4 การตอบสนองต่อความกลัวและปมในใจพร้อมกับวิธีการรับมือที่คุณควรรู้ไว้
เมื่อคุณเผชิญหน้ากับความกลัวหรือเหตุการณ์สะเทือนใจ คุณจะรับมืออย่างไร
1.) คุณจะเลือกเผชิญหน้ากับมันโต้งๆ
2.) คุณจะวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต
3.) คุณจะอยู่นิ่งๆ เพื่อดูว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
4.) หรือคุณจะอ้อนวอนจำยอมแก่สิ่งที่เกิดขึ้น
จากที่ผมกล่าวมา มันอาจจะดูน่าขนลุกไปสักหน่อย แต่ความกลัวและเหตุการณ์สะเทือนใจ กระตุ้นต่อมทอนซิลในร่างกายให้แสดงอาการผิดปกติ ตั้งแต่ตัวร้อนเหมือนไข้ขึ้น ท้องไส้จะปั่นป่วน รวมถึงสมองก็จะประมวลเร็วเกินกว่าที่จะเราจะตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ทำให้ทุกครั้งที่เราต้องกลับมาเผชิญเหตุการณ์นี้อีกครั้ง มันยังให้ความรู้สึกพึงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรกเสมอ
ย้อนกลับไปที่ ‘ความกลัว’ คุณคงคิดว่า นี้เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงอยู่ตลอดเวลา แต่ในชีวิตประจำวัน จะมีสักเหตุการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกนี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ พรีเซ้นต์งานกับหัวหน้าจอมดุ อุบัติเหตุ เป็นต้น หากผลลัพท์ของเหตุการณ์ออกมาแย่เกินกว่าจะรับไหวก็อาจกลายเป็นปมในใจของคุณได้
‘ซึ่งโชคดีที่สัญชาตญาณของมนุษย์ ได้สร้างการตอบสนองและรับมือต่อความกลัวและปมในใจอยู่แล้ว’ โดย Inside Your Mind จะมานำเสนอ 4 การตอบสนองต่อความกลัวและปมในใจที่คุณควรรู้ไว้ พร้อมกับวิธีการรับมือ เพื่อให้ตระหนักรู้ในตนเองเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้
Credit : Canva
[ 4 การตอบสนองต่อความกลัว ]
1.การตอบสนองด้วยการต่อสู้ (Fight)
'การตอบสนองด้วยการต่อสู้ อาจจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความกลัว โดยต้องแลกกับความเจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจ'
การต่อสู้นั้นมีหลายรูปแบบ อย่างการทะเลาะ การใช้กำลัง รวมถึงพฤติกรรมก้าวร้าวต่างๆ ก็เป็นการตอบสนองต่อความกลัวประเภทนี้ ซึ่งเป็นการใช้กำลังหรืออำนาจในการควบคุมสถานการณ์ เพื่อให้เหตุการณ์นั้นคลี่คลาย
2.การตอบสนองด้วยการหนี (Flight)
'การตอบสนองด้วยการหนี อาจจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความกลัว โดยต้องแลกกับความสัมพันทธ์ของคุณ'
ในเมื่อเราไม่สามารถต่อสู้ได้ การเลือกหลบหนีจึงเป็นแผนสำรองที่ถูกใช้บ่อย ในการเลี่ยงอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งต้องแลกมากับด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็จะถูกลดไปด้วย ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทหรือไม่ก็ตาม
3.การตอบสนองด้วยการเมินเฉย (Freeze)
'การตอบสนองด้วยการเมินเฉย อาจจะช่วยให้เราหลุดพ้นความกลัวได้ โดยต้องแลกกับความเย็นชาของคุณ'
การตอบสนองนี้จะแบ่งเป็น 2 กรณี กรณีที่สุขภาพคุณยังดีอยู่ จะช่วยให้คุณประเมินสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบได้ แต่ต้องอย่าลืมว่า สมองของเรา เมื่อเจอความกลัว มันจะเร่งการประเมินที่อาจจะทำให้เราเลือกตอบสนองผิดได้ จึงต้องระมัดระวังในกรณีคนสุขภาพที่ไม่ดี ซึ่งคุณจะรู้สึกเหมือนถูกแยกตัวและเคลื่อนไหวช้าหรือเรียกมันว่า ความเย็นชา ทำให้สมองและร่างกายของเราประเมินช้าไปด้วย
4. การตอบสนองด้วยการเข้าข้าง (Fawn)
'การตอบสนองด้วยการเข้าข้าง อาจจะช่วยให้เราหลุดพ้นจากความกลัว โดยต้องแลกกับการสูญเสียตัวตน'
"สิ่งที่นายพูดอ่ะ ถูกนะ" หรือ "ฉันผิดเอง" คำพูดเข้าข้างเหล่านี้ จะถูกใช้เพื่อบรรเทาเหตุการณ์วิวาท โดยในใจลึกๆ ผู้คนมักจะต้องการจัดการปัญหาที่ไม่มีการสูญเสียใดๆ อย่างวิธีนี้ แต่ต้องแลกมากับ 'ความเป็นตัวเองของตัวเอง’ เนื่องจากเราจะต้องเอาใจเขาหรือยอมเห็นด้วยกับเธอ ก็มักทำให้คุณหลงลืมความต้องการของตนเองได้ ดังนั้น อย่าลืมตระหนักถึงตัวเองด้วย
Credit : Canva
[ 4 วิธีการการรับมือกับความกลัวและปมในใจ ]
ถึงแม้ที่เราเข้าใจถึงการตอบสนองต่อความกลัวและปมในใจแล้ว แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า ความเครียดของคุณลดลงและอาจจะรู้สึกเครียดกว่าเดิมด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ เราควรรู้วิธีการรับมือกับมันด้วยจะดีกว่า โดยวิธีการรับมือก็จะมีดังต่อไปนี้
1. ค้นหาเทคนิคการผ่อนคลาย
เทคนิคการผ่อนคลายมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโยคะ ทำสมาธิ เทคนิคการหายใจ รวมถึงการออกกำลังกายก็มีสรรพคุณในการช่วยต่อต้านความเครียดและสงบสติอารมณ์ได้เช่นกัน
2. แสวงหาความสัมพันธ์
ไม่ว่าชีวิตคุณจะเจอเรื่องร้ายหรือเรื่องดี การหาคนค่อยปรึกษาหรือแรงสนับสนุนจากผู้คนรอบตัว ก็เปรียบเสมือนเซฟโซนในการผ่อนคลายและบรรเทาผลกระทบทางสุขภาพกายและจิตใจด้วย รู้อย่างนี้แล้ว เริ่มมองหาคนรอบตัว พ่อแม่ หรือเพื่อนสนิทที่เราไว้ใจได้เลย
3. สร้างความตระหนักรู้
เมื่อไรก็ตามที่เราเข้าใจการตอบสนองต่อความกลัวและปมในใจแล้ว เราก็ต้องรู้ตัวว่า เหตุการณ์ตรงหน้ามันเกิดอะไรขึ้นและคุณควรตอบสนองต่อเหตุการณ์นั้นอย่างไร ซึ่งคุณต้องตั้งสติ แล้วสร้างกลยุทธ์ในการรับมือเพื่อให้เราจัดการกับเหตุการณ์นั้นได้
4. ฝึกเห็นอกเห็นใจตนเอง
รับรู้ไว้ว่า ความกลัวหรือเหตุการณ์สะเทือนใจ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ต้องสะสมประสบการณ์ในการรับมือในครั้งต่อๆ ไป โดยคุณต้องเปิดใจให้กว้าง คิดซะว่า การตอบสนองต่างๆ ที่ยับยั้งเหตุการณ์ในอดีตไม่ได้ส่งผลมาถึงปัจจุบันเสมอไป
จะว่าไปแล้ว ถ้ามนุษย์เราไม่ตอบสนองต่อความกลัวเลย คงจะไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม่มีเสาไฟไว้ตามซอย หรือไม่มีกล้องวงจรปิดไว้จับผู้ร้าย ซึ่งทั้งหมดนี้ มีวัตถุประสงค์ของความกลัวในการประดิษฐ์ขึ้นมาทั้งสิ้น
เห็นได้ว่า การที่มนุษย์มีความกลัวนั้น มันไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด มันเป็นสัญญาณเตือนให้เราระมัดระวังและไม่ใช้ชีวิตอย่างประมาท ซึ่งเราควรจะเรียนรู้และลองจัดการกับมันดู ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ความกลัวก็ยังเป็นสัญญาณเตือนที่ดีให้ชีวิตเรายังดำเนินต่อไปได้
“แต่อย่าให้ความกลัวเข้ามาครอบงำชีวิตเราก็พอ”
Writer by Purin Ausawateerageat
Resource :
.
.
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
