29 มี.ค. เวลา 08:54 • อาหาร

แจกสูตรอาหาร 8 เมนูอาหารเย็น อร่อยทำง่าย อิ่มได้ทั้งครอบครัว

แจกสูตรอาหารฟรี! ในช่วงวันหยุด ทำกับข้าวมื้อพิเศษทานกันเองในครอบครัว วันนี้เราเลยจะมาแจกสูตรอาหารไอเดียทำเมนูอร่อย ให้เพื่อนๆทุกคนได้ลองนำไปทำ ตามมาเลยค่ะ
1. พะแนงไก่
ส่วนผสม พะแนงไก่
เนื้อไก่ 400 กรัม (ส่วนอก, สะโพก หรือน่องก็ได้)
พริกแกง 150 กรัม
กะทิ 500 มล.
มะเขือพวง 100 กรัม
พริกชี้ฟ้าซอย 3 เม็ด
ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
ใบมะกรูดซอย 4 ใบ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะครึ่ง
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ พะแนงไก่
1. นำกะทิประมาณ 200 มล.ลงไปผัดให้แตกมัน ตามด้วยพริกแกง ผัดให้เข้ากันดี
2. เมื่อพริกแกงและกะทิเข้ากันดีแล้ว ใส่ไก่ลงไปผัดให้สุก แล้วเติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป ให้แกงเดือดดี
3. ส่มะเขือพวง และมะกรูดฉีกลงไป เมื่อมะเขือพวงสุกดีแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมดูรสชาติให้ได้ตามชอบ รสชาติจะออกเผ็ดหวาน เค็มเล็กน้อย
เมื่อผัดเข้ากันดีแล้ว ตักใส่ชามเสิร์ฟ แล้วตกแต่งหน้าด้วยใบมะกรูดซอย และพริกชี้ฟ้าซอย
พะแนงไก่
2. ยำตะไคร้กุ้งสด
ส่วนผสม ยำตะไคร้กุ้งสด
กุ้ง 500 กรัม
ตะไคร้ (ซอย) 30 กรัม
หอมแดง 50 กรัม
พริกจินดาเขียว,แดง 15 กรัม
พริกขี้หนู 2 กรัม
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 1/3 ช้อนโต๊ะ
สะระแหน่
ถั่วลิสงทอด
วิธีทำ ยำตะไคร้กุ้งสด
1. หั่นโคนตะไคร้แข็งๆ ออกไป แล้วซอยให้บางๆ
2. ซอยหอมแดง และพริกจินดา เตรียมไว้
3. หั่นมะนาว คั้นน้ำมะนาว เตรียมไว้
4. ทำน้ำยำ ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บเข้าด้วยกัน คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี จากนั้นชิมรสชาติปรับรสให้ได้ที่ต้องการ แล้วพักไว้
แกะเปลือกกุ้ง แล้วนำมาล้างทำความสะอาด แช่น้ำแข็งไว้ ผ่าหลังกุ้งเพื่อเอาเส้นดำออก
5. ตั้งหม้อน้ำให้เดือด แล้วนำกุ้งลงไปลวกในน้ำที่เดือดจัดได้ที่ ลวกกุ้งแค่พอสุกแล้วตักขึ้นพักไว้
6. ใส่เครื่องยำลงไปทในภาชนะที่จะใช้ยำ ใส่ตะไคร้ หอมแดง พริกจินดา กุ้ง ตามด้วยน้ำยำที่ผสมไว้ และถั่วลิสงทอด คนผสมให้เข้ากันดี แล้วตักใส่จาน
ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ และโรยด้วยถั่วลิสงทอด พร้อมเสิร์ฟ
ยำตะไคร้กุ้งสด
3. ขาหมูพะโล้โบราณ
ส่วนผสม ขาหมูพะโล้โบราณ
ขาหมู 2 กิโลกรัม
ไข่เป็ด 10 ฟอง
ผักกาดดอง(เปรี้ยว) 200 กรัม
รากผักชี 20 กรัม
กระเทียม 40 กรัม
พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2,000 กรัม
ซอสถั่วเหลือง คิคโคแมน (โชยุญี่ปุ่น) 15 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 8 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ขาหมูพะโล้โบราณ
 
1. ตั้งเตาต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่เกลือลงไป จากนั้นเอาไข่เป็ดลงไปต้มให้สุก
2. เทคนิคทำให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางใบ คือ ช่วงแรกของการต้มไข่ให้หมั่นคนไข่ให้ทั่ว
3. นำรากผักชี กระเทียม และพริกไทย มาโขลกรวมกันให้ละเอียด
4. ตั้งกระทะให้ท่วม รอจนน้ำมันพอร้อน นำขาหมูที่ล้างทำความสะอาดและพักให้สะเด็ดน้ำลงไปทอด
5. ทอดพอให้หนังหมูและเนื้อส่วนนอกตึงและสุกขึ้นมา ปิดเตาแล้วนำขาหมูมาพักไว้
6. เตรียมหม้อตุ๋นขาหมู ใส่น้ำมันพืช และสามเกลอที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้
7. ใส่น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่าเล็กน้อยลงในหม้อ ผัดด้วยไฟกลางจนน้ำตาลละลาย และสีเข้มขึ้้นจนคล้ายคาราเมล
8. ใส่ซอสถั่วเหลือง (โชยุญี่ปุ่น) ลงไปผัดให้เข้ากับน้ำตาลปี๊บ เร่งไฟเป็นไฟแรง
9. ใส่สามเกลอตามลงไปผัดให้เข้ากัน
10. ใส่ขาหมูที่ทอดไว้ลงไป ตามด้วยผักกาดดองที่ล้างทำความสะอาดแล้ว
11. จากนั้นใส่น้ำเปล่าลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วรอให้น้ำกลับมาเดือดอีกครั้ง
12. ลดไปลงเหลือไฟกลาง ใส่ไข่ต้มลงไป ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน ตุ๋นขาหมูต่อไปอีกประมาณ 3.30 ชั่วโมง
13. ชิมรสชาติให้ได้รสชาติที่ต้องการ พร้อมเสิร์ฟ
ขาหมูพะโล้โบราณ
4. “พล่ากุ้ง”
วัตถุดิบ
กุ้งสด (ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก) 10 ตัว
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
หอมแดงซอย 4 หัว
ใบมะกรูดซอย 3 ใบ
พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด
พริกขี้หนูซอยบาง 4 เม็ด
น้ำปลา 1 ½ ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
สะระแหน่เด็ดใบ สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
นำกุ้งสดไปลวกในน้ำเดือดจนสุก แล้วนำขึ้นพักไว้
TIP : อย่าลวกนานเกินไป เพราะจะทำให้กุ้งเนื้อแข็ง
ผสมน้ำยำโดยนำน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำพริกเผา เทลงในชามผสม คนให้เข้ากัน
3. ใส่กุ้งลวกสุก ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย ใบมะกรูดซอย และพริกขี้หนูซอย ลงไปในชามน้ำยำ คลุกให้เข้ากัน
4. ตักขึ้นใส่จานจัดเสิร์ฟ โรยด้วยใบสะระแหน่ ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดงซอย พร้อมรับประทาน
พล่ากุ้ง
5. สเต๊กหมูพริกไทยดำ ซอสเกรวี่
ส่วนผสม สเต็กหมูพริกไทยดำ
สันคอหมู 700 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
นมข้นจืด 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
สับปะรด
