24 มี.ค. 2024 เวลา 01:00 • บันเทิง

Emma Watson: จากดาราดังสู่ทูตสันถวไมตรี ผู้ทำงานเพื่อขับเคลื่อนสังคม

ถ้าพูดถึงชื่อของเอ็มมา วัตสัน (Emma Watson) แล้วล่ะก็ เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่มักจะจดจำเธอได้ในฐานะของนักแสดงสาวเจ้าของบทบาท “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์” จากภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือชื่อดังเรื่อง “แฮรี่ พอตเตอร์” กันอย่างแน่นอน
1
เอ็มมา วัตสันนับว่าเป็นนักแสดงที่มากด้วยความสามารถและผลงาน ในขณะเดียวกันก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นกระบอกเสียงให้กับสตรีผ่านฐานะของทูตสันถวไมตรีสตรีของสหประชาชาติที่เดินทางไปดูแลความเท่าเทียมไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาหรือในด้านสังคมให้กับเหล่าผู้หญิงในหลากหลายพื้นที่ที่ความเท่าเทียมอาจจะยังเข้าไปไม่ถึงเพราะเส้นแบ่งทางสังคม
เนื่องในโอกาสส่งท้ายเดือนสตรีสากลนี้ Bnomics จึงจะขอนำเอาเรื่องราวของดาราชื่อดังท่านนี้ตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มของชีวิตไปจนถึงช่วงที่กลายมาเป็นสตรีผู้ทำงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้อ่านกัน
🔴เด็กหญิงผู้ใฝ่ฝัน
เอ็มมา วัตสัน เกิดที่กรุงปารีสในปี 1990 โดยเป็นบุตรสาวของครอบครัวทนายชาวอังกฤษ ก่อนที่พ่อและแม่ของเธอจะแยกทางกันทำให้เธอย้ายมาอาศัยอยูในอ็อกฟอร์ดเชอร์ซึ่งเป็นบ้านของแม่ พร้อมกับสลับไปอยู่ที่ลอนดอนบ้านของพ่อบ้างในช่วงวันหยุด
ภายหลังเอ็มม่าได้ย้ายถิ่นฐานไปอาศัยและเรียนหนังสือที่เมืองอ็อกฟอร์ด กระทั่งเมื่ออายุได้ 6 ปีเธอก็มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักแสดง เธอจึงเริ่มเรียนนอกเวลาในโรงเรียนสอนการแสดงแห่งหนึ่งที่เปิดสาขาในอ็อกฟอร์ด กระทั่งในปี 1999 เธอก็ได้รับความสนใจจากแมวมองที่จะพาเธอไปแสดงภาพยนตร์ที่ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักคุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี
🔴เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
ในปี 1999 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลังจะถ่ายทำภาพยนต์ในซีรีส์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ แมวมองก็ได้มารู้จักกับเอ็มมาเข้าผ่านคุณครูของเธอ ซึ่งความมั่นใจของเอ็มมาเองที่ไปถูกใจแมวมองและผู้จัดเข้า หลังจากการออดิชั่นกว่าแปดรอบ ในที่สุดเธอก็ได้คว้าบทของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์มาครอบครอง พร้อม ๆ กับแสดงร่วมกันกับแดเนียล แรดคลิฟฟ์ (แฮรี่ พอตเตอร์) และรูเพิร์ต กรินต์ (รอน วิสลีย์)
เมื่อแฮรี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ได้เข้าฉายบนจอเงินในปี 2001 ก็ทำให้เอ็มมาได้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกจากความสำเร็จของภาพยนตร์ เธอได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากมาย และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลต่าง ๆ โดยได้รับรางวัลศิลปินเยาวชนดีเด่น (Young Artist Award) ในฐานะนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนั้น
สำหรับแฮรี่ พอตเตอร์ภาคอื่น ๆ ที่ตามมาหลังจากนั้นก็ทำให้เธอได้รับคำชมอย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้ภาพของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ กลายเป็นภาพจำของเธอไปโดยปริยายและเป็นบทบาทที่ผู้คนลืมไม่ลง
นอกเหนือจากแฮร์รี่ พอตเตอร์แล้ว เอ็มมาก็ยังคงมีผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น My week with Marilyn (2011), The Perks of Being a Wallflower (2012), Beauty and the Beast (2017), Little Women (2019) เป็นต้น รวมไปถึงงานถ่ายแบบแฟชั่นอื่น ๆ อีกด้วย ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ หายไปจากวงการภาพยนตร์
🔴ลดงานแสดงมาอุทิศตนให้สังคม
หลังจากปี 2019 มาเราก็ไม่ได้เห็นเอ็มมา วัตสันในฐานะนักแสดงบ่อยมากนัก แต่เราก็อาจจะยังเห็นเอ็มมาในฐานะของผู้ขับเคลื่อนสังคมอยู่บ้าง
เอ็มมาได้เริ่มงานในฐานะนักกิจกรรมทางสังคมตั้งแต่ปี 2014 ผ่านการเป็นกระบอกเสียงที่พูดถึงสิทธิการศึกษาของผู้หญิง ซึ่งเธอก็ได้เดินทางไปลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปัญหาถึงบังกลาเทศและแซมเบีย
โดยในปี 2014 นี้เองที่เธอได้รับตำแหน่งทูตสันถวไมตรีสตรีจากสหประชาชาติ พร้อม ๆ กับริเริ่มโครงการ HeForShe ที่ออกมาเรียกร้องไม่ให้ผู้ชายเพิกเฉยกับความไม่เท่าเทียมทางเพศ พร้อม ๆ กับกล่าวสุนทรพจน์มากมายในหลากหลายสถานที่เกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศในหลาย ๆ ประการ ตลอดจนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และพูดถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้วย
เอ็มมา วัตสันนับว่าเป็นบุคคลที่เป็นต้นแบบให้กับคนหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กสาวที่เติบโตมาพร้อม ๆ กับแฮรี่ พอตเตอร์ ภาพลักษณ์ของเธอและเฮอร์ไมโอนี่เกรนเจอร์ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมประชานิยมของยุคมิลเลนเนียม พร้อม ๆ กับเสริมสร้างภาพลักษณ์ผ่านการทำกิจกรรมทางสังคมของเธอ ทำให้เอ็มมา วัตสันกลายเป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลต่อผู้ชาวโลกไม่น้อย
ซึ่งเธอเองก็ใช้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเธอในการเป็นกระบอกเสียงเพื่อสะท้อนให้เห็นปัญหาหลาย ๆ ประการที่อาจจะไม่ได้รับความสนใจหรือถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติไป
นอกเหนือจากในเรื่องของสังคมแล้ว ในแง่ของความสำเร็จเอ็มมา วัตสันก็ถือว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว จากชีวิตในวัยเด็กของเธอเราจะเห็นว่าหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จก็คือ เธอรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และอยากที่จะทำอะไรตั้งแต่เนิ่น ๆ เมื่อรู้ตัวเร็วก็จะหาทางที่จะนำพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
ซึ่งเธอก็พยายามทำให้สิ่งที่เธอใฝ่ฝันประสบความสำเร็จได้อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดดังที่เธอเคยกล่าวเอาไว้ว่า
“ฉันไม่อยากให้ความกลัวที่จะล้มเหลว
มารั้งไม่ให้ฉันทำในสิ่งที่อยากทำ”
-Emma Watson
โฆษณา