30 ม.ค. 2024 เวลา 08:06 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

The End We Start From (2023) – ก้าวแรก ณ จุดดับสูญ

ในสถานการณ์สมมติต่าง ๆ มักจะมาพร้อมเรื่องราวที่ยากเกินจะคาดเดา โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่สภาพสังคมพื้นฐานพังทลาย และเหลือไว้เพียงสัญชาตญาณมนุษย์ ภาวะหลังล่มสลายก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่สามารถเอามิติความเป็นมนุษย์มาฉายได้อย่างน่าสนใจ ดั่งหนังดราม่าเรื่องใหม่ที่ โจดี้ คอเมอร์ รับบทนำ ในการหอบลูกฝ่าภัยพิบัติ เพื่อฉายความเหน็ดเหนื่อยของการเป็นแม่คน ในภาพยนตร์อย่าง “The End We Start From“
“The End We Start From” เล่าเรื่องของคุณแม่ท้องแก่รายหนึ่ง ที่เผชิญเข้ากับวิกฤตกาลอุทกภัยในเกาะอังกฤษ ส่งผลให้เธอและสามีของเธอ ต้องระหกระเหินไปตั้งรกรากใหม่ในบ้านของพ่อตา แต่ด้วยภาวะน้ำท่วมหนักอันยาวนาน ทำให้เธอและสามี รวมถึงลูกน้อยเพิ่งเกิด ต้องหาหนทางในการเอาชีวิตรอดในยามวิปโยคเช่นนี้
ตัวหนังพาเราเข้าเรื่องโดยทันที ว่าด้วยตัวเอกหญิงไร้นามที่อยู่ภาวะท้องแก่ใกล้คลอดกลางคัน คลอด้วยสุรเสียงของเม็ดฝนที่โหมกระหน่ำเป็นฉากหลัง ก่อนที่วันคลอดจะเลื่อนเข้ามาหาเธอโดยไม่รู้ตัว พลางก่อเป็นห้วงเวลาแห่งอารมณ์ที่เผยซึ่งมิติการโอบรับความเป็นแม่คน โดยมี โจดี้ คอเมอร์ เป็นศูนย์กลางของเรื่องทั้งหมด ก่อนที่ตัวหนังจะจับและนำพาตัวละคร รวมถึงคนดู ไปสู่การเดินทางเพื่อเอาชีวิตรอด
ถึงแม้จะจั่วหัวว่าเป็นหนังเอาชีวิตรอดก็ตาม แต่ตัวหนังก็ไม่ได้ฉายซึ่งโทนโหดร้ายป่าเถื่อน ที่อาจนำเรื่องราวของการกระเตงลูกฝ่าน้ำท่วม ไปในทิศทางที่ชวนหดหู่แต่อย่างใด ถึงแม้เส้นเรื่องและเซ็ตติ้งใกล้เกือบภาวะล่มสลายของหนังนั้น จะหลีกเลี่ยงซึ่งความชวนสิ้นหวังไม่ได้ก็ตาม แต่ด้วยเนื้อหา มันกลับพูดถึงการลุกขึ้นหยัดยืน เพื่อก่อกำเนิดซึ่งความหวังได้เกินคาด
หลายช่วงเวลาของหนัง จึงถูกนำด้วยการแสดงที่ถ่ายทอดซึ่งความสลับซับซ้อนและทรงพลังของ โจดี้ คอเมอร์ ที่ต้องแสดงถึงภาวะเหนื่อยล้า ลำบากยากเข็ญ ภายใต้ความเป็นแม่คน ที่ต้องหอบ “ชีวิตใหม่” เพื่อออกเดินทางไปสู่ดินแดนใหม่ที่เอื้อให้ความหวังได้เติบโต แต่ขณะเดียวกัน เธอก็ยังฉายซึ่งภาวะสับสน ที่คอยคิดคำนึงถึงจุดกำเนิดเรื่องราวทั้งหมด ที่มันเริ่มต้นในบาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่เธอได้พบรักกับสามีของเธอ
น่าสนใจ ที่ตัวหนังไม่ได้พูดถึงเงื่อนไขเซ็ตติ้งวิกฤตอุทกภัยโดยตรง แต่เลือกจะฉายผ่านด้วยเสียงวิทยุ หรือแม้กระทั่งเป็นฉากหลักของเหตุการณ์นั้น ๆ รวมถึง ตัวหนังเอง ก็ไม่ได้พยายามจะปั้นให้ตัวละครตรงหน้า มาพร้อมภูมิหลังที่น่าเห็นใจ หรือกระทั่ง บุคลิกภาพและอุปนิสัยโดดเด่น แต่หนังเลือกที่จะปั้นให้ตัวละครในเรื่องเป็นปกติที่สุด เหมือนกับให้ตัวละครเหล่านั้นเป็นใครก็ได้ ราวกับสำรวจภาวะห้วงอารมณ์มนุษย์ ณ จุดที่ดับสูญ
ตัวหนังจึงไม่ได้มาพร้อมงานสร้างใหญ่โต แต่การฉายเรื่องราวผ่านแง่มุมผู้หญิง ก็ชวนให้เรามองโลกอันมืดมน ให้เต็มไปด้วยความหวังที่พึงมีได้อย่างงดงามไม่เบา ถึงแม้จังหวะและท่าทางของหนัง จะไม่ได้แปลกใหม่ หรือหาญกล้าประการใด หรือมาพร้อมแนวทางเมโลดราม่าชวนบีบน้ำตาตามขนบที่พึงมี แต่มันก็ถ่ายทอดความลำบากตรากตรำของการแม่เป็นคน ได้อย่างเห็นภาพเลยทีเดียว
ตลอดการเดินทางของหญิงสาวรายนี้ ในห้วงเวลาที่เธอเดินขึ้นเขาลงห้วย หรือกระทั่งเหยียบย่างไปสู่ดินแดนใหม่ เธอมักจะเห็นภาพสามีเธอซ้อนทับ จนทำให้เธอเผลอนึกถึงวันแรกที่เธอเจอกับเขาไปไม่ได้ แม้ในยามยากลำบาก เธอก็ยังตระหนักและพึงสงสัยในทุกครา ว่าถ้าหากวันนั้นเธอไม่คุยกับเขา บทสนทนาบนโต๊ะไม่เกิดขึ้น มันจะนำพาเธอมาหอบกระเตงลูกหนีน้ำท่วมแบบนี้ไหม?
“The End We Start From” ไม่ได้ฉายภาพการเอาชีวิตรอดแบบที่หนังแนวนี้มักทำ แม้มันจะฉายซึ่งมิติความเป็นมนุษย์แบบเหตุการณ์วิกฤตมักเป็น แต่หนังก็เลือกที่จะฉายซึ่งความเป็นแม่คน ในภาวะที่ยากจะหยั่งถึง รวมถึงแสดงซึ่งความสลับซับซ้อนของห้วงอารมณ์ของคนที่เพิ่งเป็นแม่คนหมาด ๆ และสิ่งที่หนังพร่ำบอก ก็คือการเปรยถึงประกายแห่งความหวัง
ที่แม้ในยามจุดดับสูญ ความหวังก็ย่อมเติบโตเสมอ ขอแค่เพียงมีแรงพอ จะได้ย่างก้าวแรกออกไป..
สรุปแล้ว “The End We Start From” เป็นหนังดราม่าเอาชีวิตรอด นำด้วยการแสดงอันแสนซับซ้อนและทรงพลังของ โจดี้ คอเมอร์ ในบทแม่คนมือใหม่ ที่ต้องกระเตงลูกน้อยฝ่าวิกฤตกาล แม้ตัวหนังจะไม่ได้มาพร้อมแนวทางหาญกล้าแหวกขนบ หรือเมโลดราม่าชวนบีบน้ำตา แต่การเลือกฉายเซ็ตติ้งภาวะใกล้ล่มสลาย ด้วยแง่มุมผู้หญิง ก็ถ่ายทอดความลำบากตรากตรำของการเป็นแม่คน ในภาวะที่มืดมนแต่ชวนสร้างความหวังที่พึงมีได้งดงาม
3.5 / 5
The End We Start From (2023)
Directed by Mahalia Belo
Screenplay by Alice Birch
Based on "The End We Start From" by Megan Hunter

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา