3 พ.ย. 2023 เวลา 03:00 • สุขภาพ

4 วิธีรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบหรือสะเทือนใจที่เผยแพร่จากสื่อต่างๆ

‘เคยสังเกตตัวเองบ้างไหม ว่า ช่วงเวลาไหนบ้าง ที่คุณเปิดโซเชียลแล้วไม่สนใจดราม่าและข่าวร้ายเลย’
โลกในปัจจุบัน วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีเสริมความรวดเร็วในการรับรู้ให้กับมนุษย์ ถ้าจะถามว่าเร็วขนาดไหน ก็คงจะบอกง่ายๆ ว่า ถ้าพลาดไปนิดเดียว คุณก็จะตกเทรนด์ไปเลย ตราบใดที่สื่อออนไลน์ ยังคงดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นหน้าที่ของมนุษย์ ที่ต้องหาเวลาตามข้อมูลข่าวสารให้ทัน เพื่อไม่ให้ขาดตกบกพร่องกับสถานการณ์ที่กำลังหมุนตามโลก
และไม่วาย ที่พวกเราไปชะแง้ดูความวุ่นวาย ที่เกิดเหตุการณ์การประท้วงบ้าง สงครามบ้าง การเรียกร้องบ้าง เหตุการณ์เหล่านี้ ก็จะมีรายงานมากมายที่เราจะต้องติดตามและเอาใจช่วยให้ผ่านไปด้วยดี ซึ่งก่อนมันจะผ่านไปด้วยดี ภาพความรุนแรง การกดขี่ จำนวนผู้ได้รับผลกระทบ ความเห็นอกเห็นใจต่อผู้คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ กระตุ้นให้ความรู้สึกสั่นคลอนได้
หากสถานการณ์รอบโลกยังอยู่ในขั้นวิกฤต ก็จะส่งต่อความรู้สึกบอบช้ำทางจิตใจไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ยึดมั่นความเชื่อของฝั่งไหน ตัวตนของคุณเป็นอย่างไร มันก็พร้อมที่จะลุกล้ำเข้าไปก่อกวนและสร้างความเจ็บปวดในจิตใจอย่างต่อเนื่อง
‘พวกเราไม่รู้หรอกว่า เหตุการณ์มันจะจบเมื่อไร แต่เราสามารถรับมือกับความรู้สึกบอบช้ำทางจิตใจจากสถานการณ์ความไม่สงบหรือสะเทือนใจที่เผยแพร่จากสื่อต่างๆ ได้’
Inside Your Mind ขอนำเสนอวิธีรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบหรือสะเทือนใจของ จูเลีย ไชลด์ส ไฮล์ (Julia Childs Heyl) นักจิตอายุรเวทในภาคเอกชนที่ Highland Park Holistic Psychotherapy ในการบรรเทาจิตใจของคุณในระดับหนึ่ง ซึ่งมีวิธีดังต่อไปนี้
1. ออกจากโซเชียลมีเดียซะ!
ช่วงสถานการณ์โรคระบาดในบ้านเรา เราได้เผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ตั้งแต่การปรับตัวกับ Work Form Home จนถึงการประท้วงเรียกร้องต่างๆ แม้การปรับตัว ทำให้ผู้คนได้ลองใช้สื่อและเทคโนโลยีต่างๆ และการประท้วงที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนในโลกออนไลน์ ตั้งแต่การบริจาค การรับรู้เรื่องราว อัพเดทสถานการณ์ ไปจนถึงการได้รับสิทธิที่ผู้คนเรียกร้อง แต่ต้องแลกมากับความบอบช้ำทางจิตใจอย่างมาก
ต้องยอมรับว่า ระบบประสาทไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับรองความเจ็บปวดจำนวนมาก การที่นักท่องโลกอินเทอร์เน็ตประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ จากครึ่งโลกและใช้งานเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 24 นาที จากการสำรวจของ Global WebIndex บางคนได้เห็นความย่ำแย่จากการถูกกดขี่ เรียกร้อง และความไม่เท่าเทียมทางสังคมที่พบเจอในโซเชียลมีเดีย จนเกิดความเครียดที่กระทบกระเทือนจิตใจได้ จากการยืนยันหลายงานวิจัย
เพราะฉะนั้นแล้ว การหลีกเลี่ยงสถานการณ์ความไม่สงบหรือสะเทือนใจด้วยการออกจากแอพฯ สื่อโซเชียลมีเดีย แต่ยังสามารถค้นหาข้อมูลสนับสนุนทางอินเทอร์เน็ตได้ จะช่วยให้เราสงบสติอารมณ์มากขึ้น
2. ฝึกสนทนาในโลกออฟไลน์บ้าง
ถึงคุณจะปิดโซเชียลมีเดียแล้วก็ตาม ทว่ามันไม่ได้ปิดบทสนทนาพูดคุยและโทรหาผู้อื่นเลย ซึ่งคุณสามารถเผยแพร่ความรู้เพื่อแก้ไขปัญหาทางความคิด ปรับความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ด้วยการพิจารณาความคิดและการรับรู้จากสถานการณ์ของตัวเอง นั้นก็เป็นสิ่งที่เราควรทำตอนที่เราอยู่โลกออฟไลน์หรือโลกแห่งความเป็นจริง
ยกตัวอย่าง ลองเปิดใจพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น โดยคุณสามารถเลือกได้ว่า จะปรับเปลี่ยนความคิดหรือให้ตระหนักถึงผลกระทบอีกมุมหนึ่ง โดยที่คุณจะต้องเคารพและรับฟังพวกเขาด้วย
3. ควบคุมสติก่อนสตาร์ท
ลองย้อนกลับไป ตอนที่เจอเรื่องราวหรือเหตุการณ์สะเทือนใจในโซเชียลมีเดีย เราอาจจะรู้สึกตกตะลึง หวาดกลัว จิตตก ไปจนร้องไห้ได้ และไม่แน่ หากมันติดอยู่ในความทรงจำของคุณ มันจะถูกจัดเก็บเอาไว้เป็นฝันร้ายตอนที่คุณหลับตาและความฟุ้งซ่านยามที่คุณลืมตา ดังนั้น หากเราต้องการช่วยเหลือคนอื่น เราควรจะจัดการความคิดและความรู้สึกของตัวเองก่อน
โดยคุณจะต้องมีสติและตระหนักรู้ในตัวเอง ซึ่งมันมีวิธีการมากมายให้คุณเลือกปฏิบัติ ตั้งแต่การนั่งสมาธิหรือฝึกสมาธิ การฝึกหายใจ การมอบความรักให้กับตัวเองหรือการเจริญเมตตาภาวนา ที่เอ่ยวลีแสดงความรักและกำลังใจให้กับตัวเองและผู้อื่นด้วยคำว่า “ฉันปลอดภัยแล้ว” “ฉันได้รับการคุ้มครอง” “ฉันได้รับความรักที่ดี” จากนั้นก็ส่งมอบและดัดแปลงวลีเหล่านี้ให้กับผู้อื่นด้วยคำว่า “ขอให้ทุกคนบนโลกปลอดภัย” “ขอให้เหตุการณ์นี้ยุติไปได้ด้วยดี” “ขอให้ทุกคนมอบความรักให้แก่กัน” เป็นต้น
4. สนใจสิ่งที่เราควบคุมได้จะดีกว่า
เมื่อเรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทำ ไม่สามารถจัดการหรือมีส่วนช่วยลดความรุนแรงให้หมดไป ความรู้สึกท้อและไม่แยแสก็จะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจ แม้คุณจะคิดว่า คำบอกกล่าว การแลกเปลี่ยน รวมถึงมอบความช่วยเหลือเท่าที่คุณทำได้จะไม่เป็นประโยชน์อะไรมากนัก แต่ต้องอย่าลืมว่า ไม่ใช่เราคนเดียวที่กำลังทำสิ่งนี้
ขอให้คุณลองพิจารณาสิ่งที่คุณควบคุมได้เสียก่อน โดยเริ่มจากตัวคุณมีส่วนร่วมหรือได้รับรู้อะไรจากเหตุการณ์ การแสดงออกทางความคิดกับเพื่อนและครอบครัว และการดูแลตัวเอง ทั้งหมดนี้ คุณต่างหากที่ควบคุมมันได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้นเอง
เอาเข้าจริงๆ แล้ว เหตุการณ์ความไม่สงบหรือสะเทือนใจจากทั่วโลกไม่ได้ทำให้ผู้คนเครียดอย่างเดียว สภาพภูมิอากาศและสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกก็ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงอยากให้ผู้อ่านตระหนักและรับมือกับผลกระทบต่อความรู้สึกเหล่านี้ แม้เราอาจจะไม่สามารถหยุดติดตามโซเชียลมีเดียและเจอสถานการณ์ไม่สงบได้ แต่เราก็ยังสามารถเลือกได้ว่า เราจะจัดการกับมันยังไง ขอให้เราเลือกอย่างถูกวิธีก็พอ
‘แต่ถ้าจิตใจเราไม่ไหวจริงๆ การโทรหาผู้เชี่ยวชาญหรือปรึกษาจิตแพทย์ก็เป็นวิธีที่ 5 ในการรับมือกับสถานการณ์ได้เช่นกัน’
‘ขอภาวนาให้สถานการณ์ความไม่สงบและสะเทือนใจต่างๆ เหล่านี้ จบลงด้วยดี’
Writer by Purin Ausawateerageat
Resource :
.
.
โฆษณา