Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักลงพุง
•
ติดตาม
26 ธ.ค. 2023 เวลา 11:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนที่ 24: เรื่องเล่าการธุดงค์ของพระอาจารย์
การได้อยู่ค่ายลูกเสือนอกจากจะมีข้อดี ที่จะมีพระอาจารย์มาคอยช่วยแนะนำ ในเรื่องข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ แล้ว เรายังมีโอกาสได้ฟังเรื่องราวการเดินธุดงค์ของพระอาจารย์อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่พวกเราชอบฟังกันมาก เพราะมันทั้งสนุกและตื่นเต้น จนอยากจะมีโอกาสได้ลองเดินธุดงค์ดูสักครั้งในชีวิต
พระอาจารย์จักรีท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ท่านมาอยู่สวนโมกข์ใหม่ๆ ก็มีพระอาจารย์สิงห์ทองที่คอยช่วยเหลือแนะนำด้านต่างๆ ให้กับท่านเอง จนเป็นที่ไว้วางใจของพระอาจารย์สิงห์ทอง จนในวันนึงพระอาจารย์สิงห์ทองก็ชวนพระอาจารย์จักรีออกไปเดินธุดงค์ด้วย
ทั้งสองท่านออกเดินทางกันจากสวนโมกข์ไชยา เดินลัดเลาะขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ผ่านชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี แม้จะต้องเดินกันตามถนนทั่วๆ ไป เพราะผืนป่าในประเทศไทยเริ่มลดน้อยถอยลง แต่ถึงกระนั้นพวกท่านทั้ง 2 มักจะเลือกใช้เส้นทางสายลองมากกว่าสายหลัก เพื่อที่จะพยายามเดินเลี่ยงเข้าที่ชุมชนให้ได้มากที่สุด
โดยใช้วิธีค่ำไหนนอนนั้น โดยอาศัยกลางกลดนอนข้างทางเอา ถ้าโชคดีหน่อยได้เจอวัด โรงเรียน หรือ สถานีอนามัย ก็จะมีโอกาสได้ซักผ้าชำระร่างกายให้เป็นที่เรียบร้อย พักเสร็จตี 3 หรือ 4 ตื่นแล้วก็ออกเดินต่อทันที ไม่ค้างที่ไหนนานๆ
การหาอาหารฉันก็ทำกันอย่างเรียบง่าย ถ้าเดินไปถึงไหนได้สัก 6 โมง 7 โมง ก็เริ่มออกเดินบิณฑบาต ได้อะไรก็กินไอ้นั้น รับเฉพาะอาหารและน้ำเท่านั้น ส่วนเงินจะปฏิเสธโดยเด็ดขาด
พระอาจารย์สิงห์ทองเคยเล่าให้ฟังแบบติดตลกว่า มีอยู่วันนึงท่านเดินอยู่ทางภาคเหนือ เช้าวันนั้นท่านเดินบิณฑบาตอยู่ที่ตลาดจนเริ่มสายแล้ว ญาติโยมก็มองกันเห็นพระเป็นปกติ แต่ก็ไม่ยักจะมีใครมาใส่บาตรสักคน จนมีโยมผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามา แล้วควักเอาแบงค์ 20 ทำท่าจะใส่ลงไปในบาตร
พระอาจารย์สิงห์ทองตกใจ รีบเอาฝาบาตรปิดปากบาตรทันที โยมผู้หญิงก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน เลยถามพระอาจารย์ว่าปิดปากบาตรทำไม อิฉันจะทำบุญ พระอาจารย์เลยบอกว่าโยม อาตมาขอโทษด้วย แต่อาตมาขอรับแต่อาหารกับน้ำก็พอ ส่วนเงินฝากโยมเก็บไว้ทำบุญช่วยเหลือคนอื่นละกัน
โยมผู้หญิงมองตาค้าง พระบ้ามาจากที่ไหนวะ แล้วหันหลังไปตะโกนให้ผู้คนทั่งตลาดว่า
"เห้ยพวกเรา พระแท้มาแล้วโว้ยยย"
จากนั้นแหละครับทุกท่าน ญาติโยมทั่วทั้งตลาดต่างพากันหยิบอาหารและน้ำที่มี มาถวายให้กับพระอาจารย์สิงห์ทองกันอย่างล้นหลาม โยมบางคนไม่มีอาหารติดมือก็อยากจะถวายเงิน พระอาจารย์ก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง จนโยมต้องไปหาซื้อขนมจากร้านข้างๆ มาถวายให้
พอได้อาหารตามสมควรแล้ว พระอาจารย์ก็ลาไปฉัน ฉันเพียงพอประมาณ ส่วนอาหารที่เหลือ ก็เรียกลูกเล็กเด็กแดงที่อยู่แถวนั้นมาให้รับไปกิน ไม่ก็บริจาคให้กับคนไร้บ้านหรือขอทานที่เขาลำบาก แล้วก็เก็บน้ำไว้ขวดเดียวก็ถือว่าเพียงพอแล้วในวันนั้น
พระอาจารย์เล่าว่าเราเป็นพระ เราใช้ชีวิตอย่างพึ่งพิงผู้อื่น เราฉันข้าวชาวบ้านแล้วเราต้องขยัน หมั่นศึกษาปฏิบัติ ให้คุ้มค่ากับหยาดเหงื่อที่ชาวบ้านเลี้ยงเรามา อย่าไปคิดอยากได้เงินเขา แค่ที่เขาเลี้ยงเรา ก็ทำให้ชาวบ้านลำบากพอแล้ว รับแค่อาหารพอประมาณก็พอ วันไหนได้กินก็โชคดีไป วันไหนไม่ได้ก็อดสักวันสองวันก็ไม่ตายหร่อก
บางช่วงของการเดินทางท่านจะเข้าป่าลึกเลยก็มี อย่างช่วงตอนไปเดินแถวกาญจนบุรี พระอาจารย์ทั้งสองเข้าไปในเขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มันเป็นป่าที่ดิบมากๆ ท่านลัดเลาะไปตามขอบชายแดนประเทศไทยไปเรื่อยๆ ก็ไปพบเจอสัตว์ป่าบ้าง พบเจอค่ายผู้ลี้ภัยสงครามจากพม่าบ้าง เป็นที่ๆ น้อยคนนักจะได้ไป
ที่ทุ่งใหญ่นเรศวรพระอาจารย์จักรีเล่าให้ฟังว่าเกทอบเอาชีวิตไปทิ้ง กลางวันอากาศร้อน กลางคืนก็หนาวเข้ากระดูก นอนไม่ได้เลยทั้งคืน นึกว่าจะตายเอาเสียแล้ว เรื่องอาหารนี่เลิกคิด จะได้กินก็เมื่อเจอหมู่บ้านเท่านั้น ถึงแม้จะทรหด แต่พอเราผ่านมาได้ อุปสรรคอื่นๆ ก็เป็นเรื่องง่ายไปเลย
ท่านเดินลัดเลาะชายแดนกันมาแบบนี้ จนไปโผล่แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่เชียงราย จนไปเข้าอีสานที่เลย แล้วก็เดินใต่เลาะลงมาริมโขงจากหยองคาย นครพนม ไปจนถึงอุบลราชธานี ก็ค่อยลงมาทางอีสานใต้ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ แล้วก็ลงมาสระแก้ว ออกจันทบุรี ไปตราด แล้ววกกลับมายัง กทม แล้วก็ลงใต้กลับไปยังสวนโมกข์อีกครั้งเป็นการจบทริป
พวกพระใหม่อย่างพวกผมได้ฟังก็ตาลุกวาว ว่าทำได้ยังไง เดินลัดเลาะประเทศไทยแบบไปตายเอาดาบหน้าแบบนั้น พระอาจารย์ก็บอกว่าเราเป็นพระน่ะไม่อดตายหรอก ถ้าตั้งใจศึกษาปฏิบัติ ยังไงก็ไม่อดตาย ชาวบ้านก็พร้อมจะสนับสนุนด้วยซ้ำไป
ผมก็ถามไปว่า แล้วถ้าผมอยากไปบ้าง ต้องทำยังไง พระอาจารย์ก็บอกว่าเดินทางไกล มันต้องซ้อมนะ ใครอยากไปจริงๆ ต้องซ้อมด้วยกันโดยการเดินขึ้นเขานางเอทุกวัน วันละ 4 - 5 รอบ ถ้าทำได้ก็จะให้ไป
ผมก็บอกว่าโหย พระอาจารย์มันไม่หนักไปหน่อยเหรอครับ ภูเขามันก็ตั้งสูง 4-5 รอบมันก็โหดอยู่นะครับ พระอาจารย์ก็หัวเราะแล้วบอกว่าถ้าตั้งใจทำได้แน่นอน หรือถ้าเอาแบบวิธีลัดก็มี อยากจะลองดูมั้ยล่ะ ถ้าทำได้จะยอมให้ไปด้วย
เอาสิครับพระอาจารย์ ผมตอบตกลงทันที ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร
มีอยู่ 2 ข้อ ถ้าทำ 1 ใน 2 นี้ได้ จะยอมให้ไปด้วยกัน
พระอาจารย์: 1. ขึ้นเขานางเอตอนกลางคืน
ผม: ห๊ะ!? 😳
พระอาจารย์: คนเดียวด้วยนะ
ผม: หาาาาาาาา 😱
พระอาจารย์: ทำได้มั้ยล่ะ ถ้าทำไม่ได้ ลองดูข้อที่สองก็ได้คือ ให้อยู่ปฏิบัติธรรมในกุฏิ 7 วัน โดยไม่ต้องออกไปไหนเลย จะกิน จะขี้ จะนอนก็อยู่ในนั้น ถ้าทำได้ 1 ใน 2 ข้อนี้จะยอมให้ไป
โหย พระอาจารย์ อย่างยากเลยทั้ง 2 อัน ใครจะไปทำได้ ผมยอมขึ้นเขานางเอทุกวันกับเพื่อนๆ ดีกว่า อย่างน้อยก็ปลอดภัย อย่างน้อยๆ ก็มีเพื่อนเดิน พระอาจารย์ฟังแล้วก็หัวเราะชอบใจ
นับจากวันนั้น พวกเราเหล่าค่ายลูกเสือ ก็เดินขึ้นเขานางเอกันทุกวัน เพื่อที่จะอยากไปเดินธุดงค์กับพระอาจารย์ ซึ่งยังเหลือเวลาให้เตรียมตัวอีกเพียงเดือนเดียว เท่านั้นเอง
ก็จบลงไปแล้วนะครับ ติดขัดตรงไหนก็ขออภัยและน้อมรับทุกความคิดเห็นเช่นเคยครับ แล้วพบกับ #ชนจิตโต ตอนใหม่ได้ที่นี่ อย่าลืมติดตามรับชมกันนะครับ
สวัสดี
นิยาย
พุทธศาสนา
เรื่องเล่า
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ชนจิตฺโต
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย