุกอย่างตั้งแต่ การจับปลา การแปรรูป จนไปถึงการขาย โดยที่คุณไม่ต้องทำงานเอง'
ชาวประมงถามกลับมาว่า 'แล้วมันต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะทำตามแผนอย่างที่คุณว่าเสร็จ?'
นักธุรกิจตอบกลับว่า 'ประมาณ 15-20 ปี แต่คุณจะมีรายได้หลายสิบล้านดอลลาร์เลยนะ!'
'แล้วหลังจากนั้นละ?' ชาวประมงถาม
'พอคุณมีรายได้เป็นสิบล้านแล้ว คุณก็แค่เกษียนตัวเอง นอนตื่นสาย ใช้เวลาช่วงบ่ายนอนกลางวันกับภรรยาของคุณ เล่นกับลูกๆ ตกเย็นก็ออกไปนั่งจิบไวน์ที่หมู่บ้านไง' นักธุรกิจตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
"แท้จริงแล้วความสุขของเราไม่จำเป็นจะต้องมีเงินทอง ทรัพย์สินเข้ามาเกี่ยวข้อง" เหมือนอย่างชาวประมงที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนอาชีพที่เขาทำ
เรื่องราวความสุขของชาวประมงคล้ายกับ "ปรัชญาอิคิไก" ของญี่ปุ่นที่สอนให้เราหาความสุขเล็กๆ ในแต่ละวัน ซึ่งนั้นอาจเป็นการตื่นเช้า และได้จิบชากาแฟก็ตาม
ถ้าคุณยังหา "ความสุขของตัวเอง" ไม่เจอ ไม่รู้ว่า ตัวเองมีความสุขกับเรื่องอะไร และอยากค้นหามันให้เจอ
มีหนังสือหนึ่งเล่มที่คุณควรหามาอ่าน ชื่อว่า "อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่" แล้วคุณจะเริ่มเห็นความสุขในชีวิตของตัวคุณชัดขึ้นหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้
.
.
เขียนและเรียบเรียงโดย #วิชานอกห้อง
| ยกระดับตัวคุณ เพื่อเป้าหมายที่สำเร็จ
กดติดตาม “วิชานอกห้อง” เพื่อให้ไม่พลาดคำคมสร้างพลังและยกระดับความคิดให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน
📌 ช่องทางการติดตาม “วิชานอกห้อง”
โฆษณา