28 มี.ค. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

การโจมตีของกลุ่มรัฐอิสลามเกิดจากการที่มอสโกเปลี่ยนวาทกรรมอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสงครามหรือไม่?

หรือการโจมตีของผู้ก่อการร้ายรัฐอิสลาม(ISIS)มีครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงวาทศาสตร์อย่างเป็นทางการของมอสโกเกี่ยวกับสงคราม
เวลาผ่านไปสอง-สามวันแล้วนับตั้งแต่การโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ Moscow Concert Hall
องค์การสหประชาชาติและบุคคลสำคัญจากหลายประเทศได้ประณามความโหดร้ายของฆาตกรชุดนี้
ประธานาธิบดีปูติน กล่าวคำปราศรัยระดับชาติ และประกาศให้วันที่ 24 มีนาคม เป็นวันไว้ทุกข์แห่งชาติ ในสุนทรพจน์ของเขา
ปูตินไม่ได้กล่าวถึงกลุ่มรัฐอิสลาม แต่กลับกล่าวอยู่ยูเครนสองครั้ง
“ผู้ต้องสงสัยพยายามซ่อนตัวและเดินทางไปยังยูเครน และฝ่ายยูเครนก็เปิดหน้าต่างให้พวกเขาข้ามชายแดน” เขากล่าว
เซเลนสกีโต้กลับทันทีว่า "ท่าทีของปูตินคือการกล่าวโทษผู้อื่น ปูตินและพวกสวะอื่นๆ แค่อยากส่งต่อความรับผิดชอบให้กับคนอื่น
1
พวกเขาใช้วิธีการเดียวกันเสมอ ซึ่งสามารถคาดเดาได้อย่างง่ายดาย"
รายงานของสื่อหลายฉบับวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะของกลุ่มรัฐอิสลามที่อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
รัฐอิสลามแห่งโคราซาน ที่ถูกเรียกว่า "ISIS-K"
1
องค์กรนี้เกิดขึ้นในอัฟกานิสถานตะวันออกเมื่อปลายปี 2557 เป็นหนึ่งในสาขาระดับภูมิภาคที่กระตือรือร้นมากที่สุดของกลุ่มรัฐอิสลามและมีชื่อเสียงในด้านความโหดร้ายที่รุนแรง
ความรุ่งโรจน์ของมันอยู่ที่ประมาณปี 2561 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จำนวนสมาชิกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
1
สาเหตุหลักมาจากความสูญเสียอย่างหนักจากกลุ่มตอลิบานและกองทัพสหรัฐฯ
ในช่วงสอง-สามปีที่ผ่านมา ISIS-K ก่อเหตุการณ์ที่สำคัญระดับนานาชาติมาหลายครั้ง
รวมถึงการโจมตีสนามบินนานาชาติคาบูลระหว่างที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานในปี 2564 สังหารทหารสหรัฐฯ 13 นายและพลเรือนหลายสิบคน
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 ได้มีการโจมตีด้วยการฆ่าตัวตายในสถานทูตรัสเซียในกรุงคาบูล
นอกจากนี้ ยังมีเหตุระเบิด 2 ครั้งในสุสานของโซไลมานีในอิหร่านเมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้
นั่น....คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบร้อยคน
1
การวิเคราะห์ของสื่อกล่าวว่าสาเหตุหลักที่องค์กรรัฐอิสลามโจมตีมอสโกคือ
การที่รัสเซียส่งทหารโดยตรงไปยังซีเรียในปี 2558 เพื่อช่วยอัสซาดต่อสู้กับองค์กรรัฐอิสลามในประเทศ
นอกจากนี้ ISIS-K และกลุ่มตอลิบานอัฟกานิสถานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียก็มีความขัดแย้งกันเช่นกัน
แถม ISIS-K ยังโจมตีปูตินบ่อยครั้งในการโฆษณาชวนเชื่อ
โดยอ้างว่ารัสเซียเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกดขี่ชาวมุสลิมอย่างต่อเนื่อง
1
มีรายงานว่าในบรรดาสมาชิก ISIS-K นั้นเป็นกลุ่มติดอาวุธในเอเชียกลางที่ไม่พอใจกับมอสโก
ดังที่ เชอร์ชิลล์กล่าวไว้ว่า "ไม่มีมิตรและศัตรูถาวรระหว่างประเทศ มีแต่ผลประโยชน์ถาวรเท่านั้น"
หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ก็ต้องรอดูกันว่ารัสเซียจะสามารถค้นหาฐานผู้ร้ายและโจมตีได้หรือไม่
นักวิเคราะห์สื่อหลายคนเชื่อว่ารัสเซียจะใช้โอกาสนี้เพื่อยกระดับสงครามในยูเครน หนึ่งวันก่อนการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
ในท้ายที่สุด เปสคอฟ (Peskov) เลขาธิการสื่อมวลชนประธานาธิบดีรัสเซีย ก็ได้เรียกสงครามรัสเซีย-ยูเครนว่าเป็น "สงคราม" ในแถลงการณ์
อย่างที่เราทราบกันดีว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาเครมลินเรียกสงครามยูเครนว่าเป็น "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ"
1
ทำให้ สื่อต้องกลับมาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงนี้ในวาทศาสตร์นี้อย่างเป็นทางการ
ในเวลานี้ คำพูดแบบเดิมๆของ Peskov คือ "มันเริ่มต้นแล้ว เป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร แต่เมื่อชาติตะวันตกรวมกันเป็นพันธมิตรกับยูเครน
สำหรับเราแล้ว มันก็กลายเป็นสงคราม"
1
เปสคอฟยังกล่าวอีกว่า "ฉันเชื่อว่าเพื่อที่จะระดมพลภายใน รัสเซียทุกคนจะต้องเข้าใจเรื่องนี้"
อีกอย่าง ในตอนนี้ มีโอกาสอย่างยิ่งและใช้งานได้จริงสำหรับเจ้าหน้าที่รัสเซียที่จะเปลี่ยนชื่อปฏิบัติการพิเศษทางทหารว่าเป็นสงคราม
เหตุผล คือ การเผชิญกับความเป็นจริง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียได้ประกาศปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
คำที่สละสลวยนี้ทำให้โลกรู้สึกว่าการส่งทหารไปต่างประเทศเป็นเพียงภารกิจระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งมีเวลาและขนาดที่จำกัด
และจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตทางสังคมตามปกติวิสัยในรัสเซีย
ต่อมา ปูตินยังได้ลงนามในกฎหมายห้ามมิให้เลี่ยงการปฏิบัติการทางทหารพิเศษ และป้องกันไม่ให้ชาวบ้านเรียกมันว่า .....สงคราม
1
อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจของการโจมตีแบบสายฟ้าแลบก็ล้มไม่เป็นท่า
แต่กลับตกลงไปในหล่มของสงครามระยะยาวแทน ขนาดของการบาดเจ็บล้มตายทางทหาร ค่าใช้จ่ายในการป้องกัน และการผลิตทางทหารต่างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ยูเครน ซึ่งเป็นเป้าหมายของการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ มักเปิดการโจมตีข้ามพรมแดนบ่อยครั้ง
แม้กระทั่งเจาะลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
คำแถลงปฏิบัติการพิเศษทางทหารกลายเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายมากขึ้น
ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะบอกชาวรัสเซียให้ชัดๆไปเลยว่า พวกเขาต้องเข้าใจความหมายและความโหดร้ายของสงคราม
และเตรียมพร้อมที่จะยอมรับการระดมพลและเกณฑ์ทหาร(ใน)อีก(หลาย)ครั้ง
ส่วนสิ่งที่เรียกว่า “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” นั้นไม่เป็นความจริงในทางปฏิบัติ และปูตินได้เปลี่ยนจุดประสงค์ของการโจมตีแบบสายฟ้าแลบต่อยูเครนไปแล้ว
เป็น “การต่อสู้เพื่อความอยู่รอดโดยต่อต้านความต้องการของตะวันตกที่จะแยกส่วนและทำลายรัสเซีย”
และกล่าวหาชาติตะวันตก ในการเริ่มต้นสงครามและจัดหาอาวุธ เงินทุน และข่าวกรอง
โดยถือว่ายูเครนเป็นสนามรบที่จะยิงใส่รัสเซีย
หลังจากที่ปูตินขจัดความท้าทายภายในประเทศต่างๆ และได้รับตำแหน่งวาระใหม่อีก 6 ปี
เขาก็เปลี่ยนวาทกรรมอย่างเป็นทางการและประกาศว่า นี่เป็นสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียและตะวันตกที่ยังคงดำเนินอยู่
1
สิ่งนี้ทำให้พลเมืองทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันโดยธรรมชาติ ภายใต้ความคิดและระบบการทำสงคราม
และยังเป็นเหตุผลเพียงพอสำหรับการเกณฑ์ทหารในขั้นต่อไป
ท้ายที่สุดแล้ว ปูตินได้(ซื้อ)เวลามากพอที่จะวางแผนใหม่สำหรับอนาคตของรัสเซียกันต่อไป อีก 6 ปี ยาวๆไปครับพี่น้องงงงงงงงงง.
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา