1 มิ.ย. 2023 เวลา 01:00 • ธุรกิจ

สงคราม AI กำลังทำให้ชิปขาดแคลน

ความสำเร็จของ ChatGPT ได้จุดกระแสในเรื่อง Artificial Intelligence (AI) ขึ้นมา
ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในฝั่งของผู้บริโภคเท่านั้น แต่มันยังเกิดขึ้นในฝากของธุรกิจด้วย
ที่ต้องแข่งขันกัน “เสมือนเป็นสงคราม AI” เพื่อช่วงชิงตลาดที่มียังมีศักยภาพสูงยิ่งนี้
อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ต้องเผชิญเข้ากับอุปสรรคสำคัญ นั่นคือ “การขาดแคลนชิป”
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อความรวดเร็วในการประมวลผลและพัฒนา AI ขึ้นมา…
โดยชิปประเภทสำคัญ คือ Graphic Chips ซึ่งเราเรียกกันสั้นๆ ว่า GPUs
หนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุด ก็คือ “Nvidia” ซึ่งเป็นผู้ผลิตคนสำคัญในชิปประเภทนี้
📌 การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มชิป
หลังการประกาศผลประกอบการบริษัทในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาหุ้นของ Nvidia เพิ่มมากขึ้นกว่า 25% ในวันเดียว
และถ้านับย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้ราคาหุ้นของพวกเขาขึ้นมากว่า 150% แล้ว
โดยข่าวดีที่ทำให้นักลงทุนเร่งเข้าไปซื้อหุ้น Nvidia มาจากรายได้ที่พวกเขารายงานออกมา
ในไตรมาสแรกของปีนี้ Nvidia มีรายได้ 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ถึง 10%
แต่สิ่งนี้ยังไม่ใช่ข่าวดีที่สุดที่นักลงทุนจับตา
ข้อมูลสำคัญกว่านั้น คือ การคาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่สองของปี
ที่ทาง Nvidia คาดว่า พวกเขาจะมีรายได้กว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งหากตัวเลขข้างต้นเป็นจริง จะมากกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้มากถึง 50%!!
ทำให้นักลงทุนแห่กันเข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้กัน
Nvidia ไม่ใช่หุ้นในกลุ่มชิปบริษัทเดียวที่ได้รับประโยชน์จากเติบโตของวงการ AI
เพราะนอกจากชิปที่ใช้ในการประมวลผลแล้ว ธุรกิจที่ผลิตชิปเก็บข้อมูล (memory chips) ก็มีความจำเป็นต่อการพัฒนา AI อย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชิปเก็บข้อมูลประเภท dynamic random-access memory (DRAM)
ซึ่งมีบริษัทสำคัญอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron
อย่างไรก็ดี ความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้ แม้มันจะทำให้ธุรกิจกลุ่มผู้ผลิตชิปยิ้มหวาน
แต่ในกลุ่มผู้พัฒนา AI เองกำลังเจอปัญหาหนักใจเพราะความต้องการชิปของพวกเขามันมากกว่ากำลังการผลิตที่อุตสาหกรรมผู้ผลิตชิปผลิตได้
📌 บริษัท AI กำลังตามหาชิปจากทุกช่องทาง
อ้างอิงจากบทความของ Wall Street Journal พวกเขาบอกว่า
ผู้ก่อตั้งบริษัท AI หลายคนคาดการณ์ว่า การขาดแคลนด้านชิปโดยเฉพาะ GPUs
จะยืดเยื้อไปอย่างน้อยจนถึงปีหน้า
ยกตัวอย่างเช่น Sharon Zhou ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Lamini ที่กล่าวว่าสถานการณ์ตอนนี้ “เป็นเหมือนกับการขาคแคลนกระดาษทิชชู่ในช่วงการระบาดของโควิด”
ตอนนี้ผู้พัฒนา AI ต่างต้องปวดหัวกับการหาวิธีในการได้มาซึ่ง GPUs
ไม่เว้นแม้แต่บริษัทใหญ่ ๆ ที่มีความสัมพันธ์การค้าหลากหลาย
ก็ไม่ได้การันตีว่าจะสามารถหาชิปได้เพียงพอกับความต้องการของตน
และในกรณีของบริษัทที่สามารถสั่งซื้อ GPUs ได้อยู่ ก็ยังไม่สามารถรับชิปได้ในทันที
แต่อาจจะต้องกินเวลามากหลายเดือนกว่าจะได้รับของ
ยกตัวอย่างเช่น Supermicro ที่บอกว่า “พวกเขาต้องรอชิปอีกนานถึง 6 เดือน”
อีกหนึ่งทางเลือกที่หลายบริษัทนำมาใช้ คือ การหาซื้อ GPUs ผ่านตลาดมือสอง
ที่นิยมไปมองหากันเป็นพิเศษในช่วงนี้ ก็คือ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีความผันผวนและมีคนสนใจน้อยลงไปในช่วงหลัง
อุปสรรคในช่วงนี้เป็นบททดสอบสำคัญกับธุรกิจ AI จำนวนมาก
ยิ่งถ้ายังเป็นธุรกิจระดับสตาร์ทอัพอยู่ยิ่งเป็นบททดสอบที่ยาก
เพราะพวกเขาอาจจะต้องแข่งกับเวลาและข้อจำกัดของบริษัท
ซึ่งสุดท้ายธุรกิจที่ปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมการแข่งขันได้ดีกว่า
ก็จะกลายเป็นผู้ที่อยู่รอดในบั้นปลายนั่นเอง…
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา