Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชตระกูล ศรีสวัสดิ์
•
ติดตาม
16 เม.ย. 2024 เวลา 12:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
สหรัฐอเมริกา
ความเป็นอมตะใกล้เข้ามาแล้ว....
พื้นที่ 4 มิตินั้น มีอยู่จริงหรือไม่? เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันยืนยันว่ามนุษย์สามารถได้รับความเป็นอมตะโดยการเข้าสู่มิติที่ 4 ?
เมื่อพูดถึงอวกาศ หรือ มิติที่ 4 คุณนึกถึงอะไรเป็นอันดับแรก? มันคือ ที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตมิติสูงที่สามารถทำลายมนุษย์ได้ง่ายๆ หรือโลกที่มนุษย์สามารถอยู่ได้ตลอดไป?
ในบริบท ปริภูมิสี่มิติสรุปได้ว่ามันเป็น “แนวคิดเรื่องเวลา” ซึ่งดูเหมือนไกลเกินเอื้อมและการติดต่อกับเราดูเหมือนว่าจะมีอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์เท่านั้น
แต่จะเป็นอย่างไรหากปริภูมิสี่มิติได้รับการยืนยันและอยู่ไม่ไกลจากเรา?
1
ใช่แล้ว นักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยได้อ้างแล้วว่าตนได้พิสูจน์การมีอยู่ของอวกาศสี่มิติ
แต่ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ ไม่ว่าจะเป็นกลไกเพื่อสร้างชื่อเสียงหรือมีเหตุผลอันมีรากฐานที่ดี
ก็ขึ้นอยู่กับ การตัดสินใจของเรา
เอาล่ะๆๆๆ งั้นในช่วงต่อไป เรามาดูคำตอบที่นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันที่เคยบรรยายให้ไว้เกี่ยวกับอวกาศสี่มิติกันดูนะครับ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมนุษย์เข้าสู่อวกาศสี่มิติ?
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันคนนี้ชื่อ Georg Bornhard Riemann อภิปรายเกี่ยวกับอวกาศสี่มิติเขาได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง "On the Basic Geometric Hypothesis" ประมาณปี พ.ศ. 2393 ซึ่งเป็นการมองไปข้างหน้ามาก(เกินไป)ในขณะนั้น
1
ในเวลานั้นความเข้าใจของผู้คนเกี่ยวกับฟิสิกส์ยุคใหม่นั้นคลุมเครือมาก ไม่ต้องพูดถึงปัญหาอวกาศสี่มิติที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในปัจจุบัน
บทความนี้ได้ขยายขอบเขตการคิดของนักวิทยาศาสตร์ในขณะนั้นออกไปอย่างมาก แน่นอนว่า นี่อาจไม่ใช่ผลดีสำหรับนักวิทยาศาสตร์ในขณะนั้น
2
เพราะงานวิจัยเกี่ยวกับโลกสามมิติที่เราอาศัยอยู่นั้นกำลังดำเนินอยู่ในขณะนั้น
คือ แบบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการท้าทายที่จะแยกตัวออกจากมุมมองสามมิติและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะศึกษาพื้นที่มิติที่สูงกว่า
2
แต่เราไม่สามารถประมาทความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้ ด้วยการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรอบของแบบจำลอง 4 มิติก็ค่อยๆ ดีขึ้น
1
ในปัจจุบันมีทฤษฎีที่ค่อนข้างสมบูรณ์เกี่ยวกับอวกาศสี่มิติ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทฤษฎี "อวกาศหลายมิติ"
ในทฤษฎีนี้ จักรวาลของเราแบ่งออกเป็นอวกาศ 11 มิติ และมนุษย์อยู่ในมิติต่ำๆ เช่นเดียวกับที่ผู้คนในแอนิเมชั่นไม่สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของมนุษย์ และมนุษย์ก็ไม่สามารถสังเกตมิติที่สูงกว่าได้
การยกตัวอย่างแบบนี้ดูคุ้นเคยไหมครับ
ผมขอยกตัวอย่างในแอนิเมชันเรื่อง "Rick and Morty" เป็นแอนิเมชันแนวบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์สำหรับผู้ใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างสรรค์โดย Justin Roiland และ Dan Harmon
ออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ Cartoon Network ในช่วงรายการรอบดึก Adult Swim ซีรีส์นี้เล่าเรื่องการผจญภัยแบบสุดเพี้ยนของ Rick นักวิทยาศาสตร์ปากร้ายสติเฟื่อง ในชีวิตครอบครัวธรรมดาๆกับการผจญภัยข้ามมิติ
หนึ่งในตัวละครเอกคือ Rick ที่ดันรับรู้การมีอยู่ของมิติของมนุษย์ และรู้ว่าเขาเป็นตัวละครในแอนิเมชั่น ซึ่งทำให้เขาเศร้าอย่างยิ่ง
1
จะเป็นอย่างไรถ้าเราเป็น "แอนิเมชั่น" ในสายตาของสิ่งมีชีวิตในมิติที่สูงกว่าแบบ Rick ล่ะ?
และจากทฤษฎีของไอน์สไตน์แสดงให้เห็นว่า ใช่แล้ว โลกของเราถูกสร้างขึ้นจากมิติที่สูงกว่า
1
แล้วถ้าสมมติว่าเป็นจริง มีสิ่งมีชีวิตในมิติที่สูงกว่า เขาจะมองเราเป็นอย่างไร?
เช่นเดียวกับที่เราสามารถฉีกคนตัวเล็ก ๆ บนกระดาษออกเป็นชิ้น ๆ ได้ในทันที ถ้ามีสิ่งมีชีวิตในละติจูดสูงมันก็ควรจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะฆ่าเรา
สำหรับเรา พวกเขา เป็นดั่งเหมือนเวลาและ พื้นที่ในตำนานคธูลู เพราะคธูลูมักใช้เปรียบเทียบในความหมายของสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว และนี่เองที่ผู้ปกครองโดยทั่วไปเป็นผู้รอบรู้และมีอำนาจทุกอย่าง
1
เราไม่สามารถจินตนาการถึงรูปลักษณ์ภายนอกและวิถีชีวิตของพวกเขาได้ แต่วิธีที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ พวกเขาไม่มีตัวตน
1
เนื่องจากตัวตนใดๆ ที่มีอยู่ จะถูกจำกัดด้วยเรื่องของเวลาและพื้นที่ และสิ่งเหล่านี้จะไม่มีอยู่ในอวกาศสี่มิติในทางทฤษฎี
1
และบางคนคาดเดาว่าอวกาศสี่มิติมีอยู่ในสถานะควอนตัม ดังนั้นจึงสามารถหลีกหนีจากข้อจำกัดของเวลาและพื้นที่ได้
โดยธรรมชาติแล้วเราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามุมมองนี้ถูกต้องหรือไม่ หากแต่เมื่อเราปฏิบัติตามแนวความคิดนี้
เมื่อมนุษย์เข้าสู่ มิติที่4 พวกเราจะละทิ้งร่างกายและความคิดของตนไปอย่างแน่นอนและกลายเป็นสถานะควอนตัมที่ลอยอยู่ในจักรวาล นี่คือความจริงของชีวิตนิรันดร์
1
แต่มีสักกี่คนที่เต็มใจทำเช่นนั้น?
1
ผมขอยกตัวอย่างเรื่อง ในภาพยนตร์เรื่อง "Interstellar"
หรือชื่อทางภาษาไทยว่า "ทะยานดาวกู้โลก" เป็นภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ กำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางในอวกาศโดยผ่านทางรูหนอน
และพระเอกดันบังเอิญบุกเข้าไปในอวกาศ 5 มิติ
เขาทำได้เพียงเฝ้าดูในอวกาศอันมืดมน แม้ลูกสาวของเขาที่คิดถึงเขาทั้งวันทั้งคืน ได้เติบโตขึ้นมา แต่ก็ยากที่จะพบเธอ แน่นอนว่าเราสามารถคาดเดาใน(เฉพาะ)แง่ดี ในเรื่องนี้ได้เช่นกัน
1
จากฉากที่ใช้ในนวนิยาย หลายๆเรื่องจนถึงในปัจจุบัน สิ่งที่มุ่งเน้นคือ
การที่จะนำความคิดของมนุษย์เข้าสู่พื้นที่เสมือนจริง (Metaverse )
ในพื้นที่นั้น เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์เพื่อให้บรรลุ "สัพพัญญูและความรอบรู้" และอยู่เหนือกาลเวลาและอวกาศ
หากวันนั้นมาถึงจริงๆ เราจะเป็นอย่างไร เราจะสามารถรู้เรื่องและเข้าใจแบบนี้ไหม
ในอนาคต ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ มิติที่ 4 สามารถก้าวเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ปัจจุบัน ตัวละครในภาพยนตร์และรายการทีวีหลายเรื่องกำลังทะลวงผ่าน "กำแพงมิติ" และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจริง ๆ
นอกจากนี้เรายังกระตือรือร้นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัด เพื่อพบกับสิ่งมีชีวิตที่เราไม่เคยสัมผัสมากขึ้นอีกด้วย
1
หากมันเป็นพื้นที่ 4 มิติในจินตนาการของเราจริงๆ
และทิศทางของการวิจัยของจริง เกี่ยวกับพื้นที่สี่มิติที่กำลังศึกษาอยู่ ในตอนนี้อาจแตกต่างไปจากที่เราจินตนาการไว้อยู่มากโข
และที่ขาดไม่ได้ วิชาที่เกี่ยวข้องกับปริภูมิสี่มิติมากที่สุดคือคณิตศาสตร์
1
เช่นเดียวกับที่เราเรียนรู้จุดหนึ่งมิติ เส้นตรงในสองมิติ และพื้นผิว ที่มาจากหนังสือคณิตศาสตร์
แม้ว่าหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่จะไม่ครอบคลุมเนื้อหา มิติที่ 4 แต่การศึกษามิติที่ 4 ในวิชาคณิตศาสตร์นั้นมีบรรจุอยู่ประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีหลากหลายทฤษฎี
1
ตั้งแต่ยุคแรกๆ ในสารานุกรม ดาล็องแบร์(d'Alembert)เสนอ(จินตนาการ)ว่าเวลาเป็นมิติที่สี่ และใช้ในการเข้าสู่มิติต่างๆ
ตามทฤษฎีปัจจุบัน มิติที่4 จะเกี่ยวข้องกับเวลา แต่จะไม่สามารถเทียบเท่ากับเวลาหรืออวกาศ
ท้ายที่สุด โมเบียส (Mobius) ชี้ให้เห็นโดยย่อถึงลักษณะของพื้นที่4มิติ "การคำนวณจุดศูนย์ถ่วง" ของเขานั่นคือในอวกาศใน4มิติ
ที่นั้นวัตถุ3 มิติสามารถทับซ้อนกันได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาเขาได้ล้มล้าง การมีอยู่ของกระเป๋าโดราเอม่อน เฮ้ยย! ลบล้างข้อความเหล่านี้นี้ด้วยตัวเขาเอง เขารู้สึกว่าวัตถุ 3 มิติที่ซ้อนทับนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
1
ดังนั้นจึงไม่มีช่องว่าง 4 มิติ ที่แท้จริง
จนกระทั่งในช่วงเวลาต่อมา วิชาคณิตศาสตร์ได้ขจัดข้อจำกัดของโลกแห่งความเป็นจริง
และก้าวไปสู่ขั้นตอนการวิจัยเชิงทฤษฎีที่การวิจัยเกี่ยวกับ มิติที่ 4 ให้ก้าวหน้าต่อไป
ในปี พ.ศ. 2387 แฮร์มัน กึนเทอร์ กรัสมัน (Grassmann)ได้รับแรงบันดาลใจจากควอเทอร์เนียน(quaternion) ได้ทำการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจมากขึ้นและได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง
"การขยายตัวเชิงเส้น(linear expansion)" ซึ่งต่อมาได้รับการแก้ไขเป็น "ทฤษฎีการขยายตัว(expansion theory)" แทน
1
ในปี พ.ศ. 2405 เขาได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องเรขาคณิต และ มิติทั่วๆไปเป็นครั้งแรกเมื่อ แคลคูลัสขยายตัว
เขาจึงได้สร้างพื้นฐานเชิงนามธรรมของทฤษฎีอวกาศ
เยี่ยมชม
youtube.com
Visualizing quaternions (4d numbers) with stereographic projection
How to think about this 4d number system in our 3d space.Part 2: https://youtu.be/zjMuIxRvygQInteractive version of these visuals: https://eater.net/quaterni…
กล่าวคือ มันแยกตัวออกจากสัญชาตญาณเชิงพื้นที่ทั้งหมด และกลายเป็นวิทยาศาสตร์ทางคณิตศาสตร์ล้วนๆ (
https://youtu.be/d4EgbgTm0Bg?si=e6dxDuTG20N36TYI
)
1
ซึ่งประกอบขึ้นเป็นเรขาคณิตเฉพาะในการใช้งานพิเศษกับอวกาศ (ทางกายภาพ) เท่านั้น แต่ในเวลานั้นมีนักวิทยาศาสตร์เพียงไม่กี่คนที่เข้ามาโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้
จนกระทั่งผ่านไป 5 ปี ทฤษฎีนี้จึงค่อยๆ ได้รับการยอมรับจากชุมชนทางคณิตศาสตร์
ดังนั้น ผมขอกลับมาที่ การดำรงอยู่ของทฤษฎีอวกาศ 4 มิติ
ซึ่งมันจะทำให้มนุษยชาติมีความเข้าใจจักรวาลที่หลากหลายมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะนี้ วัฒนธรรมและเทคโนโลยีกำลังแข่งขันกันเพื่อให้ส่องแสงสู่มวลมนุษย์ชาติ
หากพื้นที่ 4 มิติได้นำมนุษยชาติไม่เพียงแต่ความพึงพอใจมากกว่าที่จินตนาการไว้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการโหยหาพื้นที่อนาคตอันกว้างใหญ่
ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาด มนุษย์ไม่เคยหยุดกระหายและสำรวจโลกที่ไม่รู้จัก แม้ว่ามนุษย์อาจไม่นับว่าเป็นถึงขนาดเม็ดทรายในจักรวาลอันกว้างใหญ่
ตราบใดที่ความกระหายอันไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับอนาคต
1
ในสิ่งที่ไม่รู้ที่มีอยู่จริง สักวันหนึ่ง
มนุษย์จะค้นพบความลับของจักรวาลและได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของโลกที่สวยงามและลึกลับแห่งนี้
การศึกษา
ประวัติศาสตร์
พัฒนาตัวเอง
บันทึก
7
5
5
7
5
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย