Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักลงพุง
•
ติดตาม
28 ธ.ค. 2023 เวลา 11:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนที่ 25: เดินธุดงค์รอบคัดเลือก
แป๊บๆ ก็เดินทางกันมาถึงตอนที่ 25 แล้วนะครับ เหลืออีกเพียงไม่กี่ตอนก็จะจบภาคแรกแล้ว ต้องขอขอบคุณที่ติดตามรับชมกันมาโดยตลอดนะครับ ส่วนตอนนี้จะเป็นยังไง เชิญรับชมกันได้เลยครับ
ออกพรรษาใกล้เข้ามาแล้ว ผลสอบนักธรรมตรีก็ออกมาแล้วเช่นกัน ปรากฏว่าปีนั้นพระสวนโมกข์สอบผ่านทุกคน เสียดายที่ไม่มีเลี้ยงหมูกะทะฉลอง แต่ถึงกระนั้นการฉันอาหารมื้อเช้าที่โรงอาหาร ก็ยังคงเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของวันอยู่เช่นเคย (ก็แน่ดิ ฉันมื้อเดียวนี่หน่า 555)
แม้สวนโมกข์จะไม่มีทีวีให้เราดู แต่ห้องสมุดซึ่งเปรียบเหมือนดั่งกองบัญชาการ head quarter ที่ทุกคนใช้เวลาในการติดตามข่าวสารจากโลกภายนอก และก็ทำให้รู้ว่า ปีนี้น้ำท่วมภาคกลางหนักกว่าทุกปี โดยเฉพาะอยุธยา ที่เราเห็นภาพน้ำท่วมมิดหลังคาจากหนังสือพิมพ์ เป็นภาพที่ยังคงติดตามาจนทุกวันนี้
ฝั่งพระสวนโมกข์ก็มีกิจกรรมใหม่ คือการเดินออกกำลังกายขึ้นเขานางเอกันทุกเย็น โดยเฉพาะพระที่ตั้งใจว่าจะออกเดินธุดงค์กับพระอาจารย์จักรีหลังออกพรรษา โดยเราจะเริ่มเดินกันตอน 4 โมงเย็น ไปจนถึงประมาณ 5 โมงหรือจนกว่าจะได้ยินเสียงตีระฆังบอกทำวัตร
การขึ้นเขานางเอเราจะใช้เส้นทางที่ลัดสั้นที่สุด และนั่นหมายความว่าเป็นเส้นทางที่ชันที่สุดด้วย เป็นการออกกำลังทีาต้องฝึกสติภายในตัว ซึ่งการขึ้นลงในช่วงแรกๆ นั้นค่อนข้างเป็นงานที่หนักเอาการ กว่าจะขึ้นไปจนถึงยอดได้ก็เล่นเอาหอบกันเลยทีเดียว แถมตอนลงทางก็ชันกว่าตอนขึ้น ต้องมีสติรู้ตัวตลอดเวลา นั่นจึงทำให้วันแรกของการฝึกซ้อม พวกเราก็ทำกันได้แค่ 2-3 รอบ ก็หอบเหมือนกับหมาน้อยแล้วล่ะครับ
แต่นั่นแหละครับ เมื่อเราทำสิ่งใดซ้ำๆ บ่อยๆ สุดท้ายเราก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ เราสามารถทำรอบได้มากขึ้นเป็น 4 รอบ เหนื่อยน้อยลง รู้สึกชิลล์มากขึ้น แล้วก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ขึ้นมา เหมือนกับเราเสพติดการออกกำลังกายอย่างไรอย่างนั้น
ถ้าผมจำไม่ผิดนะ หลวงพี่ขุนน่าจะเป็นคนที่ขึ้นและลงได้เร็วที่สุดแล้ว โดยแกสามารถทำได้มากถึง 5 - 6 รอบในแต่ละวันเลย ซึ่งถือว่าเก่งมากๆ น่าเสียดายที่เราไม่มีสวนโมกข์เวิลด์เรคคอร์ด ที่คอยจดบันทึกว่ามีพระรูปใดครองตำแหน่งสถิติโลกการขึ้นเขานางเอเร็วที่สุด ซึ่งถ้ามีก็คงน่าสนใจอยู่ไม่น้อยนะครับ
ความชำนาญมาพร้อมกับทักษะพิเศษ เราสามารถเดินได้มั่นคงมากขึ้น เร็วมากขึ้น อะไรอยู่ตรงไหนรู้หมด เพราะเส้นทางทั้งหมดอยู่ในหัวหมดแล้ว และนั่นก็ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นเช่นกัน มั่นใจขนาดที่ว่า แล้วถ้าเป็นตอนกลางคืนล่ะจะเป็นเช่นไร
หลังจากทำวัตรเย็นในคืนนั้น ผมกลับเข้ามาที่กุฏิเพื่อเอาย่ามและหนังสือสวดมนต์ทำวัตร ไปเก็บให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นก็ทำการวิดพื้นสัก 10 ที ซึ่งทำไปทำไมกันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าทำเสร็จแล้วฮึกเหิมชะมัด พร้อมกับบอกตัวเองเอาวะสู้ตาย เขานางเอมันก็เป็นลูกเดิมที่เราเคยขึ้นอยู่ทุกวัน จำเส้นทางได้หมดแล้ว เดินบ่อยขนาดนี้ หลับตาขึ้นยังได้เลย เราทำได้แน่นอน เชื่อผม
ผมเดินออกจากกุฏิสัก 3 ทุ่มเห็นจะได้ ในมือถือตะเกียงพร้อมกับเทียนอีก 1 แท่งที่อยู่ในนั้น เดินออกจากค่ายลูกเสือไปโดยไม่มีใครเห็น แล้วก็มุ่งหน้าสู่เขานางเอตามลำพัง
เส้นทางที่คุ้นเคยในตอนกลางวัน เพียงแค่แสงตะวันหมดไป มันกลับรู้สึกว่าเป็นคนละเส้นทางที่ไม่เคยเดินมาก่อนเสียอย่างนั้น แต่ลูกผู้ชายเกิดตายแค่หนึ่งชีวิต จะไปกลัวอะไร ก็ลากตัวเองมาจนถึงตีนเขา แล้วมายืนหยุด ณ จุดทางขึ้น
เชี่ยเอ้ย ผมคิดในใจ ทำไมมันมืดจังวะ มืดแบบว่ามองไม่เห็นทางสักนิด ตะเกียงน้อยเจ้ากรรมพลังไฟ 100 แรงหิ่งห้อย ก็สว่างนิดเดียวเท่านั้น พอจะเห็นไปข้างหน้าได้มากสุดแค่ 2 - 3 เมตร อากาศก็เริ่มหนาว หูก็ได้ยินเสียงตุ๊กแกแว่วมาแต่ไกล เหล่าแมลงก็ร้องระงมเป็นโอเปร่า จะมาบิ้วท์อารมณ์ข้าให้กลัว ณ ตอนนี้อย่าหวัง นี่พระนะเว้ยไม่กลัวอะไรทั้งนั้น บอกเลย
ทันใดนั้นเอง
เสียงหวีดแหลมเล็กแต่ดังลั่นป่ามาจากข้างหลัง พระใจกล้าบัดนี้ ใจดวงน้อยไป หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เอาตะเกียงสาดไปที่ต้นเสียงเจ้ากรรม เห็นนกแสกตัวใหญ่ บินไปเกาะกิ่งไม้ต้นข้างๆ มันเกาะเสร็จไม่ทันไร หันหน้ามามองพระหนุ่มอย่างผมเอาจังก้า จะรออะไรเล่าครับเวลานี้ ต่อให้ไม่ใช่ผี อาตมาก็ใส่เกียร์หมาวิ่งไปแล้วโย้ม!
ผมวิ่งไม่คิดชีวิต กลัวไปหมด ทั้งมืด ทั้งมาคนเดียว ทั้งเสียงสรรพสัตว์ แล้วมาเจอนกแสกจังเบอร์เข้าให้ มันทำใจไม่ให้กลัวไม่ได้จริงๆ ไม่ได้เตรียมตัวมาเจออะไรแบบนี้เลย แต่เหมือนองค์พระมาดลใจ เกิดมีคำถามผุดขึ้นมาอย่างเรียบง่าย
มึงกลัวอะไรวะ?
เออแฮะ เรากลัวอะไรวะ?
กลัวนกแสกเหรอ มันก็คือนกฮูกเหมือนๆ กับเจ้านกเฮ็ดวิกในแฮร์รี่พอตเตอร์นั่นแหละ น่ารักจะตาย เรากลัวนกฮูกอ่ะนะ
ใจมันตอบกลับมาว่า "ไม่"
แล้วกลัวความมืดเนี่ยนะ มันก็คือเส้นทางที่เพิ่งเดินมาเย็นนี้เองไม่ใช่เหรอ เพียงแค่ตอนนี้มันไม่มีแสงพระอาทิตย์ก็เท่านั้น แต่ก็ยังมีตะเกียงส่องมองเห็นทางอยู่นะเว้ย
ไม่ เราไม่ได้กลัวความมืด ผมตอบตัวเอง นะตอนนั้นผมหยุดวิ่งแล้ว กำลังยืนนิ่งคุยกับตัวเองกลางทาง ระหว่างค่ายลูกเสือกับทางขึ้นเขานางเอ
แล้วกลัวอะไร ผีอ่ะเหรอ เกิดมาก็ยังไม่เคยเจอ อยู่ที่วัดมาเกือบ 3 เดือนคือแม่งใกล้ผีมากที่สุดตั้งแต่เกิดมาแล้ว ก็ยังไม่เคยเจอ จะกลัวอะไร
ก็พูดถูกของมัน - ผมตอบตัวเอง
แล้วเอ็งกลัวอะไรกันแน่ - ใจผมถามอีกครั้ง พอหยุดวิ่ง สติเริ่มกลับ ผมตอบตัวเองได้เต็มคำว่า
กูกลัวตายว่ะ
นั้นแหละครับ ผมเจอคำตอบที่ฝังลึกในก้นบึ้งของหัวใจ ความกลัวอันเป็นดั่งบิดาของความกลัวทั้งมวล ผมเจอตัวมันแล้ว
เมื่อใจผมได้รับคำตอบที่มันพอใจ มันเทศน์ผมรัวๆ เลยว่า ใครบ้างเกิดมาจะไม่ตาย แม่งก็ตายกันทุกคน ยากดีมีจน จะชั่วจะดีแม่งก็ตายเหมือนกันทั้งนั้น ต่างกันแค่จะตายวันนี้พรุ่งนี้ เพราะมึงเกิดมามึงจึงต้องตาย จะวิ่งหนีไปที่ไหนก็ตายอยู่ดี
เพราะฉะนั้นเตรียมตัวตายเสียตอนนี้จะดีกว่า เวลาจะต้องตายจริงๆ จะได้ไม่กลัว ถ้าวิ่งหนีกลับไปกุฏิตอนนี้ ความกลัวนี้จะติดตัวมึงไปตลอดชีวิต แต่ถ้ามึงทิ้งความกลัวไว้ที่จุดที่มึงยืนอยู่นี้ แล้วขึ้นเขานางเอเหมือนกับที่ตั้งใจ จากนี้ไปมึงจะเปลี่ยนกลายเป็นคนละคน คนที่เดินออกมาจากกุฏิหลังนั้น
ผมหันหน้าวิ่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้วิ่งหนี ผมวิ่งเข้าใส่เหล่าความกลัวทั้งหลายในชีวิต ผมวิ่งขึ้นเขานางเอเหมือนที่เคยทำมาตลอดทุกเย็น แม้มันจะมืด ถึงแม้ความกลัวจะคงอยู่ ถึงแม้จะมีอีกใจที่บอกว่าเลิกตอนนี้ก็ยังทัน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีอะไรหยุดผมได้อีกแล้ว
แม้ความรู้สึกจะผ่านไปนานเสียเหลือเกิน แต่ในที่สุดผมก็มาถึงยอดเขานางเอได้สำเร็จ ผมเดินตรงไปยังกระต๊อบเล็กๆ ที่ยอดเขา พาตัวเองที่เหนื่อยล้าหอบแฮ่กๆ นั่งพักลงและมองวิวของเมืองไชยาอันค่ำคืน
โอ้ ช่างสวยงามเสียเหลือเกิน
ผมก้มลงกราบไปบนพื้น ในใจนึกถึงแต่พระพุทธเจ้า ท่านขอรับ ไม่ว่าท่านจะได้ยินผมหรือไม่ ได้โปรดช่วยเป็นพลังแรงใจ ให้ผมสามารถฝ่าฟันอุปสรรค จนสามารถสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์ด้วยเทอญ
ผมลงมาเขานางเอด้วยใจที่ยังกลัว ผมเคยแพ้ไปครั้งหนึ่ง ถึงแม้จะมีไม่โพเดียมให้รางวัลเหรียญทอง แต่ผมก็ลงมาอย่างผู้ชนะ ผู้ที่ชนะจิตใจตนเองได้สำเร็จ
คืนนั้นผมหลับเป็นตาย ตื่นเช้ามาไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เลยขาดการทำวัตรเช้าไป แต่เป็นความหิวเองที่ปลุกให้ผมตื่น และให้ไปที่โรงฉันเหมือนดั่งเคยๆ
ฉันเสร็จกลับมากุฏิ พระอาจารย์จักรีถามว่าเมื่อคืนถือตะเกียงออกไปไหน ทำไมไม่เข้านอน ผมก็เรียนท่านไปตามตรง ว่าเมื่อคืนผมไปขึ้นเขานางเอตามที่พระอาจารย์บอกมาครับ พระอาจารย์หัวเราะ แล้วบอกว่าโชคดีแล้วที่ไม่โดนงูกัดตาย 555 ไปพักเสียไป
เหตุการณ์ในคืนนั้น แม้ความกลัวผีกลัวกลัวตายจะยังอยู่ แต่มันลดลงไปเยอะมากๆ จนกระทั่งโน่นแหละที่เดินธุดงค์ไปถึงวัดป่าสุคะโต ที่จังหวัดชัยภูมิ ที่ผมเอาชนะความกลัวผีได้สำเร็จในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นเช่นไรนั้น ผมขอรับใช้โดยการเล่าให้ฟังใน #ชนจิตโต ภาคการเดินธุดงค์นะครับ สำหรับวันนี้
สวัสดีครับ
เรื่องเล่า
พุทธศาสนา
นิยาย
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ชนจิตฺโต
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย