DCA ทางรอดมนุษย์เงินเดือน มีเงินล้านได้ง่าย ๆ | Follow the Money
มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท หลายคนคงได้ยินประโยคนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ
สิ่งนี้ก็เหมือนกับการออมเงินเท่า ๆ กันไปเรื่อย ๆ จนครบจำนวนที่ต้องการ
ถ้าให้เทียบการเก็บเงินทีละ 1 บาทไปเรื่อย ๆ จนถึง 1 ล้านบาทก็คงจะห่างไกลไปหน่อย
แต่ถ้าบอกว่าการเก็บ 100 บาทต่อวันก็สามารถมีเงินล้านได้หล่ะแบบนี้น่าสนใจขึ้นหรือยัง ?
แน่นอนว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ การเก็บเงินก้อนทีเดียวอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
หรือการออมเงินจำนวนมาก ๆ เช่น 10,000 บาทต่อเดือนบอกเลยว่าหมดหวัง
ลำพังอยู่ไปวัน ๆ ยังไม่มีจะกินอยู่แล้ว
คราวนี้เราจะพามารู้จักกับการ DCA ที่จะช่วยเก็บเงิน ออมหุ้นไปทีละเล็กละน้อย
ก่อนที่ท้ายที่สุดจะมอบผลตอบมหาศาลแบบ Passive Income โดยไม่รู้ตัว
การ DCA คืออะไร ?
Dollar Cost Average (DCA) คือการทยอยลงทุนหรือออมเงินเป็นงวด ๆ ด้วยจำนวนเงินเท่ากันโดยไม่สนใจว่าในเวลานั้นราคาสินทรัพย์จะเห็นอย่างไร
เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยได้เงินไปโรงเรียนวันละ 100 บาทหรือตั้งงบในแต่ละวันให้ใช้ไม่เกินวันละ 100 บาท แต่จะรู้หรือไม่ว่าถ้าหากเราสามารถเก็บเงินได้วันละ 100 บาทเช่นกัน จะเติบโตเป็นกี่เท่าของเงินต้น ?
วันนี้เราจะมาบอกวิธีที่ทำให้เงินจำนวน 100 บาทต่อวันงอกเงยเป็น 1 ล้านบาทได้อย่างรวดเร็วผ่านวิธีการออมเงินแบบดอกเบี้ยทบต้น
เพราะดอกเบี้ยทบต้น = พลังทางการเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล
ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือ การเอาดอกเบี้ยหรือกำไรที่ได้รับจากการลงทุน
มาทบกับเงินต้นแล้วลงทุนต่อ ทำให้ทุนเดิมที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเงินในบัญชีก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
แน่นอนว่าดอกเบี้ยทบต้นมีชื่อเรียกที่ใครหลายคนนิยามให้ว่า “ออมก่อน รวยก่อน”
นั่นหมายความว่ายิ่งเราออมเงินจำนวนน้อย ๆ เช่น 100 บาทต่อวัน
แต่ใช้เวลาเก็บเงินไปนาน ๆ ก็จะได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นในอนาคต
100 บาทต่อวัน สู่ 1 ล้านบาทแรก ทำอย่างไร ?
หากเราได้เงินไปโรงเรียนหรือที่ทำงานวันละ 100 บาท
และเราลองออมเงินจำนวนเดียวกับที่ใช้ในแต่ละวัน
เฉลี่ยแล้วเราจะออมเงินได้ราว 3,000 บาทต่อเดือน
ต่อมาหากนำเงินจำนวน 3,000 บาทไปลงทุนที่อัตราผลตอบแทน 10% ต่อปี
จะใช้เวลาทั้งหมด 161 เดือนหรือคิดเป็นราว 13 ปี กับอีก 4 เดือน เพื่อให้ถึงเงิน 1 ล้านบาทแรก
ถ้าอยากเลือกออมเงินให้มีประสิทธิภาพ มีทางไหนบ้าง ?
หากคุณกำลังมีคำถามว่าเลือกออมเงินอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
จริง ๆ แล้วเป็นคำตอบที่ง่ายมากนั่นก็คือการออมเงินกับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน
และสร้างการเติบโตให้กับเงินของเราได้ในทุก ๆ ปี
แต่จะรู้หรือไม่ว่าการออมเงินให้มีประสิทธิภาพอย่างง่าย
ก็คือ “การออมเงินให้ชนะเงินเฟ้อ” นั่นเอง
ซึ่งทั่วไปคนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะออมเงินกับสินทรัพย์เหล่านี้ ได้แก่
สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีต่ำ
✅ ฝากประจำ ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.2% ต่อปี
✅ พันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.1% ต่อปี
✅ ตราสารหนี้ระยะยาว ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี
✅ กองทุนรวม ผลตอบแทนเฉลี่ย 2-5% ต่อปี
สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูง
✅ หุ้นกู้เอกชน ผลตอบแทนเฉลี่ย 2-8% ต่อปี
✅ ทองคำ ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี
✅ หุ้น ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี
✅ สินทรัพย์ดิจิทัล ผลตอบแทนเฉลี่ย 12% ต่อปี
หมายเหตุ : ประเทศไทยมีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 20 ปีอยู่ที่ 2.1% ต่อปี
- - - - - - - - - -
💸 ฝากกดติดตามเพจ Follow The Money เพจที่จะให้ความรู้ด้านการเงิน การลงทุน มาร่วม #คว้าโอกาสสร้างเงินอย่างยั่งยืน ไปด้วยกัน 👍
#FollowTheMoney #แต่งงาน #การเงิน
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
