27 ม.ค. เวลา 23:37 • ครอบครัว & เด็ก

ความจริงจากเรือโนอาห์

‭‭ปฐมกาล‬ ‭8:1‭-‬11‬ ‭THSV11‬‬
[1] พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด และสัตว์ใช้งานทั้งปวงที่อยู่กับโนอาห์ในเรือ จึงทรงทำให้ลมพัดผ่านมาเหนือแผ่นดิน น้ำก็ลดลง [2] น้ำพุของน้ำบาดาลและช่องฟ้าทั้งหลายก็ปิด ฝนจากฟ้าก็หยุด [3] น้ำก็ลดลงจากแผ่นดินเรื่อยๆ เมื่อล่วงไป 150 วันแล้ว น้ำก็ลดระดับลง [4] ณ วันที่สิบเจ็ดของเดือนที่เจ็ด เรือก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต
[5] น้ำนั้นลดระดับลงเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่สิบ ในวันที่หนึ่งเดือนที่สิบ ก็เห็นบรรดายอดภูเขา [6] เมื่อครบ 40 วันแล้ว โนอาห์ก็เปิดหน้าต่างที่ทำไว้ในเรือ [7] ปล่อยกาไปตัวหนึ่ง กาก็บินไปและบินกลับมา จนน้ำลดแห้งจากแผ่นดิน
[8] โนอาห์ก็ปล่อยนกพิราบตัวหนึ่ง เพื่อดูว่าน้ำลดลงไปจากแผ่นดินแล้วหรือยัง [9] แต่นกพิราบนั้นไม่พบที่ที่จะเกาะได้ จึงบินกลับมาหาโนอาห์ที่เรือเพราะน้ำยังท่วมแผ่นดินอยู่ โนอาห์จึงยื่นมือออกไปจับนกพิราบนั้นมาหาท่านนำเข้าไปในเรือ [10] โนอาห์เฝ้าคอยอยู่อีกเจ็ดวัน จึงปล่อยนกพิราบไปจากเรืออีก [11] เมื่อเวลาเย็นนกพิราบก็กลับมาหาโนอาห์ และคาบใบมะกอกเขียวสดมาด้วย โนอาห์จึงรู้ว่าน้ำลดจากแผ่นดินแล้ว
[13] เมื่อถึงวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง ปีที่หกร้อยเอ็ด น้ำก็แห้งจากแผ่นดิน โนอาห์เปิดหลังคาของเรือและมองเห็นว่าพื้นดินแห้ง
ได้ฟังพระคำจากอาจารย์ตอนนี้แล้วเกิดจิตใจอย่างนึงที่รู้สึกสบายใจมากเลยครับ เป็นความมั่นใจในพระเจ้าที่กำลังเฝ้าคอยปกป้องรับผิดชอบกับชีวิตของผมมาโดยตลอด ตั้งแต่ผมเกิดมาในท้องแม่ ตั้งแต่ผมยังไม่ได้รู้จักกับพระองค์ ตั้งแต่ผมเริ่มรู้จักกับพระองค์แต่แบบคลุมเครือสับสน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรสำหรับความรักความรับผิดชอบที่พระองค์มีให้กับชีวิตของผมครับ
หลังเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาจนอยากจะหนีคือทิ้งกับทุกสิ่งของคริสตจักรแม้กับภรรยาลูก แต่พอได้มาฟังแล้วคิดใคร่ครวญกับพระคำตอนนี้ ความรู้สึกเบื่อหน่ายที่ว่ามันมาจากการที่ผมกำลังถูกวิญญาณชั่วเข้าครอบงำเหมือนที่ทำกับยูดาสครับ คือมีแต่ความรู้สึกแย่ไปหมดจนไม่อยากจะเดินหน้าต่อกับคริสตจักรแม้แต่กับภรรยาลูก แต่ขอบคุณที่มีพระคำจากอ.คิมกับเสียงจากภรรยาเข้ามาข่วยให้ได้ฉุกคิด เหมือนตอนที่ทูตสวรรค์เข้ามาเตือนโยเซฟให้ยอมรับกับมารีย์ เพราะเรื่องนี้เป็นมาจากพระเจ้า
กับพระคำตอนนี้พระเจ้าก็ได้ทำให้ผมได้ระลึกถึงการทำงานของพระเจ้านับตั้งแต่ที่ผมเริ่มจำความได้แบบนี้ครับ
