18 ก.ค. 2023 เวลา 04:41 • นิยาย เรื่องสั้น

เกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็นสลิ่มไปซะแล้ว

ตอนที่ 22 : กระสุนไร้เป้าหมาย
"ถ้าแบบนั้นเราก็แย่น่ะสิ"
ราวัลล่าร้องออกไปพลางหันลงไปมองเจ้าหัวรถจักร ก่อนเขาจะหันขึ้นมามองที่สาวกะบังลม เพราะคำนวณแล้วว่าทั้งคู่คงจะสู้เจ้าหัวรถจักรและลูกๆ เล็กๆ จำนวนมากของมันไม่ไหวแน่ ในขณะที่อีกฝ่ายทำหน้างงๆ กลับมา
"แย่ตรงไหน ?"
"ก็ถ้ามันบุกโจมตีเมืองนี้ เราก็ใช้เมืองนี้เป็นที่ยืนยันตัวสำหรับการเดินทางไปเมืองที่ใหญ่กว่านี้ไม่ได้ล่ะสิ"
"อ้อ เรื่องนั้น ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก เมืองทุกเมืองในสลิ่มแลนด์ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่ดีที่สุดหรือเมืองที่แย่ที่สุดทุกเมืองล้วนแล้วแต่เผชิญกับมอนสเตอร์พวกนี้มาแล้ว และถึงจะเป็นเมืองที่ย่ำแย่สุดๆ ในสลิ่มแลนด์ ก็ไม่เคยมีเมืองไหนเลยที่มีรายงายว่าถูกเจ้ามอนสเตอร์พวกนี้ตีแตก"
"เอาจริงเหรอ ? ทั้งๆ ที่พวกมันเยอะขนาดนี้เนี่ยนะ"
"จริงสิ เดี๋ยวตอนลอบเข้าไปในเมือง เราน่าจะได้เห็นนิดนึงล่ะมั้ง"
สาวกะบังลมยืนยันกลับมาอย่างหนักแน่น ก่อนเสียงหวูดรถไฟจะดังสนั่นขึ้นจากด้านล่าง ความสนใจทั้งหมดของทั้งคู่จึงถูกดึงไปยังเจ้าหัวรถจักรคันยักษ์ ที่กำลังทำท่าทำทางเหมือนนักกีฬาที่กำลังจะออกวิ่ง
"มันจะเอาแล้วสินะ"
"ใช่ มันจะเอาแล้ว ลงไปกันเถอะ"
"ลงไปตอนนี้เนี่ยนะ"
"ถ้าเจ้าหัวรถจักรมันล็อคเป้าหมายแล้วก็ไม่มีอะไรน่ากังวลหรอกน่า เชื่อใจเราสิ"
สาวกะบังลมตอบกลับ ก่อนเธอจะกระโดดลงไปที่ด้านล่างทันที วินาทีที่เท้าของเธอถึงพื้น เสียงแจ้งเตือนการโจมตีของระบบก็ดังขึ้นในของราวัลล่าทันที เนื่องจากทั้งคู่เป็นสมาชิกในปาร์ตี้เดียวกัน แต่ทั้งหมดก็มีแค่นั้น มันเต็มไปด้วยเสียงของระบบ และตามมาด้วยความว่างเปล่า ในขณะที่สาวกะบังลมเดินเหยียบเจ้ารถไฟหิวแสงคันเล็กๆ เล่นเพื่อเก็บค่าประสบการณ์พลางโบกมือให้ราวัลล่า
"เร็ว ลงมาเก็บเลเวลเร็วเข้า"
พูดยังไม่ทันขาดคำ ราวัลล่าก็โดดลงมาจากต้นไม้ตามอีกฝ่ายไปเรียบร้อยแล้ว เขาวิ่งไปมาพลางเหยียบเจ้าพวกรถไฟหิวแสงจำนวนมากไปเรื่อยๆ ในขณะที่ค่าประสบการณ์หรือที่ที่นี่เรียกว่าค่าความดีนั้นพุ่งกระชูด ราวกับว่าเขาอยู่ใน Bonus Stage ที่มักจะมีไว้ให้พวกที่เติม VVIPSSS ฟาร์มเลเวล
"ฮ่ะๆๆๆ นี่มันอะไรเนี่ย ทำไมพวกมันถึงไม่โจมตีเราล่ะ"
"มันกำลังรอหัวรถจักรเคลื่อนตัวแล้วพาพวกมันไปหาแสงกินอยู่ เรื่องอื่นพวกมันไม่สนใจหรอก"
"ถึงเพื่อนพวกมันจะตายกันเป็นยุงเลยเนี่ยนะ"
"ความลับก็คือ พวกมันไม่ใช่เพื่อนกัน"
ได้ยินแบบนั้น ราวัลล่าก็พอจะเข้าใจการทำงานของมอนสเตอร์สองตัวนี้คร่าวๆ คือพวกมันไม่ได้มีสายสัมพันธ์ใดๆ ต่อกันนอกจากผลประโยชน์ และถึงใครจะตายแต่ถ้าตัวเองได้ประโยชน์พวกมันก็ยังโอเคอยู่ เจ้าหัวรถจักรจึงใช้พลังของรถไฟเล็กๆ จำนวนมากเพื่อเสริมกำลังตัวเอง ส่วนเจ้าพวกรถไฟเล็กๆ ก็อยากได้แสง พวกมันจึงพร้อมจะโจมตีตามคำสั่งของหัวรถจักร แม้มันจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ทีนี้พอเจ้าหัวรถจักรล็อคเป้าหมายแล้ว เจ้ารถไฟคันเล็กๆ คันอื่นแม้จะเห็นเพื่อนข้างๆ ตายไปเป็นยุง พวกมันก็ไม่สนใจ เพราะสิ่งที่พวกมันมุ่งหมายคือแสงที่จะตัวเองจะได้ต่อมาจากเจ้าหัวรถจักร หรือถ้าเผื่อฟลุ๊คๆ พวกมันก็อาจจะได้แสงเยอะสุดๆ จนกลายร่างเป็นหัวรถจักรคันต่อไปก็เป็นได้ พวกมันจึงกลับตกรถเป็นที่สุด และไม่ไปนั่งสนใจเรื่องอื่นเมื่อหวูดรถไฟซึ่งเป็นสัญญาณแห่งการโจมตีดังขึ้น
'โหวดดดดดดดดดดดดดดด'
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเมามันกับการเก็บเลเวล เสียงหวูดรถไฟก็ดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นสาวกะบังลมก็รีบตะโกนออกมาว่า
"เกาะเจ้าตัวใหญ่ไว้เร็ว"
"โอเค"
ราวัลล่าตอบรับพลางวิ่งไปเกาะส่วนท้ายของเจ้าหัวรถจักรไว้ ก่อนความเร็วที่มาจากการเคลื่อนที่ของเจ้าหัวรถจักรจะทำให้ภาพในกรอบสายตาของราวัลล่ากลายเป็นเพียงภาพวูบๆ วาบๆ ราวกับว่าพวกมันละลายรวมกันเป็นภาพหนึ่งเดียวที่ก็ดูไม่ออกเลยว่าคืออะไร นอกจากภาพของไอติมเรนโบว์ที่สีเยอะหน่อย
จนกระทั่งมันหยุดลงพร้อมกับแรงกระแทกมหาศาล ก่อนสิ่งที่ราวัลล่าและสาวกะบังลมจับอยู่จะราววับไปในอากาศ ทิ้งไว้เพียงซากของกำแพงเมืองที่โหว่เป็นรูขนาดใหญ่ และราวัลล่าที่นอนเอ้งเม้งอยู่กับความมึนงง ในขณะที่สาวกะบังลมรีบลุกขึ้นและตะโกนเรียกราวัลล่ากลับมาว่า
"ลุกขึ้นเร็วเข้า พวกรถไฟหิวแสงกำลังจะตามมาแล้ว"
สิ้นเสียงของเธอ เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของล้อรถไฟก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังทันที ราวัลล่าจึงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามหญิงสาวเข้าไปในเมือง ในขณะที่สลิ่มจำนวนวิ่งสวนพวกเขาออกจากเมืองไปพร้อมกับอาวุธในมือ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งเข้ามาจนถึงจตุรัสซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง สาวกะบังลมจึงส่งสัญญาณในราวัลล่าหยุดวิ่ง ก่อนเธอจะหาที่เหมาะๆ นั่งสมาธิ หยิบขันเปล่าออกมาตั้ง และเปิดสกิลประจำอาชีพขอทานของเธอ สายตาของชาวเมืองที่เคยจับจ้องพวกเขาอยู่จึงค่อยๆ เลือนหายไปทีละคู่ ทีละคู่ จนหมดไปในที่สุด
"ม..เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมไอตัวนั้นมันหายไปล่ะ ?"
"แปลกตรงไหนล่ะ ฉันก็บอกนายแล้วไงว่ามันไม่เคยมีเมืองไหนถูกทำลายเพราะรถไฟพวกนั้น"
"ใช่ๆ ฉันรู้ แต่หลังจากที่ชนไปทีเดียว มันหายไปในอากาศเลยนะ มันไม่แปลกเกินไปเหรอ ?"
"ก็นะ ถ้าเป็นนายที่พึ่งมาที่สลิ่มแลนด์ มันก็คงแปลกสำหรับนายนั่นแหละ แต่ฉันเจอมาจนชินแล้วล่ะ พวกนี้ขอแค่ให้มันได้ชนกำแพงแตกพวกมันก็พอใจแล้วล่ะ ฉันเดาว่าหลังจากนี้พวกมันก็คงจะเอาไปโม้ว่าตัวเองชนกำแพงเมืองแตกล่ะมั้ง แม้ว่าชนกำแพงแตกไปแล้วจะไม่มีอะไรต่อจากนั้นก็เถอะ"
ราวัลล่าขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ก่อนเขาจะถามอีกฝ่ายกลับไปว่า
"เพื่อ ?"
"ก็เอาไปโม้ให้คนอื่นฟังไงว่าตัวเองเคนต่อสู้ในสมรภูมิที่ใหญ่ขนาดไหน แม้สุดท้ายแล้วพวกมันจะต่อสู้ไปแบบไร้เป้าหมาย ไร้ผลลัพธ์ก็เถอะ"
"ก็นั่นแหละ เพื่ออออออออ ?"
"ฉันจะรู้เหรอ ฉันไม่ใช่พวกมันซะหน่อย ฉันแค่เดาๆ เอาเฉยๆ "
สาวกะบังลมตอบกลับมาเพียงแค่นั้น ก่อนราวัลล่าจะหันไปเห็นว่าการโจมตีของรถไฟเหล่านั้นจบลงแล้ว จบลงในเวลาไม่ถึง 5 นาทีแม้จากที่ราวัลล่าเห็นในป่าพวกมันจะมีกันเยอะมาก โหดร้ายมาก แต่ทั้งหมดนั้นก็จบลงแล้ว จบลงเพียงไม่นานหลังจากที่เจ้าหัวรถจักรหายตัวไป จบลงเพียงไม่นานหลังจากพวกรถไฟหิวแสงถูกชาวเมืองตอบโต้กลับ
เหลือเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของชาวเมืองที่กำลังพูดถึงการหลบหนีของเหล่ารถไฟหิวแสงอย่างสนุกปาก พร้อมกับพวกรถไฟหิวแสงบางส่วนที่ถูกหิ้วอยู่ในถุงตาข่าย
โฆษณา