30 ม.ค. เวลา 07:38 • ปรัชญา

Exodus: God and Kings

เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไหมครับ เป็นตอนหนึ่งของพระคัมภีร์ไบเบิ้ล อาจเคยดูมาแบบสนุกๆ หรือชื่นชอบกับฉากแต่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นใช่ไหมครับ แต่เรื่องนี้มันกำลังสื่อความหมายบางอย่างกับเราด้วยนะครับ
ฟาโรห์ที่ปกครองอียิปต์ก็กำลังเปรียบเหมือนกับมารซาตานผู้ที่กำลังปกครองโลกนี้อยู่ครับ มนุษย์ทุกคนล้วนอยู่ใต้อำนาจของเขาครับ และปลายทางสุดท้ายหลังจบชีวิตบนโลกดวงวิญญาณก็จะต้องตามไปอยู่กับเขาต่อที่นรกที่ซึ่งพระเจ้าสร้างขึ้นมาเพื่อเขากับสมุนครับ
แต่เพราะรักพระเจ้าก็ไม่ได้ยอมปล่อยมนุษย์ให้ประสบชะตากรรมเช่นนั้นครับ ก็ได้ส่งพระเยซูลงมาช่วยตายไถ่ความผิดบาปทั้งหมด ก็เป็นบาปผิดที่เกิดขึ้นมานับตั้งแต่มนุษย์คู่แรกบรรพบุรุษของเราทุกคนก่อเรื่องไว้ครับคืออาดัมกับเอวา เขาสองคนนี้แหล่ะที่เป็นตัวเริ่มนำหายนะความชั่วร้ายต่างๆ เข้ามายังโลกครับ
การตายของพระเยซูก็ทำให้พระเจ้าอภัยโทษและยอมรับมนุษย์กลับเข้ามาเป็นลูกอีกครั้ง พระเจ้าจึงเริ่มกลับเข้ามาทำหน้าที่ของพระองค์ในการเป็นผู้ปกครองของมนุษย์ หลังให้พระเยซูมาตายสามวันก็ฟื้นคืนมาประกาศอิสรภาพให้กับทุกคน ก็เริ่มประกาศความจริงนี้มาได้กว่าสองพันปีแล้ว ก็น่าจะเคยได้ยินกันเกือบทุกคนแล้วครับ มายุคนี้ยิ่งเร็วเพราะมีอินเตอร์เน็ตด้วย
1
กับคนที่ได้รู้และรับความจริงแล้วชีวิตก็จะเริ่มเปลี่ยนครับ จากคนของมารซาตานกลับมาเป็นคนของพระเจ้า เหมือนที่ส่งโมเสสมาช่วยพาชาวฮิบรูออกจากการเป็นทาสฟาโรห์นี้ครับ โมเสสตอนนี้ถ้าเปรียบก็เหมือนกับคริสตจักรหรือเหล่าบรรดาคนของพระเจ้านี้ครับ พวกเขาก็จะสามารถช่วยพาคนออกจากความบาปได้ครับ
โดยใช้พระคัมภีร์ไบเบิ้ลครับ พวกเขาจะใช้พระคัมภีร์ฯ ในการดึงจิตใจผู้คนให้ออกจากความบาป เหมือนที่โมเสสใช้ไม้เท้าในการทำการอัศจรรย์หลายอย่างครับ หลายคนพึ่งมารู้เรื่องราวในใจก็จะมีการต่อสู้มีการขัดแย้งมากครับ เหมือนภาพยนตร์ตอนนี้ที่ฟาโรห์ก็ไม่ได้ยอมปล่อยให้ไปแบบง่ายๆครับ แต่พยายามจะติดตามมาพากลับไปเป็นทาสอีกใช่ไหมครับ แต่พระเจ้าก็แหวกทะเลแดงให้กับพวกเขา แต่สังหารพวกทหารอียิปต์ที่ไล่ตามมาทั้งหมดเลยครับ
กับชีวิตจริงของแต่ละคนก็กำลังเป็นเช่นนั้นอยู่นะครับ กับคนที่ได้เจอกับคริสตจักรแล้ว คริสตจักรก็จะจูงนำชีวิตให้ก้าวไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าดูเหมือนมีอุปสรรคใหญ่มากที่กำลังขวางกั้นอยู่แบบทะเลแดงก็ไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับพระเจ้าครับ
แต่กับคนเหล่านั้นที่ยังไม่มีคริสตจักรจูงนำ ยังรับผิดชอบกับชีวิตของตัวเองก็ยังอยู่ในความบาป เหมือนคนฮิบรูตอนเป็นทาสฟาโรห์นะครับ ก็ทำงานสร้างอาณาจักรให้กับเขาแลกกับอาหารและที่อยู่อาศัย พอแก่หมดสภาพเขาก็จะทิ้งครับ
ก็เหมือนคนแก่ของโลกทุกวันนี้จริงๆนะครับ ความจริงลูกหลานไม่มีใครอยากเลี้ยงดูแลนะครับ ถ้ามีเงินจ้างคนดูแลให้ได้ก็จะจ้าง แต่ในใจก็อยากให้ตายไปเร็วๆ ดีกว่ามาอยู่เป็นแต่ภาระแบบนี้ ยิ่งคนแก่ยากจนหลายคนถูกลูกหลานทิ้งจริงๆ ครับ เคยเห็นไหมครับคนแก่ไร้บ้านเก็บขยะขายหรือขอทานกินไปวันๆ ส่วนมากจบที่เป็นอัลไซเม่อร์จบชีวิตที่บ้านพักคนชราเต็มเลยครับ
แต่กับคนของพระเจ้าผมสังเกตว่าพวกเขาจะไม่มีใครเป็นอัลไซเมอร์ครับ ก็เผยแพร่ประกาศเรื่องราวของพระเจ้าไปจนถึงวันตายได้เลยครับ อาจารย์ใหญ่ผม83 ปีแล้วชื่ออ.อ้อคซูพารค  แต่ก็ยังเดินทางไปเทศนาสั่งสอนทั่วโลกเหมือนตอนหนุ่ม เพราะพวกเขาก็ใช้ชีวิตกันด้วยใจครับ มันก็เลยไม่ส่งผลกระทบเหมือนคนที่ไม่มีพระเจ้าซึ่งจะใช้แต่หัวสมองเยอะ
คนเหล่านั้นพอแก่ตัวสมองมันก็เสื่อมด้วย แต่ใจมันไม่ได้เสื่อมตามนะครับสำหรับคนที่หันกลับมาหาพระเจ้าเร็ว โลกของจิตใจก็จะเริ่มฟื้นและเติบโตขึ้นๆ ในขณะที่ร่างกายก็ค่อยๆเสื่อมไปตามกาลเวลาครับ พอแก่ตัวจิตใจก็จะเข้มแข็งมากๆครับ
ผมได้มารู้ความจริงนี้จริงๆ ตอนอายุ42 แล้วครับ แต่เริ่มได้ยินตอนอายุ30 ครับ แต่ไปเจอกับกลุ่มคนที่ยังไม่ชัดเจนครับ พวกเขาก็จะสอนเน้นความประพฤติดีแบบศาสนาทั่วไปทางเดิมแบบเดิมของผมนี้แหล่ะครับ คือพวกเขาเองก็ยังอยู่ในความบาป ยังไม่ได้หลุดออกมา เพราะยังไม่เคยได้พบกับคริสตจักรหรือคนของพระเจ้าจริงๆเหมือนกันครับ
พอได้มาพบกับคริสตจักรก็เหมือนกับได้มาเจอกับอีกโลกหนึ่งจริงๆครับ มันก็เลยสามารถมีสันติสุขได้ในทุกสถานการ ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยสภาพหรือสถานการภายนอกอีกต่อไป ต่อให้ตัวจะต้องติดคุกหรืออยู่กับร่างกายที่ป่วยหนัก แต่ใจมันไม่ต้องติดตามไปด้วยก็ได้แบบนี้ครับ
โฆษณา