ส่วนผสม ซอสเกรวี่พริกไทยดำ
น้ำสต๊อก 150 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ สเต๊กหมูพริกไทยดำ ซอสเกรวี่
1.เริ่มหมักหมู ใส่เกลือ นมข้นจืด น้ำมันพืช พริกไทยดำ สับปะรด ลงในชามผสม คนให้เข้ากันดี
2.นำหมูมาคลุกเคล้ากับซอสให้เข้ากันดี ปิดด้วยพลาสติกแรป นำไปแช่ตู้เย็น 4-6 ชั่วโมง
3.เปิดเตาตั้งกระทะ โดยที่ยังไม่ต้องใส่น้ำมัน รอจนกระทะร้อนได้ที่ เทน้ำมันลงไปเล็กน้อย
4.นำสเต็กหมูลงไปทอด ด้วยไฟกลางค่อนไปอ่อน ปล่อยทิ้งไว้จนหมูออกขาว พลิกกลับด้าน จากนั้นนำฝาปิด และอบไปเรื่อยๆ ประมาณ 3-4 นาที
5.เปิดฝา ทอดต่ออีกสักพักเพื่อไล่ความชื้นจนสุกดีอีกประมาณ 10 นาที นำขึ้นมาพักไว้
6.ทำซอสเกรวี่ โดยใช้กระทะเดิมที่ทอดหมู ไม่ต้องล้างออก เติมน้ำสต็อกหมูลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วญี่ปุ่น ซอสมะเขือเทศ เปิดเตา
7.รอจนเดือด นำแป้งสาลีผสมน้ำเตรียมไว้ ชิมรสชาติให้ได้ตามชอบ ใส่พริกไทยดำลงไป
8.ใส่แป้งสาลีลงไป ค่อยๆ ทะยอยใส่ ตามชอบ เคี่ยวไปเรื่อยๆ ให้แป้งสุกดี
นำเสิร์ฟพร้อมสลัดผักสด เฟรนช์ฟรายส์ทอดตามชอบ
สเต๊กหมูพริกไทยดำ ซอสเกรวี่
6. สเต๊กไก่สไปซี่
ส่วนผสม สเต๊กไก่สไปซี่
สะโพกไก่เลาะกระดูก 4 ชิ้น
ผงสไปซี่ 1 ช้อนตวง (ยี่ห้อดูในคลิป)
ซอสพริก 2 ช้อนตวง
ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนตวง
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เฟรนซ์ฟรายส์
ผักสลัด
ขนมปังปิ้ง
วิธีทำ สเต๊กไก่สไปซี่
1.นำเนื้อไก่มาเลาะกระดูกออกก่อน นำมาล้างทำความสะอาดด้วยเกลือ และน้ำสะอาดหลายๆ น้ำ
2.จากนั้นนำไปหมักด้วย ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น เกลือสมุทร และผงสไปซี่
3.คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันดี แรปด้วยฟิล์มถนอมอาหาร และนำไปแช่ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
4.จากนั้นนำไปย่างในหม้อทอดไร้น้ำมัน อบในหม้ออบลมร้อน หรือย่างบนกระทะก็ได้ตามสะดวก
5.นำเข้าหมอทอดไร้น้ำมันด้วยอุณหภูมิ 170 องศา ด้านละ 10 นาที รวม 20 นาที
นำออกมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมเสิร์ฟ
สเต๊กไก่สไปซี่
7. เกี๊ยวน้ำ น้ำซุปกระดูกหมู
ส่วนผสม เกี๊ยวน้ำ
น้ำเปล่า 4 ลิตร
กระดูกเล้ง 500 กรัม
กระดูกคาตั๊ง 500 กรัม
น้ำตาลกรวด 25 กรัม
เกลือป่นหยาบ,เกลือสมุทร 2+1/2 ช้อนตวง
พริกไทยเม็ดบุบพอแตก 1 ช้อนตวง
รากผักชีบุบ 3-4 ราก
กระเทียมไทยบุบ 4-5 กลีบ
หัวไชเท้า 2 หัว
ปลาหมึกแห้งย่างไฟ 1 ตัว (ตัดออกได้)
ซุปคนอร์ 1-2 ก้อน
อัตราส่วน ไส้เกี๊ยว
กุ้งขาวสับหยาบ 300 กรัม
หมูบดติดมัน 250 กรัม
กระเทียมไทย 1 ช้อนตวง
รากผักชี 2 ราก
พริกไทยป่น 1+1/2 ช้อนชา
ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนตวง
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนตวง
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนตวง
น้ำมันงา 1 ช้อนตวง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ต้นหอมซอย 2 ช้อนตวง
ส่วนผสมอื่นๆ
ผักกวางตุ้งลวก
กระเทียมเจียว
พริกไทยป่น
วิธีทำ เกี๊ยวน้ำ
1.นำกระดูกมาขยำกับเหลือ ล้างน้ำให้สะอาดหลายรอบ ตั้งหม้อใส่น้ำเปิดแก๊สใช้ไฟแรง ใส่กระดูกหมูลงไป รอจนเดือด
2.ช้อนฟองทิ้งออกให้หมด จากนั้นใส่หัวไชเท้า กระเทียม รากผักชี น้ำตาลกรวด พริกไทยบุบ เกลือป่นหยาบ และปลาหมึกแห้ง
3.ปรับไฟจากแรงเป็นไฟกลาง ปิดฝาเคี่ยวต่อประมาณ 40 นาที
ระหว่างนี้ทำเกี๊ยวรอ นำรากผักชีและกระเทียมไทยไปโขลกให้ละเอียด
4.นำหมูบดและกุ้งสับลงไปในชามผสม ตามด้วยกระเทียมและรากผักชีลงไป ตามด้วยกระเทียม รากผักชี พริกไทยป่น ซอสปรุงรสฝาเขียว ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย น้ำมันงา ไข่ไก่
5.คลุกเคล้าให้เข้ากัน นวดจนเนื้อเหนียวดี นำไปรองด้วยน้ำแข็งใส่น้ำ นวดและตบให้ทุกอย่างเข้ากัน พอได้ที่แล้ว
6.ใส่ต้นหอมซอยปิดท้าย นำเข้าแช่ช่องฟรีส 30 นาที
นำมาห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวตามชอบ ส่วนน้ำซุป เปิดหม้อใส่คนอร์ก้อนลงไป 1 ก้อน ชมรสให้ได้ตามชอบ
7.นำเกี๊ยวไปลวกในน้ำร้อนที่ไม่เดือดมาก รอจนเกี๊ยวสุก ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
ตักขึ้นมาคลุกเคล้ากับกระเทียม เพื่อไม่ให้ติดกัน
8.ตักเกี๊ยวใส่ชาม ตักน้ำซุปลงไป โรยด้วยผักชีและกระเทียมเจียว พริกไทยป่น เป็นอันเสร็จ
เกี๊ยวน้ำ
8. เมี่ยงปลาทู
ส่วนประกอบ เมี่ยงปลาทู
ปลาทูทอด
น้ำจิ้มถั่วตัด
ถั่วลิสงคั่ว
มะนาวหั่นเต๋า
ขิงอ่อนหั่นเต๋า
พริกขี้หนูซอย
หอมแดงหั่นเต๋า
กระเทียมจีนซอย
ขนมจีน
ผักกาดหอม,ผักชี,ใบชะพลู
ส่วนผสม น้ำจิ้มถั่วตัด
พริกขี้หนูสวนเขียวแดง 40 กรัม
กระเทียมไทยปอกเปลือก 100 กรัม
รากผักชี 4 ราก
กระเทียมดอง 2 หัว
น้ำมะนาว 150 กรัม (ใครไม่ชอบเปรี้ยว ลดลงได้)
น้ำปลา 80 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ถัวตัด 180 กรัม (เพิ่มลดได้ตามชอบ)
วิธีทำ น้ำจิ้มถั่วตัด เมี่ยงปลาทู
นำถั่วตัดไปโขลกให้ละเอียด พักไว้
นำพริกขี้หนูสวนเขียวแดง กระเทียมไทยปอกเปลือก รากผักชี กระเทียมดอง น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น ลงในโถปั่น
ปั่นให้ละเอียด เทใส่ถ้วย นำถั่วตัดที่โขลกไว้ใส่ลงไป ชิมรสชาติตามชอบ
เมี่ยงปลาทู ปลาทูทอด
ครบ8เมนู ที่โดนใจทุกคนแน่นอน ลองไปทำตามกันนะคะ🤤😍❤️
#อาหาร #อาหารอร่อย #อาหารวันนี้ #เมนูง่ายๆ #เมนูอร่อย #เมนูแนะนำ #อาหารอร่อย #เมนูแนะนำ #food #menu #cooking #easycooking #homemade #glod289 #made #yummy #เมนูวันนี้ #เมนูอร่อยๆ
โฆษณา