14 มิ.ย. 2023 เวลา 12:08 • ถ่ายภาพ

“เอมะ” (絵馬) แผ่นไม้ขอพรประจำศาลเจ้าประเทศญี่ปุ่น

มาต่อเรื่องของศาลเจ้าของประเทศญี่ปุ่นอีกสักหนึ่งโพสต์แล้วกันนะครับ มีใครเคยได้ลองเขียนคำอธิษฐานขอกันบ้างมั้ยครับ ไม่ว่าจะเป็นการขอโชคลาภ ถูกสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 หรือจะเป็นการให้พบเจอกับความรักที่แท้จริง คู่ครองที่เราหามานานแสนนาน ที่ไม่รู้ว่าเกิดมารึยัง หรือล้มหายตายจากกันไปแล้ว
ที่นี้เรามาว่ากันถึงที่มาของแผ่นไม้ก่อนนะครับ โดย คำว่า “เอ” มาจากคำว่า เอะ แปลว่า รูป หรือ รูปวาด ส่วนคำว่า ”มะ” มาจากคำว่า อุเมะ แปลว่า ม้า โดยคนญี่ปุ่นโบราณที่นับถือศาสนาชินโต จะเชื่อว่าม้าเป็นพาหหนะของเทพเจ้า ในสมัยก่อนถึงขั้นมีการนำม้าตัวเป็นมาเป็นเครื่องสักการะบูชาเทพเจ้ากันจริงเลยๆ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้รูปแบบเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาไปจนกลายมาเป็น แผ่นไม้ขอพร ที่มีรูปม้าอยู่ข้างหลังแทน
การขอพรแต่ละครั้ง ต้องมองว่าขอพรอะไร
กับเทพหรือสิ่งศักดิ์สัทธิ์อะไร
1
ผมอยากพูดถึงเรื่องของการขอพร ที่ผมมีมุมมองที่แตกต่างออกไปในการขอพรกับเทพเจ้าแต่ละองค์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละอย่าง ผมมักมีแนวคิดที่ว่า ถ้าคุณจะขอพรเกี่ยวกับเรื่องของความรัก คุณก็ต้องไปขอจากเทพเจ้าความรัก ถ้าคุณอยากมีโชคลาภ เงินทอง ก็ต้องไปขอจากเทพแห่งโชคลาภและความร่ำรวย แต่ส่วนมากที่ผมเจอจะเป็นการที่ตามกระแสสังคมกันไป โดยไม่ได้บอกว่าท่านที่เราไปขอนั้น เค้าเป็นใครและโดดเด่นในด้านใด
ตัวอย่างเช่น แผ่นไม้ขอพรที่เราเขียนขอพรลงไปแล้วถวายเป็นเครื่องสักการะไปกับม้าที่เป็นพาหนะของเทพพระเจ้า ตอนผมอธิษฐานจะขอจงเจาะไปว่า ขอกับเทพเจ้าองค์ใด ในเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้ขอในเรื่องบางอย่างที่เป็นเรื่องของความพยายามเป็นหลัก เพราะมองว่าการขอพรที่ต้องมีความพยายามของเราเข้าไปด้วย เช่น อยากได้ยอดขายวันละ 1 ล้านบาท แต่คุณกับขายแบบเดิมๆไม่ได้พัฒนาอะไรเลย มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้
โชคชะตาอาจจะเป็นตัวกำหนดชีวิต
แต่สองมือก็เป็นตัวลิขิตชีวิตของคุณเช่นกัน
1
โฆษณา