4 ก.ย. 2023 เวลา 12:03 • ประวัติศาสตร์
สถานีรถไฟบุรีรัมย์

การท่องไปในเส้นทางช่างศิลป์ แถบอีสานใต้

เราล่องกันมาจาก อุบล ศรีสะเกษ สุรินทร์ วันนี้ได้ฤกษ์ถึงบุรีรัมย์ แล้วครับ ปู๊นนนนๆ มาตามทางรถไฟ ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ช่วงระหว่างปี 2527-2535 ผู้เขียนต้องเดินทางมาที่นี่ทุกครั้งที่มีการเดินสายจัดดิสเพลย์ภาคอิสานใต้+ตะวันออก ของช่างศิลป์แอร์โรว์และไนกี้
ภาพจากหน้าปก ตั๋วรถไฟจากบุรีรัมย์ ไปโคราช 24 บาท รวมค่าปรับ 20 บาท เท่ากับ 44 บาท วันที่ 19 ธ.ค.2530
ค่าปรับฐานนั่งเลยสถานีที่จะลง ด้วยระยะทางแค่ 58 กม ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง กะว่าจะไปพักที่บุรีรัมย์แล้วค่อยออกทำงานช่วงเช้า รถไฟเที่ยวนั้นเป็นรถหวานเย็น มีโบกี้พ่วงยาวมาก และเป็นเดือนสุดท้ายของปี อากาศนี้หนาวมากๆเหมือนรถไฟตู้พัดลมได้อัพเกรดเป็นขบวนปรับอากาศ
ผู้โดยสารทั้งขบวนจึงพร้อมใจกันปิดหน้าต่าง ทำให้ไม่ได้ยินเสียงประกาศชื่อของแต่ละสถานี ด้วยความชะชะช่าใจ เอ้ย..ชะล่าใจ ผู้เขียนนั่งเคลิ้มๆอยู่เกือบท้ายขบวน จึงไม่ได้ยิน จนรถไฟเริ่มเคลื่อนตัวช้าๆออกจากสถานีบุ..บุ..บุรีรัมย์..อ๊ากส์!!
ขอบคุณภาพประกอบจาก FB : สถานีรถไฟบุรีรัมย์
ไม่ทันกาลเสียแล้ว เพราะกว่าจะเห็นป้ายสถานีฯที่ค่อยๆเคลื่อนห่างออกไป อีกทั้งสัมภาระต่างๆ นอกจากกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวแล้ว ยังมีอุปกรณ์ดิสเพลย์ โปสเตอร์ โมบายต่างๆอีกหลายรายการ
ชั่วอึดใจ..พระเอกก็มา เสียงคีมตัดตั๋วดัง แง่บๆๆมาแต่ไกล พนักงานตรวจตั๋วรถไฟนั่นเอง เดินมาทันทีเหมือนมี gps โดนค่าปรับไป 20 บาท บวกค่าโดยสารจาก บุรีรัมย์ ไปโคราข อีก 24 บาท รวม 44 บาทและต้องไปลงโคราช คืนนั้นผู้เขียนเลยต้องพักที่โคราช ก่อนที่จะเดินทางกลับมาบุรีรัมย์อีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น
หมายเหตุ : บทความนี้ตัดและเรียบเรียงเฉพาะส่วนการเดินทางจากฉบับเต็ม ที่มีส่วนห้าง ร้านค้า โรงแรม และการเดินทาง
บนหนทางอันยาวไกล นับพันนับหมื่นกิโล
เส้นทางช่างศิลป์/ช่างศิลป์แอร์โรว์/ช่างศิลป์ไนกี้/ช่างศิลป์ยุคทำมือ/ช่างศิลป์ในตำนาน
โฆษณา