ถ้าพระเจ้าไม่เลือกและปกป้องผมไว้ก็คงไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ ในยุคที่วิทยาการแพทย์ยังไม่เจริญเช่นทุกวันนี้ครับ แต่ยุคนั้นแม่ผมก็มีลูกได้ตั้ง7คน แต่สมัยนี้คลอดง่ายกว่าเยอะแต่หนุ่มสาวมากมายก็ยังกลัวกับการมีลูกมาก ถ้าแม่ผมกลัวตอนนั้นผมกับน้องอีกคนก็คงไม่ได้เกิด แต่เพราะพระเจ้าให้จิตใจกับพ่อแม่ที่จะยอมมีลูกเพิ่มอีก
ตอน10ขวบ ถ้าพระเจ้าไม่ปกป้องผมอุบัติเหตุตกต้นไม้ครั้งนั้นผมคงได้แต่ต้องเสียดวงตาข้างขวาไปแล้วครับ
ถ้าพระเจ้าไม่ให้ครอบครัวผมล้มละลายตอนอายุ17 ก่อนออกจากครอบครัวไปอยู่หอพักวิทยาลัย การใช้ชีวิตของผมก็คงไม่รู้จักกับความยากลำบากและการต้องถูกปฏิเสธครับ
ถ้าพระเจ้าไม่ทำให้ผมล้มเหลวเรื่องชีวิตคู่หลายครั้งผมคงไม่ได้เรียนรู้ว่ามันยากมากกับการจะใช้ชีวิตร่วมกับใครถ้าไม่มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจครับ
ตอนนั้นตอนผมอายุ27 ถ้าไม่มีเสียงยับยั้งเข้ามาในใจว่า”มีนรก” ผมคงไม่หยุดคิดเรื่องฆ่าตัวตายเพื่อหนีความยากลำบากและเริ่มแสวงหาคำตอบอย่างจริงจัง กับชีวิตที่เกิดมาทำไม?ครับ
ถ้าพระเจ้าไม่ให้ผมไปเจอและอยู่กับโบสถ์ที่ไม่ได้รับการชำระบาป ผมก็จะไม่สามารถแยกแยะได้ชัดเจนครับว่ามันต่างกันอย่างไรระหว่างคริสเตียนกับคนเชื่อว่ามีพระเจ้า
ถ้าตอนอายุ42 ถ้าพระเจ้าไม่ทำให้ผมล้มลงเรื่องล่วงประเวณี ผมก็คงได้แต่มั่นใจว่าความเชื่อในพระเจ้าของผมนั้นถูกต้องดีแล้ว และคงไม่สามารถออกมาจากการเป็นอาจารย์ที่โบสถ์เดิมแล้วได้มาพบว่าตัวเองยังไม่ได้รับการชำระบาปและบังเกิดใหม่ที่คริสตจักรข่าวประเสริฐครับ
ถ้าพระเจ้าไม่ได้ให้มีคริสจักรข่าวประเสริฐมาคอยจับจูงนำกับชีวิตของผม ให้มีภรรยาลูกและสมาชิกห้อมล้อมเหมือนกำแพง ผมก็คงได้แต่หนีไปง่ายๆและกลายเป็นคนบ้าที่ไร้บ้านหรือกลายเป็นเจ้าลัทธิเทียมเท็จเพ้อเจ้อใช้ความรู้ในพระคัมภีร์ฯ เรื่องพระเจ้าล่อลวงผู้คนไปเรื่อย อยู่กับพระเจ้าที่มารซาตานคอยสอนคอยกระซิบให้ครับ
คิดดูแล้วความรอดทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ขึ้นกับความรู้พระคัมภีร์ฯเยอะหรือความพยายามตั้งใจของผมเลยจริงๆ ครับ แต่เป็นความเมตตากรุณาของพระเจ้าทั้งหมด แต่กับความพยายามตั้งใจดีพยายามจะปกป้องตัวผมเองมีแต่นำพาชีวิตของผมไปสู่ความหายเท่านั้นครับ
พอมองจากพระคำตอนนี้ก็เลยได้เข้าใจง่ายขึ้นครับว่าทุกปัญหาหรือภัยพิบัติมากมายในโลกแห่งบาปนี้ ผมสามารถรอดพ้นมาได้เพราะมีพระเจ้าที่คอยดูแลรับผิดชอบกับชีวิตคนเราอยู่นี้เองครับ เหมือนพระคำตอนนี้ที่พระเจ้าใช้ลมมาทำให้น้ำมากมายค่อยๆลด พระเจ้าก็กำลังค่อยๆ ไล่ความไม่เชื่อออกไปจากชีวิตของเราทีละนิดๆ เป็นพระเจ้าเองที่กำลังสร้างความเชื่อขึ้นในชีวิตของพวกเรา มันไม่ใช่ด้วยตัวเราเองที่จะสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนแห่งความเชื่อแต่เป็นพระเจ้าเองที่กำลังทำกิจเหล่านี้อยู่ในเราแบบนี้ครับ
ถึงแม้เราจะได้ฟังกันมามากกับพระคำความจริงที่บอกว่าเราไม่มีบาปแล้ว พระเยซูมารับเอาไปหมดแล้วกับทุกการแช่งสาปบาปเวรกรรมทั้งหมด แต่ทำไมตอนเจอกับสถานการจริงบ่อยครั้งเราจึงกลัวกับมัน เพราะในใจของเราพระคำยังไม่ได้หยั่งรากลึกมากพอนั่นเองครับ
ถ้าพระเจ้าไม่ให้มีคริสตจักรมีแต่พระคัมภีร์ไบเบิ้ล ผมกำลังคิดเรื่องนี้ เพราะเห็นหลายคนก็กำลังถูกหลอกกับเรื่องนี้ หลอกให้เชื่อว่าตนนั้นสามารถเชื่อติดตามพระเจ้าได้โดยไม่ต้องมีโบสถ์ครับ พระเจ้าก็ทำให้ผมได้คิดกับพระคำลูกา10 เรื่องของชายสะมาเรียที่ช่วยชายที่ถูกปล้นและนำมาฝากไว้กับที่โรงแรมก็จ่ายค่าทุกอย่างให้แล้วด้วยครับ โบสถ์หรือคริสตจักรคือที่ๆ พระเจ้านำพวกเราผู้เชื่อผู้ได้รับการชำระบาปแล้วมาฝากไว้เพื่อรับการดูแลและรอพระองค์เสด็จกลับมารับในวันพิพากษาสุดท้ายครับ
‭‭ลูกา‬ ‭10:34‭-‬35‬ ‭THSV11‬‬
[34] จึงเข้าไปหาเขา เอาเหล้าองุ่นกับน้ำมันเทใส่บาดแผลและเอาผ้ามาพันให้ แล้วให้เขาขึ้นขี่สัตว์ของตนเองพามาถึงโรงแรม และดูแลรักษาพยาบาลเขา [35] วันรุ่งขึ้นก่อนจะไป เขาเอาเงินสองเดนาริอันให้กับเจ้าของโรงแรม บอกว่า ‘ช่วยรักษาเขาด้วย สำหรับเงินที่ต้องเสียเกินกว่านี้จะใช้ให้เมื่อกลับมา’
อีกเรื่องคือโบสถ์หรือคริสตจักรเหมือนกับแม่เอซาวกับยาโคบครับ เป็นกุญแจเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ได้รับพรจากพ่อ คริสตจักรก็เป็นกุญแจที่สามารถจะช่วยให้เราได้รับพรจากพระเจ้าแบบนี้ครับ การพยายามจะเชื่อพระเจ้าโดยไม่สนใจกับที่โบสถ์จึงไม่ต่างจากการเชื่อพระเจ้าแบบเอซาวครับ เขาพยายามจะทำตามที่พ่อต้องการโดยไม่สนใจฟังแม่ซึ่งรู้จักกับจิตใจของพ่อมากกว่า ชีวิตเขาจึงได้แต่จบลงที่การถูกแช่งสาปแทนครับ
‭‭ปฐมกาล‬ ‭27:13‬ ‭THSV11‬‬
[13] มารดาพูดกับเขาว่า “ลูกเอ๋ย ขอให้คำสาปแช่งของเจ้าตกอยู่กับแม่เถิด เชื่อฟังแม่เท่านั้น ไปนำมาให้แม่เถิด”
พระคัมภีร์ฯ กับคริสตจักรจึงมีความสำคัญจำเป็นแบบนี้ครับ เป็นเหมือนเลือดและเนื้อของพระเยซู ผู้ซึ่งพระเจ้าส่งมาเป็นพระผู้ช่วยของมนุษย์เราทุกคน บนโลก การได้มาอยู่ในเรือของครอบครัวโนอาห์ก็เหมือนได้มาอยู่ในพระเยซูหรือในคริสตจักร ผมก็ได้เห็นแบบนี้ครับ กับทุกปัญหามันมีพระเยซูที่กำลังทำหน้าที่คอยดูแลรับผิดชอบอยู่ครับ
เห็นชีวิตของสมาชิกคริสตจักรตอนนี้มันเหมือนชีวิตในเรือของครอบครัวโนอาห์ครับ ก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับสัตว์ต่างๆ สัตว์ดุร้ายมากมายก็ด้วย แต่ทุกชีวิตก็ปลอดภัยเพราะมีพระเจ้าที่คอยดูแลรับผิดชอบอยู่ ทุกชีวิตก็รอดตายจากน้ำท่วมและจากภัยพิบัติเพราะอยู่ในเรือที่มีพระเจ้า ลูกเมียโนอาห์ก็อาจจะมีความกังวลมีสารพัดความคิดที่เข้ามาตอนช่วงที่กำลังรอน้ำลด แต่เพราะมีโนอาห์ที่คอยเตือนสติให้มั่นใจว่าในเรือนี้คือที่ๆปลอดภัยที่สุดแล้วครับ
กับเสียงแห่งความตายความกลัวความสิ้นหวังท้อแท้เบื่อหน่าย มันเป็นเหมือนแค่เสียงจากข้างนอกเรือ แต่เราอยู่ในเรือคืออยู่ในพระเจ้าพระเยซูแล้วจึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ มากระทบครับ
เหมือนชีวิตในคริสตจักร ก็มีหลายเรื่องหลายคำพูดจากคนรอบข้างที่เข้ามากระทบจิตใจเรื่อยๆ ก็มีความรู้สึกกลัวเจ็บเกลียดโกรธท้อแท้สิ้นหวังปรากฏขึ้นมาบ้าง แต่ได้เห็นกับพระคำแบบนี้ก็ได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นวิถีทางการทำงานของพระเจ้าที่กำลังขับไล่ความคิดความไม่เชื่อให้ออกไปจากจิตใจของเรา เพื่อจะตั้งความเชื่อขึ้นแทนที่ให้แบบนี้ก็เลยรู้สึกขอบคุณได้แบบนี้ครับ
แต่ถ้าในใจไม่มีพระคำ ก็เหมือนคนที่อยู่ข้างนอกเรือคือเจอน้ำมาก็ถูกท่วมตายหมด คือถูกลากไปตามสถานการง่ายๆ ตามความคิดตามอารมณ์โกรธเกลียดซึมเศร้าฆ่าตัวตายหรือปิดใจหนีหายเป็นบ้าไปเลยแบบนี้ครับ
ก็เลยรู้สึกขอบคุณกับพระคำตอนนี้ที่ได้เข้ามาช่วยให้ได้รู้สึกถึงวิถีทางการทำงานของพระเจ้าในชีวิตเรายังไง กับการให้อยู่ในคริสตจักรก็เพื่อจะเปลี่ยนเราให้กลายเป็นคนแห่งความเชื่อนี้ครับ พระคัมภีร์ฯ ก็ได้มาช่วยทำให้เรารู้ความจริงและคริสตจักรก็ได้มาช่วยผลักดันเราให้สามารถจะก้าวออกไปติดตามความจริงได้แบบนี้ครับ
‭‭2 พงศาวดาร‬ ‭20:20‬ ‭THSV11‬‬
[20] เขาทั้งหลายลุกขึ้นแต่เช้าและออกไปยังถิ่นทุรกันดารเทโคอา และเมื่อเขาออกไป เยโฮชาฟัททรงยืนและตรัสว่า “ยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้า จงวางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย แล้วท่านจะได้รับความมั่นคง จงเชื่อบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แล้วท่านจะได้รับความสำเร็จ”
คุณผู้อ่านก็เพราะกำลังแสวงหาความสุขความสำเร็จกันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ถึงได้มาหาอ่านอยู่แบบนี้ และผมก็กำลังบอกความจริงให้ไปแล้วด้วยครับ ซึ่งความจริงนี้ก็เป็นหนทางเดียวที่สามารถจะช่วยทั้งตัวคุณและครอบครัวให้รอดได้จริงครับ กับหนทางอื่นติดตามไปก็จบที่ว่างเปล่าคือถูกหลอกและอาจถึงพิการล้มตายได้เลยนะครับ เพราะทั่วโลกมารซาตานวิญญาณชั่วก็กำลังพยายามทำเช่นนั้นกับทุกๆ คน
โฆษณา