รู้จัก 'Focus Friday' วันโฟกัสงานก่อนพักผ่อน
เมื่อถึงวันศุกร์ทีไร ก็รู้สึกดีใจทุกที เพราะนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนที่เราจะเข้าสู่วันหยุดสุดสัปดาห์ในการพักผ่อน (ก่อนกลับไปทำงานอีกครั้งในวันจันทร์) แต่แล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์กลับมาพร้อมกับงานที่ค้างคากายและใจที่จะมารบกวนช่วงเวลาพักผ่อนของเราอยู่เสมอ
แม้วัฒนธรรมการทำงานของบริษัทจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม จากที่เราจะต้องเข้าบริษัททุกวันเปลี่ยนเป็นวันเว้นวันระหว่างเข้าบริษัทกับ Work Form Home ที่จะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น แต่ทำไม เราถึงยังคงรู้สึกเครียดและเหนื่อยหน่ายกับการทำงานอยู่ละ?
หากย้อนกลับไปดูวัฒนธรรมการทำงานของบริษัท จะเห็นว่า มีสิ่งหนึ่งที่รบกวนประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและเป็นหนึ่งในข้อกังวลสำคัญของพนักงาน นั้นก็คือ 'การประชุมที่ถี่จนจำกัดเวลาเคลียร์งาน'
ซึ่งการประชุมในแต่ละวัน ตั้งแต่การทำสไลด์ นำเสนอไอเดีย รวมถึงการสรุปผล ก็กินแรงไปเทียบเท่ากับการทำงานแล้ว ถึงจะมีเวลาพักก็ตาม แต่มันก็ไม่เพียงพอสำหรับแรงในการเคลียร์งานได้ จากที่การประชุมควรจะเป็นการพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนกลายเป็นกิจกรรมที่เสกงานที่ควรทำกลายเป็นงานที่ค้างคาทั้งในกายและในใจ
ยังไงซะ เราก็ควรแก้ปัญหาด้วยการกำหนด 1 วันในการเคลียร์งานและไม่มีการประชุม ถ้าจะเลือกวันให้พอเหมาะ พอเจาะก่อนจะไปพักผ่อนอย่างอิ่มเอมใจก็ต้องเป็น 'วันศุกร์' ซึ่งตรงกับ Focus Friday ที่เป็นแนวทางการทำงานที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่กำลังมาถึง
แล้ว Focus Friday คืออะไร มาทำความรู้จักไปพร้อมกับบทความนี้กัน
[ Focus Friday คืออะไร ]
Focus Friday คือ แนวทางการทำงานที่ไม่ต้องมีการประชุมหรือมีช่วงเวลาการประชุมที่น้อยลง และมีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ในวันศุกร์ โดยหลักจะเน้นไปที่ 'สมาธิในการทำงานหรือโปรเจค' ที่เป็นเป้าหมายสำคัญให้สำเร็จลุล่วงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์
โดยเป้าหมายหลัก คือ การจัดการให้เกิดความยืดหยุ่นในตารางเวลา ซึ่งอาจต้องควบคู่ไปกับการเรียงลำดับความสำคัญของงานและการทำงานแบบอะซิงโครนัสหรือการทำงานร่วมกัน ที่กำหนดช่วงเวลาพูดคุยของตัวเอง โดยไม่คาดหวังการตอบกลับทันที
อีกทั้ง Focus Friday ก็ได้มีบางบริษัทนำไปปฏิบัติแล้วเช่นกัน อย่างบริษัท Slack แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับสื่อสารทางธุรกิจสัญชาติอเมริกัน ได้ใช้แนวทางการทำงานอย่าง Focus Friday ในช่วงเกิดโรคระบาด โดยยกเลิกประชุมภายในและให้พนักงานปิดการแจ้งเตือน พบว่า พนักงาน 84 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่า Focus Friday เป็นประโยชน์แก่พวกเขาจริงๆ
[ การเพิ่มประสิทธิภาพของ Focus Fridays ]
1. กำหนดช่วงเวลาในแบบของตัวเอง
จริงๆ แล้ว แนวทางของ Focus Fridays กับ Focus Day ไม่ต่างกันเท่าไร ต่างกันเพียงแค่วันที่กำหนดชัดเจน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ การกำหนดช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถจัดสรรได้อย่างอิสระ
โดยคุณอาจจะกำหนดช่วงเวลาในแบบของตัวเองได้ ยกตัวอย่าง ช่วงเช้าจะเป็นการเคลียร์งาน ช่วงบ่ายก็จะทำกิจกรรมอดิเรก, ช่วงเวลาบ่ายสอง จะเป็นช่วงเวลาเล่นเกมส์หรือใส่หูฟังฟังเพลง, กำหนดเวลาสัก 2–3 ชั่วโมงในการเดินเล่นและหางานอดิเรกในการพัฒนาตัวเองก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสละเวลาเพื่อเยียวยาสุขภาพจิตของเรานั้นเอง
2. จัดการกับสิ่งรบกวนในการทำงานซะ
กล่องข้อความจากอีเมล หรือเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ที่ทำให้คุณเผลอแอบไปดูทุกครั้ง บางทีคุณอาจจะแก้ปัญหาได้ด้วยการปิดแจ้งเตือนหรือปิดเครื่อง รวมถึงบรรยากาศพื้นที่ทำงาน หากมันมีเสียงรบกวนมากเกินไป คุณอาจจะต้องแยกตัวไปหาพื้นที่เงียบ ที่สำคัญอย่าลืมบอกเพื่อนร่วมงานหรือพนักงานด้วย
3. ประเมินตัวเอง
วิธีนี้จะต้องมีการจดบันทึก ไม่ว่าจะการเขียนหรือการพิมพ์ เพื่อเช็คตัวเองว่า คุณได้ใช้เวลาไปกับการทำงานและงานอดิเรกอย่างคุ้มค่าไหมหรือคุณจะทบทวนรายละเอียดการทำงานของเราได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งสิ่งนี้ยังช่วยให้คุณมองเห็นคุณค่าในตัวเองอีกด้วย
Focus Friday เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมภายในของบริษัทและความเป็นอยู่ที่ดีและสุขภาพจิตของพนักงานด้วย ซึ่งเราขอย้ำว่า สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเร่งการทำงานทั้งหมดนี้ แต่เป็นการเลือกงานสำคัญต่อบริษัทที่ต้องทำให้เสร็จ โดยที่ไม่มีสิ่งรบกวนในการเคลียร์งานต่างหาก
"โดยเราหวังว่า Focus Friday จะช่วยต่อยอดให้เข้ากับชีวิตการทำงานของคุณ เพื่อให้คุณมีวันพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบเป็นของตัวเอง"
เขียนโดย Purin Ausawateerageat
Resources:
.
.
.
.
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
