19 เม.ย. เวลา 01:00 • ข่าวรอบโลก

เทรนด์ผู้บริโภคมาแรงในสิงคโปร์ ปี 2567

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในสิงคโปร์ ปี 2567 ที่ผู้ประกอบการสามารถนำประยุกต์ไปใช้วางแผนการตลาดได้ ดังต่อไปนี้
1. พฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างมีสติ
(The Era of Conscious Consumer Behaviour)
Mastercard Economics Institute (MEI) ให้ข้อมูลว่า คาดว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในปี 2567 จะส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสิงคโปร์เติบโตช้าลง 2.8% และผู้บริโภคมีแนวโน้มสูงที่จะใช้จ่ายน้อยลง ซึ่งจะลดลงจากอัตราการเติบโต 3.5%
ในปี 2566 อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะลดลง
แต่คาดว่า ในปี 2567 อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสิงคโปร์จะอยู่ที่ 2.87% เทียบกับปี 2566 ที่อยู่ที่ 0.9% โดยได้แรงหนุนจากการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะลังเลมากขึ้นที่จะซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น คำนึงถึงการใช้จ่ายมากขึ้น และจะมีการ
จัดลำดับความสำคัญในการซื้อที่สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคให้คุณค่า
ดังนั้น แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องประเมินกลยุทธ์ทางการตลาดและการสร้างแบรนด์เพื่อดึงดูดเทรนด์นี้ได้ด้วยวิธีการจัดหาและการผลิตที่โปร่งใส ตลอดจนรักษาราคาที่ยุติธรรม เพื่อลดข้อกังวลใจสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจในประเด็นนี้
2. การเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้ออาหารและของใช้ในบ้าน
(Shift in Grocery and Food Shopping Habits)
หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์มีความคุ้นเคยในการซื้อของผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเป็นอย่างดี การซื้อสินค้าออนไลน์ในกลุ่มของใช้ในบ้านและสินค้ากลุ่ม FMCG ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ การซื้อของออนไลน์สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคชาวสิงคโปร์เป็นอย่างมาก ประกอบกับการเข้าถึงตัวเลือกที่หลากหลายจะทำให้ชาวสิงคโปร์มีแนวโน้มในการใช้จ่ายสินค้าประจำวันทั่วไปมากขึ้นในปี 2567
ดังนั้น ร้านขายของใช้ประจำวันแบบดั้งเดิมจะต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยการทำการตลาดช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น และมีรายการส่งเสริมการขายเพื่อเป็นการดึงดูดผู้บริโภค ในปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์มักจะซื้อสินค้าอาหารและของใช้ในบ้านผ่านเว็บไซต์ทางการของซูเปอร์มาร์เก็ตในสิงคโปร์อย่าง NTUC Fairprice, Sheng Siong แพลตฟอร์ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ เช่น RedMart, Shopee เป็นต้น
แพลตฟอร์ซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ RedMart
3. ผู้บริโภคต้องการความโปร่งใสของ AI
(Consumers want transparency with AI)
ชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการตัดสินใจซื้อแบบมีข้อมูลมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความต้องการประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น AI หรือปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามาเสริมธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้บริการผู้บริโภคได้รวดเร็ว ชาญฉลาดและแม่นยำยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ AI จะถูกบูรณาการเข้ากับกระบวนการค้าปลีกมากขึ้น เช่น Chatbots ในการสนับสนุนลูกค้า โดย 78% ของลูกค้าในสิงคโปร์คาดหวังถึงการปฏิสัมพันธ์แบบ
ต่อเนื่องในระหว่างแผนกต่างๆ และ 76% ของลูกค้าชาวสิงคโปร์คาดหวังว่าเมื่อ
พวกเขาติดต่อกับบริษัทจะได้รับการปฏิสัมพันธ์กับใครสักคนโดยทันที
ในขณะเดียวกัน รายงานล่าสุดของ Salesforce ระบุว่า ลูกค้า 87% มีความเห็นว่า พวกเขาจะต้องตระหนักว่าพวกเขากำลังสื่อสารกับ AI หรือมนุษย์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์และเจ้าของธุรกิจจะต้องสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภคว่ามีกระบวนการใช้ AI ที่โปร่งใส เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและปลอดภัย
Chatbots
4. การชำระเงินออนไลน์เป็นช่องทางที่ชาวสิงคโปร์ชื่นชอบ
(Online Payment is the Preferred Method)
ขณะนี้ร้านค้ามากกว่า 90% ในสิงคโปร์ซึ่งมีมากกว่า 210,000 แห่ง ใช้บริการ SGQR หรือกระเป๋าเงินดิจิทัลประเภทหนึ่งในสิงคโปร์ ในขณะที่ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้การชำระเงินแบบไร้เงินสดมากขึ้น การนำกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลและบริการการชำระเงิน เช่น PayNow และ PayLah! มาใช้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567 การเปลี่ยนของพฤติกรรมผู้บริโภคดังกล่าวยังได้รับแรงส่งจากความสะดวกสบายและความปลอดภัยของการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
ดังนั้น เจ้าของธุรกิจควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านค้ามีแพลตฟอร์มที่พร้อมรับรูปแบบการชำระเงินเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่น การใช้ Open Banking Solutions จะช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงินดิจิทัลสำหรับธุรกิจต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงการทำธุรกรรมรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ เข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท
5. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ยังคงเติบโต
(Electronics and Gadgets Keep Booming)
คาดการณ์ว่า ยอดขายสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในสิงคโปร์ ปี 2567 จะค่อย ๆ เติบโตขึ้น เป็นผลมาจากชาวสิงคโปร์ให้ความสนใจในด้านเทคโนโลยีและความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริมที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ การทำงานระยะไกล (Remote Working) และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อความบันเทิงในบ้านที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ยอดขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็บท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน เติบโตขึ้น ช่องทางการขายปลีกออนไลน์สำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ขยายตัวอย่างมากในสิงคโปร์จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและราคาที่แข่งขันได้
อย่างไรก็ดี ร้านค้าที่มีหน้าร้านยังคงเป็นช่องทางการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากร้านค้าเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทำการสัมผัสสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับร้านค้า/ธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นในสิงคโปร์ควรจะมีระบบออนไลน์ที่ดี เว็บไซต์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ การบริการจัดส่งที่รวดเร็ว
และราคาที่แข่งขันได้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า หรือการนำเสนอโปรโมชั่นต่าง ๆ และการสร้างประสบการณ์การซื้อของแบบ Omnichannel เพื่อตอบ สนองลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และเกิดประโยชน์ทางธุรกิจ
บริการ SGQR หรือกระเป๋าเงินดิจิทัลประเภทหนึ่งในสิงคโปร์
6. สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมีความสำคัญเป็นอันดับแรก
(Health and Wellness Take Priority)
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดส่งผลให้ชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น และคาดว่าเทรนด์ดังกล่าวจะยังดำเนินต่อไปในปี 2567
ดังนั้น ธุรกิจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่าง สตูดิโอออกกำลังกาย ธุรกิจอาหารเสริม และร้านค้าให้บริการอาหารเพื่อสุขภาพ มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจและต้องการซื้อสินค้า
และบริการจากผู้บริโภคสิงคโปร์มากขึ้น ร้านค้า/บริษัทต่าง ๆ อาจปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์นี้ โดยการทำ Marketing Campaigns เพื่อสื่อสารแนวความคิดด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีไปยังผู้บริโภค หรือการนำเสนอบริการเสมือนจริง และแบบพบหน้ากัน เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ที่มีความสนใจด้านนี้ การให้ข้อมูลด้านสุขภาพอาจจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้
Consult a doctor online
ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์
แนวโน้มของผู้บริโภคชาวสิงคโปร์จะหันไปบริโภคผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน เช่น ของใช้ในบ้าน สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ และสินค้าที่จะช่วยปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพในบ้าน เนื่องจากปัจจุบันการทำงานระยะไกลยังคงเป็นบรรทัดฐานในสิงคโปร์ นอกจากนี้ ธุรกิจออนไลน์ต่างๆ เช่น อีคอมเมิร์ซและธุรกิจบริการจัดส่งสินค้าคาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นในปี 2567 ผู้ประกอบการไทยควรจะต้องติดตามเทรนด์ผู้บริโภคของสิงคโปร์เพื่อให้เกิดความสามารถในการแข่งขัน/การส่งออก และการเติบโตทางธุรกิจต่อไป
Reference : สํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์
อ่านเพิ่มเติม : https://www.ditp.go.th/post/167949
โฆษณา