Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขียนมัน(เดย์)จนลืม
•
ติดตาม
13 มิ.ย. 2023 เวลา 12:17 • ความคิดเห็น
ประสบการณ์ วิธีการส่วนตัว เกี่ยวกับการเขียน บทภาพยนตร์ บทละครเวที และนิยาย
วันนี้ขอเล่าเรื่องราว รวมถึงมา แชร์ประสบการณ์ วิธีการส่วนตัว เกี่ยวกับการทำงานเขียน เช่น การเขียนบทภาพยนตร์ เขียนนิยายและเขียนบทละครเวที
.
ต้องบอกก่อนว่า ไม่มีวิธีไหนถูกหรือผิด เพราะเราเชื่อว่าทุกคนต่างมีวิธีที่ถนัด เราที่จบเอกฟิล์มมา ก็ใช่ว่าเราจะใช้วิธีตามที่เรียนมาทั้งหมด ท้ายที่สุดเราก็เอาทั้งวิธีที่เรียนและวิธีที่เราถนัดมารวมๆกันอยู่ดี
.
เราเขียนบทภาพยนตร์ตั้งแต่ตอนเรียน ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นจากการเรียน พอได้เรียนวิชาเขียนบทถึงได้รู้… รู้สึกว่าต้องทำต้องใช้มากกว่าจินตนาการ ก็ตอนที่ตัวเองต้องเขียนตั้งแต่ พล็อต โครงเรื่องย่อ โครงเรื่องขยาย และบทสนทนา เพื่อส่งในรายวิชา และพัฒนาบทที่จะเอาไปทำเป็นประเจคจบ
.
พอวันเวลาผ่านไปไม่ค่อยได้เขียนและต้องกลับมาเขียน ไม่ใช่การเขียนบทภาพยนตร์น่ะสิครั้งนี้ แต่เป็นการลองเขียนนิยาย ต้องเกริ่นก่อนว่านิยายเนี่ย เคยมีความคิดที่อยากจะเขียนตั้งแต่ตอนเรียน ด้วยความที่ชอบอ่านมากๆ แบบติดการอ่านนิยายออนไลน์สุดๆ
.
เรามาเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรกประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา จุดเริ่มต้นของการเริ่มเขียนนิยาย เพราะว่ารู้สึกเบื่อกับสิ่งที่ทำอยู่ ในตอนนั้นมีพล็อตแค่ไม่กี่เรื่อง เขียนแบบชิลๆไม่รีบร้อน
.
จากพล็อตในหัวสู่การแปลงออกมาเป็นตัวอักษร เขียนออกมาแล้วต้องมาปรับหลายครั้งเหมือนกัน กว่าจะได้พล็อตที่ดูลงตัว พอได้พล็อตตามที่ต้องการแล้ว มาถึงขั้นตอนวางพล็อตเรื่อง กำหนดเส้นเรื่อง หรือทำโครงสร้างทางอารมณ์แล้วแต่คนจะเรียก
.
เขียนคาแรคเตอร์ตัวละครส่วนนี้ เป็นอีกหนึ่งพาร์ทที่ได้เขียนแล้วก็เพลินๆอยู่เหมือนกัน กำหนดปูมหลังและเป้าหมายของตัวละคร พอได้ตรงนี้ก็ถึงขั้นตอนเขียนทรีตเมนต์คร่าวๆ ว่าจะมีทั้งหมดกี่ตอนและจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง
.
มาทีขั้นตอนเขียนบรรยายเนื้อหาและบทสนทนาในแต่ละคร อันนี้แต่ละวันก็เขียนได้มากน้อยแตกต่างกันออกไป เราเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามอารมณ์ คิดไม่ได้ก็ไม่ค่อยฝืน ความถี่ของการอัพงานเขียน(ส่วนตัว)แต่ละงานก็มาๆหายๆ (เหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นกับงานจ้างนะ)
.
เขียนไปเรื่อยๆ เอาเข้าจริงเขียนได้ 5-6 ตอน ก็…ใช่แล้วค่ะ เราเชื่อว่านักเขียนนิยายไม่ต่ำกว่า 90% จะต้องมีพล็อตใหม่ๆเกิดขึ้นมา ระหว่างทางที่กำลังเขียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ มีทั้งพล็อตใหม่เกี่ยวกับตัวละครอื่นๆที่อยู่ในเรื่องเดิม หรือไม่ก็เป็นพล็อตใหม่ ตัวละครใหม่ไปเลย
.
ความตั้งใจส่วนตัวเราๆเขียนนิยาย ให้เป็นมากกว่านิยาย ก็ต้องยอมรับว่าตั้งเเต่วันนั้นถึงวันนี้นิยายที่เขียนก็ยังเขียนไม่จบ ฮ่าๆๆ อีกอย่างคือสำนวน ภาษา หรือแม้กระทั้งรูปแบบที่ใช้ในการเขียนตอนนี้ จะออกไปทางบทภาพยนตร์ซะมากกว่า แต่พอคิดไปคิดมาก็… อืมเป็นมากกว่านิยายตามที่คิดไว้นั่นแหละ
.
อ่อ~ แล้วก็มีการเขียนบทละครเวที(งานจ้าง) ซึ่งแตกต่างจากการเขียนบทภาพยนตร์ ละครเวทีต้องเน้นไปที่บทพูดของตัวละครเป็นหลัก แต่ก็ต้องกระชับเข้าใจง่าย ส่วนภาพยนตร์ตัวละครไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างหรือมีบทพูดเยอะ สามารถเล่าเรื่องโดยใช้ภาพแทนได้
.
แต่สิ่งที่เหมือนกันของ ภาพยนตร์ ละครเวที นิยาย คือ… การบรรยายท่าทางของตัวละคร รวมถึงการบรรยายสถานที่ให้ชัดเจน แบบว่าอ่านจบแล้วเห็นภาพ
.
ท้ายที่สุด อยากฝากถึงคนที่อยากเขียนนิยาย หรืออยากทำอะไรก็ตามแต่
เริ่มจากลงมือเขียน
เขียนตามสไตล์ของตัวเอง
ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกหรือผิด
ไม่ต้องกังวลว่าคนจะชอบหรือไม่ชอบ
นักเขียน
พัฒนาตัวเอง
ไลฟ์สไตล์
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย