6 ก.ย. 2023 เวลา 08:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Talk to Me (2022) – พูดกับฉันสิ

ด้วยความที่รสนิยมส่วนตัว ไม่ได้ชอบพอกับแนวทางหนังสยองขวัญมากนัก เพราะฮอลลีวู้ดพิมพ์นิยมส่วนมาก มักมาพร้อมจังหวะจะโคนที่ชวนให้กระชากจิต จนไม่ติดเก้าอี้ ผ่านความตุ้งแช่จนชวนหงุดหงิด ขณะเดียวกัน เราได้ยินถึงศักยภาพของสองพี่น้อง แดนนี และ ไมเคิล ฟิลลิปโป้ ดูโอ้ลูกบ้า “RackaRacka” จากประเทศออสเตรเลีย ที่นำพาหนังสยองขวัญทุนเล็กของพวกเขาไปฉายยังเทศกาล จนผู้คนต่างแซ่สร้อง และร้อนถึงสตูดิโออย่าง A24 ต้องปิดดีลซื้อมาจัดจำหน่าย ซึ่งหนังเรื่องนั้น มันมีชื่อที่ติดหูว่า Talk to Me
Talk to Me เล่าเรื่องของ มีอา ที่พยายามจะก้าวข้ามการสูญเสียแม่ของเธอไป กลุ่มเพื่อนของเธอ เจด และน้องชายไรลีย์ ต่างไปปาร์ตี้ ที่มีพิธีกรรมสื่อสารผ่านสายตรงสู่โลกวิญญาณ ด้วยการ “จับมือผี” อย่างการใช้มือดองศพ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เตรียมใจรับผลกระทบจากการละเลยกฎด้วยการติดต่อผ่านโลกวิญญาณ และขณะที่พรมแดนระหว่างสองโลกเริ่มพลังทลาย มีอา ก็ถูกคุกคามด้วยพลังเหนือธรรมชาติที่ตามมาหลอกหลอนทุกขณะ เธอจึงพยายามหาทางแก้ไขความเสียหายร้ายแรงก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ตัวหนังเปิดเริ่มต้นมาด้วยฉากเปิดเรื่อง ที่ไม่เพียงแต่ จะมาพร้อมการเซ็ตติ้งเรื่องราวอย่างง่าย ด้วยเทคนิคลองเทค แต่ความรุนแรงอันเกินคาดคิดของมัน ก็ก่อให้เกิดความสนใจ ที่ตรึงคนดูได้แทบจะทันที ก่อนที่เนื้อหาจะตัดสลับกลับมาเล่าที่ มีอา และการเดินไปสู่พิธีกรรมจับมือผี ไม่ต่างจากอิหรอบหนังสยองขวัญ ที่ว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นลองดี เปิดกล่องสุ่มแพนโดร่า หากทว่าอีกฟากนึงเป็นโลกวิญญาณ
ถึงแม้ไอเดียตั้งต้น จะไม่ต่างจากการเล่นกระดานผี ที่สื่อสารกับวิญญาณโดยตรงเลยก็ตาม แต่การหยิบยื่นนำเสนอไอเดียผ่านการ “จับมือผี” ก็ช่วยวิวัฒน์ วิธีการนำเสนอผ่านเทคนิคทางภาพยนตร์ได้ดีและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผนวกกับลูกเล่นการกำกับ ทั้งการตัดต่อหรือการใช้มุมกล้อง หรือกระทั่งการใช้เทคนิคด้านเสียง คอยกระทบโสตทัศน์และโสตประสาทได้ในคราวเดียว อีกทั้งมันยังคุมบรรยากาศ ครั้นเมื่อ มีอา ทำการจับมือผีเป็นครั้งแรกได้ จนแทบจะหยุดหายใจ
ขณะที่กำลังดูเรื่องราวดำเนินไป และมาถึงท่วงทำนองที่บ้าคลั่ง ผู้กำกับ ฯ สองพี่น้องฟิลลิปโป้ ก็ไม่สะทกสะท้าน ที่จะประเคนความโหดคลุ้มคลั่งและความพิลึกพิลั่นของการจับมือผี จนตั้งตัวแทบไม่ติด ที่ถึงแม้จะไม่ได้มาบ่อยจนเอียน แต่มันก็ล้วนมีประสิทธิภาพจนกลายเป็นภาพจำ “แทบติดตา” ก่อเกิดเป็นบรรยากาศความหลอน และหวาดระแวงระหว่างที่ดู จนกลายเป็นประสบการณ์ความรับชมที่สุดขั้ว จนต้องหรี่ตาดูอยู่บ่อยครั้ง
ท่ามกลางความโหดจนไม่อาจเบือนหน้าหนี เราค้นพบว่า การแสดงในหนัง แม้จะไม่ได้โดดเด่นมากมาย แต่ในฉากที่เหล่าตัวละครต้องเล่นพิเรนทร์ แล้วถูกวิญญาณสิงนั้น กลับทำได้น่าขนลุกจนน่าประทับใจ ทั้งในรายของ โซฟี ไวลด์ ในบทนำแรกของเธอ ที่ในยามที่ถูกสิงเธอก็ทำได้ดีเยี่ยม หรือกระทั่งในยามที่แสดงถึงความเปราะบางทางด้านจิตใจ ก็แตกสลาย และยังรวมถึง โจ เบิร์ด ในบทไรลีย์ ก็เป็นส่วนสำคัญของเรื่องราวที่ชวนให้เราติดตามไปได้จนจบ
และแม้กิมมิคจะใหม่ แต่พล็อตอาจดาษดื่น รวมถึงเทคนิคกำกับที่แพรวพราว แต่ก็ตั้งใจจะหยิบมาใช้ในเวลาที่ควร จนมีประสิทธิภาพมากพอที่จะคุมบรรยากาศได้อยู่หมัด แต่เรื่องราวเนื้อหา ที่นำเสนอการจับมือผี มันก็ชาญฉลาดอยู่ไม่เบา ทั้งการฉายภาพของการจับมือผี ให้กลายเป็นสิ่งเสพติด ไม่ต่างจากยาเสพติด การฉายภาพวัยรุ่นและสังคมโซเชียลได้น่าเชื่อถือ รวมถึงเรื่องราวหลักที่ว่าด้วยการเผชิญซึ่งภาวะบอบช้ำทางจิตที่มีอา ไม่เคยและไม่มีโอกาส ได้ปริปากบอก
คำเตือน : มีการเปิดเผยเนื้อหาของเรื่อง Talk to Me
เพราะหากพินิจเนื้อหาถึง Talk to Me แล้ว มันพูดถึงแง่มุมของวิญญาณ ในแง่ที่เหล่าวิญญาณ ต่างวิญญาณที่มีความอาฆาตมุ่งร้าย หรือในอีกทางนึง ก็มีความสามารถในการล่อหลอกตัวละคร หรือถึงขั้นคุมร่างกายให้ทำร้ายตัวเองจนเจ็บสาหัสได้อีกด้วย โดยนัยทั้งหมดนี้ จึงไม่ต่างจากการเปรียบเปรยว่า การจับมือผีที่เราวัยรุ่นชอบพอจนหลงใหล มันคือเสพติดอารมณ์ในห้วงเวลาภาวะของการถูกผีสิง
มีอา ซึ่งยังไม่อาจกลับมาเดินได้ปกติเช่นเดิม จึงเบนเข็มหันไปหาบางสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจ การจับมือผีที่ช่วยให้เธอพ้นหรือลืมภาวะทุกข์ระทมได้ชั่วคราว จึงเป็นทางเลือกที่ชอบพอ และถึงแม้มันจะมีวิธีการ ราวกับเป็นกฎเหล็กที่หากจะเสพคุณต้องทำตาม แต่มันก็ยังมีผลที่ตามมาอย่างสาหัสสากรรจ์ เพราะไม่เพียงแต่มันจะเชื่อมยัง “โลก” ที่เธอไม่รู้ แต่มันยังมอบความประสาทหลอน เห็นภาพหลอนต่าง ๆ นานา บิดความเป็นจริงไปในอีกทาง และท้ายที่สุด มันก็หมายถึงการทำร้ายตัวเอง
Talk to Me จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังสยองขวัญดาด ๆ ทั่วไป แต่มันยังมาพร้อมประเด็นที่ชวนคิด เพราะสุดท้ายหากในสภาวะจิตที่ไม่มั่นคง เปราะบาง และอาจต้องการความช่วยเหลือ สิ่งที่ง่ายดายที่สุด ที่พวกเขาควรได้รับคือการพูดคุย ไม่ใช่สิ่งตัวแทนที่ชอบหลบเลี่ยงความรู้สึกแย่ได้อย่างครั้งคราว ไม่ว่ามันจะเป็นยาเสพติด หรือการไปจับมือผีก็ตาม
สรุปแล้ว Talk to Me คือหนังสยองขวัญสัญชาติออสเตรเลีย ที่เผยศักยภาพในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของพี่น้องฟิลลิปโป้ ที่น่าประทับใจ เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ จากพล็อตอันดาษดื่นที่ว่าด้วยวัยรุ่นพิเรนทร์ลองดี แต่แข็งแรงด้วยกิมมิคจับมือผี สื่อสารกับโลกวิญญาณได้ชัดเจนทางด้านภาพและเสียง สะท้อนความบอบช้ำทางจิตและการจับมือผีให้เป็นสิ่งเสพติดได้อย่างชาญฉลาด แถมยังคุมบรรยากาศความหลอนโหดได้อยู่หมัด
ส่วนตัว ยกให้เป็นหนึ่งในหนังโคตรเฮี้ยนของปี!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา