10 ม.ค. เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศส ตอนที่ 8 กลยุทธ์ของนโปเลียน

ในปี ค.ศ.1802 หลังจากที่ประกาศตัวเองเป็นกุงสุลใหญ่แห่งฝรั่งเศส ได้เกิดสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สอง นำโดยบริเตน ออสเตรีย และรัสเซีย และรวมทั้งจักรวรรดิออตโตมัน โปรตุเกส เนเปิลส์ ราชวงศ์ต่างๆของเยอรมัน และสวีเดน เป้าหมายของพวกเขาคือทำการจำกัดวงขยายตัวของสาธารณรัฐฝรั่งเศสและเพื่อฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ในฝรั่งเศส ส่วนหนึ่งเพราะกังวลว่าฝรั่งเศสจะเป็นต้นแบบให้กับการล้มล้างระบอบกษัตริย์
ภาพวาดสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สอง
พวกเขาได้ล้มเหลวในการโค่นล้มระบอบการปกครองของฝ่ายปฏิวัติและฝรั่งเศสได้รับดินแดน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1793 ซึ่งได้รับการยืนยัน ในสนธิสัญญาลูว์เนวีลในปี ค.ศ. 1801 ฝรั่งเศสได้รับดินแดนทั้งหมดก่อนหน้านี้และได้รับดินแดนใหม่ในตอสคานา ประเทศ อิตาลี ในขณะที่ออสเตรียได้ยินยอมยกดินแดนเวเนเซียและชายฝั่งดัมเมเชียน บริเตนและฝรั่งเศสได้ลงนามสนธิสัญญาอาเมียงในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1802 นำไปสู่ยุคสันติในยุโรปเป็นเวลานาน 14 เดือน
ในปี ค.ศ. 1804 นโปเลียนปราบดาภิเษกตนเองเป็นจักรพรรดิ เริ่มจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1 (First Empire) พระเจ้านโปเลียนทรงปรับปรุงกองทัพฝรั่งเศสเป็น "กองทัพใหญ่" (Grand Armée) ซึ่งในสงครามสหสัมพันธมิตรทั้งสองครั้งฝรั่งเศสอยู่ในสถานะที่ตั้งรับมาตลอด จักรพรรดินโปเลียนทรงรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเป็นฝ่ายรุก
สนธิสัญญาอาเมียง
จักรพรรดินโปเลียนได้ประกาศสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สาม โดยคู่สงครามก็คือประเทศที่อยู่รอบๆฝรั่งเศส แล้วเปิดฉากหลายแนวรบ มีทั้งสงครามทางบกและทางเรือ โดยในปี ค.ศ.1803 อังกฤษกับฝรั่งเศสได้ทำสงครามทางเรือ โดยทางอังกฤษได้ร่วมตัวกับประเทศรอบข้างเพื่อที่จะกดดันฝรั่งเศส นำไปสู่การร่วมตัวกันของประเทศต่างๆในยุโรป
สำหรับประเทศสหสัมพันธมิตรครั้งที่สาม ได้แก่ สหราชอาณาจักร จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จักรวรรดิรัสเซีย เนเปิลส์ ซิซิลี และสวีเดนปรัสเซีย ตุลาคม ค.ศ.1805 จักรพรรดินโปเลียนชนะสงครามที่เมืองอูล์ม ณ เวลานั้นสามารถบดขยี้ออสเตรียและรัสเซีย ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1 โดยสมรภูมิที่สร้างชื่อให้กับนโปเลียนคือยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์
ภาพวาดยุทธการที่อุล์มและยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์
หนึ่งในวีรบุรุษสงครามออสเตรียมีชื่อว่า อ็องเดร มาเซนา (André Masséna) มาเซนาเป็นหนึ่งในนายพลสิบแปดคนแรกที่ได้รับยศจอมพลแห่งจักรวรรดิ และได้รับฉายาจากนโปเลียนว่า ลูกรักของชัยชนะ (l'Enfant chéri de la Victoire) และไม่ได้เรียนจบจากวิทยาลัยทหารเฉกเช่นนายพลคนอื่น
หลังจากที่ออสเตรียพ่ายแพ้ในยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ ยอมลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพเพรสเบิร์ก(Pressburger) ซึ่งเป็นพื้นที่ของจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ นโปเลียนได้ยกเลิกจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสร้างสมาพันธ์แห่งแม่น้ำไรน์ อันเป็นรัฐที่พูดภาษาเยอรมันกลุ่มหนึ่งที่ยอมจำนนต่อจักรวรรดิฝรั่งเศส สำหรับรัฐที่ใหญ่ที่สุดที่พูดภาษาเยอรมันก็คือปรัสเซียที่อยู่ทางตอนเหนือ พวกเขาไม่ได้ร่วมด้วยแต่มองสถานการณ์ด้วยความกังวล
ภาพวาด อ็องเดร มาเซนา และ ยุทธนาวีทราฟาลก้า
แนวรบทางตอนใต้ฝรั่งเศสมีชัยชนะเหนือราชอาณาจักรนาโปลี สุดท้ายกลายเป็นรัฐรัฐบริวารของจักรวรรดิฝรั่งเศส สงครามทางบกนโปเลียนชนะอย่างสวยงาม สำหรับสงครามทางเรือ ฝรั่งเศสร่วมมือกับสเปนภายใต้การปกครองของพระเจ้าคาร์ลอสที่ 4 เป็นทัพเรือผสม สะสมกำลังเตรียมที่จะรุกรานอังกฤษ โดยสะสมกำลังที่แหลมทราฟาลก้าตอนใต้ของสเปน ทัพเรืออังกฤษในเวลานั้นนำโดยพลเรือโท โฮราชิโอ เนลสัน ไวเคานต์เนลสัน
ตุลาคม ค.ศ.1805 อังกฤษปะทะกับกองทัพเรือผสมฝรั่งเศส-สเปน ผู้นำทัพเรือของฝรั่งเศสก็คือ ปีแยร์-ชาร์ล วิลล์เนิฟ (Pierre-Charles Villeneuve) ได้นำกำลังเพื่อที่จะไปสมทบกับสเปนภายใต้การนำของ เฟเดอริโก กราวิน่า(Federico Gravina) ที่แหลมทราฟาลก้า เป็นที่มาของยุทธนาวีทราฟาลก้า จบลงด้วยการที่กองทัพเรืออังกฤษสามารถเอาชนะกองทัพผสมฝรั่งเศส-สเปนได้ แต่ว่าพลเรือโท โฮราชิโอ เนลสัน ไวเคานต์เนลสัน ถูกพลแม่นปืนของฝรั่งเศสยิงเสียชีวิตในที่รบ
ประเทศที่เข้าร่วมสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สาม น้ำเงิน: ฝ่ายสหสัมพันธมิตรกับอาณานิคมและพันธมิตร เขียว: จักรวรรดิฝรั่งเศสที่หนึ่ง รัฐบริวาร อาณานิคม และพันธมิตร
แต่ก็ทำให้ฝรั่งเศสได้ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของอังกฤษอยู่ที่สมรภูมิทัพเรือและในทะเล จักรพรรดินโปเลียนยุติแผนการต่างๆทางเรือเป็นต้นมา พลเรือโท โฮราชิโอ เนลสัน ไวเคานต์เนลสัน กลายเป็นวีรบุรุษสงครามของสหราชอาณาจักรได้รับการสดุดีจนในปี ค.ศ.1840 ได้สร้างอนุสาวรีย์ในจัตุรัสทราฟัลการ์ ในซิทีออฟเวสท์มินส์เทอร์ในลอนดอน จากผลของสมรภูมินี้เป็นการประกาศต่อนโปเลียนว่า ท้องทะเลไม่ใช่ที่ที่คนฝรั่งเศสจะมาประกาศศักดาได้โดยง่าย
กลยุทธ์ของนโปเลียนคือการใช้ปืนใหญ่เป็นตัวนำเปิดแนวรับข้าศึก แล้วค่อยส่งทหารม้าและส่งทหารราบเข้าจู่โจมต่อ ในช่วงเวลานั้น ประเทศอื่นๆต่างมีปืนใหญ่ประจำการกันแล้ว (Gribeauval) เพียงแต่ปืนใหญ่ของฝรั่งเศสนั้นมีวิทยาการดีกว่าเล็กน้อย นั้นคือน้ำหนักเบากว่า ทำให้คล่องตัวกว่าเมื่อจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายจะสมรภูมินึงไปอีกสมรภูมินึง
แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างมากที่สุดของนโปเลียนคือ "ยุทธการ" เป็นการผสมผสาน โดยการวางแผนใช้ทหารปืนใหญ่ ทหารม้า และทหารราบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำมาซึ่งความชัยชนะในทุกสมรภูมิ ได้เหนือกว่าผู้อื่น
Gribeauval เป็นปืนใหญ่ที่ใช้ในยุทธการการรบต่างๆ
สำหรับบรรดาจอมพลของจักรพรรดินโปเลียน จะมีบทบาทตลอดช่วงของสงคราม เรียกว่า จอมพลแห่งจักรวรรดิ (Marshal D'Empire ภาพหน้าปก) จอมพลมีทั้งหมด 26 คน ซึ่งในช่วงเวลาแห่งจักรวรรดิที่ 1 นี้จะมีลด-เพิ่มจำนวนจำนวนของจอมพลไปบ้าง แต่ก็ไม่เกิน 26 คน และการที่จักรวรรดิฝรั่งเศสยิ่งใหญ่ได้ ไม่ใช่เพราะบรรดาจอมพล หรือกระบอกปืนใหญ่แค่นั้น
แต่เป็นชาวฝรั่งเศสที่ต่างยินดีเข้าร่วมเป็นทหารกับกองทัพ โดยที่ไม่ต้องเกณฑ์แต่เป็นการสมัครใจ สิ่งนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกความยิ่งใหญ่ของทุกมหาอำนาจ ย่อมต้องมีประชาชนยืนอยู่ข้างหลังเสมอ การต่อสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยหัวใจที่เป็นหนึ่ง คือกุญแจสำคัญของจักรวรรดิฝรั่งเศส ภายใต้การนำของผู้นำที่ชื่อว่า นโปเลียน
ฝากกดถูกใจ กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
Reference ฝรั่งเศส ตอนที่ 8

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา