24 เม.ย. เวลา 08:45 • ไลฟ์สไตล์

น้ำองุ่นหมักที่เรียกว่า "ไวน์"(Wine)

เชื่อว่าหลายๆคนคงได้ยิน รู้จัก หรือเคยได้ดื่มไวน์ (Wine) กันมาบ้าง ไวน์คือน้ำองุ่นหมักจนเกิดเป็นแอลกอฮอล์ ที่พออยู่บนโต๊ะอาหารอาจจะดูหรูหรา อีกทั้งยังใช้ในการดื่มเพื่อเฉลิมฉลองอีกด้วย หรือแม้กระทั่งเป็นเครื่องดื่มในพิธีทางศาสนา บางคนลองแล้วชอบ บางคนลองแล้วไม่ชอบ ดื่มเป็นบ้าง ไม่เป็นบ้าง บางคนดื่มเพื่อสร้างบรรยากาศ บางคนดื่มเพื่อประกอบอารมณ์ หรือบางคนก็ดื่มเพื่อสุขภาพก็ยังได้
ซึ่งล้วนแล้วแตกต่างประสบการณ์ ความต้องการกันไป ซึ่งไม่มีถูก ไม่มีผิดเลย
เราอยากบอกทุกคนว่า
ไวน์ คือ ประสบการณ์..
ประสบการณ์ของผู้ดื่มของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ตามแต่ละช่วงเวลา สถานการณ์ หรือแม้แต่อารมณ์
ประสบการณ์ของผู้ผลิตที่สร้างขึ้นมาจากประวัติศาสตร์ การสืบทอดวัฒนธรรม การดูแลรักษาสมดุลทางชีววิทยาของธรรมชาติเพื่อการดำรงอยู่
Wine Monster
บทความนี้ Wine Monster จะชวนผู้อ่านทุกท่านมาเปิดประสบการณ์ทำความรู้จักเจ้าเครื่องดื่มชนิดนี้กันให้มากขึ้น ก่อนอื่นเราขอแนะนำทุกท่านว่า หากอยากได้อรรถรสในการอ่านมากขึ้นโปรดเตรียมไวน์ในมือท่านให้พร้อม..
ไวน์ (Wine) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากองุ่นหมัก ในทางเทคนิคแล้ว ไวน์สามารถทำได้โดยใช้ผลไม้ทุกชนิด แต่ไวน์ส่วนใหญ่ทำจากองุ่น ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน นักโบราณคดีชี้ให้เห็นว่า ได้มีการพบหลักฐานว่าเริ่มมีการผลิตไวน์รุ่นแรกๆของโลก ในเทือกเขาทางตะวันออกของประเทศจอร์เจีย จึงได้รับการขนานนามว่า เป็นแหล่งกำเนิดของไวน์ เพราะถูกผลิตขึ้นที่นี่มามากกว่า 8,000 ปีแล้ว โดยที่องุ่นพันธุ์ดั้งเดิมนั้นมักจะตั้งชื่อตามแหล่งที่ปลูก
จอร์เจียเป็นหนึ่งในชาติที่ผลิตไวน์เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และได้ชื่อว่าเป็น The birth place of wine หรือ The Cradle of Wine Making เมื่อดูจากหลักฐานที่ทำการค้นพบแล้วทำให้เชื่อกันว่า มีการผลิตไวน์ในบริเวณพื้นที่แห่งนี้มาอย่างยาวนาน
ชาวคอเคซัสค้นพบว่าน้ำองุ่นป่าที่บีบคั้นเอาแต่น้ำไว้ ได้มีการกลายเป็นแอลกอฮอล์ จากนั้นจึงใช้ประสบการณ์พัฒนาความรู้มาเรื่อยๆ กระทั่งประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ชาวจอร์เจียได้มีการคิดค้นภาชนะใส่ไวน์เพื่อเก็บไว้ดื่มนานๆ ซึ่งเป็นโอ่งดินเผาขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Kvevris ที่เคลือบด้วยไขจากรังผึ้ง ปิดฝาด้วยแผ่นไม้ แล้วทำการฝังโอ่งไว้ใต้ดิน จึงสามารถเก็บรักษาไว้ได้หลายสิบปี ในปัจจุบันก็ยังใช้วิธีการผลิตแบบนี้กันอยู่ อีกทั้งยังเชื่อกันว่าคำว่า Wine มาจากคำว่า Gvino ในภาษาจอร์เจีย
ไวน์ผลิตมาจากองุ่นหมักกับยีสต์ จะไม่มีการเติมแต่งรสชาติเพิ่มแต่อย่างใด รสชาติ และกลิ่นหลักๆของไวน์จะเป็นรสขององุ่น ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น สายพันธุ์ขององุ่น สถานที่ที่ปลูก และเวลาในการบ่ม
องุ่นที่ใช้ผลิตไวน์จะมีความแตกต่างจากองุ่นที่นิยมรับประทานผลสดแบบทั่วไป องุ่นที่ใช้ผลิตไวน์นั้นจะมีขนาดเล็กกว่ามาก มีเมล็ด และมีรสหวานมากกว่าองุ่นที่นิยมรับประทานผลสดอีกด้วย
การนำองุ่นสายพันธุ์เดียวมาผลิตไวน์ (Single-varietal wine) ไวน์ประเภทนี้ที่ได้ความนิยม เช่น Pinot Noir
การนำองุ่นหลากหลายสายพันธุ์มาผลิตไวน์ (Blend wine) ไวน์ประเภทนี้ที่ได้รับความนิยม เช่น Bordeaux
การบ่มไวน์ในถังไม้โอ๊ค
ชนิด และประเภทของไวน์ (Type of Wine) เป็นสิ่งแรกๆ ที่เหมาะแก่การเริ่มต้นทำความรู้จักกับโลกของไวน์ หลายคนอาจคิดว่า การแยกแยะชนิดของไวน์ เช่น ไวน์แดง (Red Wine) และไวน์ขาว (White Wine) สามารถทำได้ง่ายเพียงใช้ตาเปล่า แต่จริงๆแล้ว ไวน์แต่ละชนิด แต่ละประเภท ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มากกว่าเรื่องของสี เช่น ความฝาด (Tanin) กลิ่น ปริมาณน้ำตาล ปริมาณแอลกอฮอล์ และอื่นๆ ที่ส่งผลถึงรสชาติ
ไวน์สามารถแบ่งตามพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการผลิต (Grape Varities) หรือแหล่งผลิต (Wine Region)
แต่ในครั้งนี้เราจะจำแนกชนิดไวน์ตาม 5ประเภท หลัก ได้แก่ ไวน์ขาว (White Wine), ไวน์แดง (Red Wine), ไวน์โรเซ่ (Rose Wine),ไวน์หวาน (Dessert Wine) และไวน์สปาร์คกลิ้ง (Sparkling Wine)
1. ไวน์แดง (RED WINE)
สาเหตุที่ทำให้ไวน์แดงมีสีแดง นั่นเป็นเพราะ มีการเติมเปลือกองุ่น (Grape Skin), ขั้วองุ่น (Grape Pip) รวมถึงเมล็ด (Seed) เข้าไปในกระบวนการหมัก และไวน์แดงยังถูกหมักในอุณหภูมิสูง เพื่อสกัดเอาสี, รสฝาดของแทนนิน (Tanin), กลิ่นออกมา
ซึ่งจะมีความเข้มข้นแตกต่างกันไป ตามระยะเวลาการทิ้งเปลือกองุ่นไว้กับน้ำองุ่นในขั้นตอนการหมัก
2. ไวน์ขาว (WHITE WINE)
บางคนอาจเข้าใจว่า ไวน์ขาว (White Wine) ทำมาจากองุ่นสีเขียวเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วไวน์ขาวก็สามารถผลิตมาจากองุ่นสีแดง โดยแยกเปลือกที่มีเม็ดสี (Pigment) สีแดงออก แล้วนำเพียงน้ำองุ่นไปผลิตทำไวน์ขาว
ซึ่งโดยปกติแล้วไวน์ขาวจะมีรสชาติเด่น ๆ ได้แก่ รสเปรี้ยวหวาน สดชื่น หรือครีมมี่ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยการผลิตที่ไม่เหมือนกัน
3. ไวน์โรเซ่ (ROSE WINE)
โดยปกติ ไวน์โรเซ่ สีชมพูดอกกุหลาบนี้ จะได้มาจากในกระบวนการหมักเปลือกองุ่นแดง ที่ทิ้งให้สัมผัสกับน้ำองุ่นเพียงช่วงสั้น ๆ ราว 12-36 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีการผลิตไวน์โรเซ่ (Rose Wine) ที่ใช้วิธีนำ ไวน์แดง (Red Wine) และ ไวน์ขาว (White Wine) มาเบลนด์ (Blended) เข้าด้วยกัน ก็เป็นอีกวิธีที่นิยมใช้ เช่นกัน
4. ไวน์หวาน (DESSERT WINE)
สำหรับไวน์หวานนั้น จะแตกต่างจากทั้งหมด เพราะเมื่อองุ่นสุกจะยังไม่เก็บ แต่จะปล่อยทิ้ง คาต้นไว้อีก 1-2 เดือน ตากแดด ตากลม จนลูกองุ่นใกล้เป็นลูกเกด ก่อนคั้นเอาน้ำมาทำไวน์หวาน
ไวน์หวาน นิยมเสิร์ฟเพื่อดื่มคู่กับของหวาน แต่ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ มักดื่มไวน์ขาวหวาน (White Dessert Wine) เพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนมื้ออาหาร และดื่มไวน์แดงหวาน (Red Dessert Wine) เพื่อล้างปากหลังมื้ออาหาร
5. สปาร์คกลิ้งไวน์ (SPARKLING WINE)
สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) ไวน์ชนิดนี้มีสไตล์ที่เด่นชัด ด้วยรสสมผัสซ่าจากฟอง (Bubble) ที่ได้จาก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในกระบวนการหมัก หรือถูกเติมเข้าไประหว่างการหมักก็ได้ สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine)สามารถแยกย่อยลงไปได้อีก ตามพื้นที่ หรือแหล่งที่ผลิต (Region) เช่น กาบา (Cava) จากสเปน (Spain), อาสติ (Asti) หรือ โปรเซคโก้ (Prosecco) จากอิตาลี (Italy) รวมถึง แชมเปญ (Champagne) จากแคว้นชองปาญ ประเทศฝรั่งเศส (France)
ปัจจุบันเราแหล่งผลิตไวน์มากมายหลายประเทศทั่วโลก แต่ไวน์ที่ส่งออกไปทั่วโลกกว่า 80 % ล้วนมาจาก 10 ประเทศนี้ ได้แก่ ฝรั่งเศส (France), อิตาลี (Italy), สเปน (Spain), อเมริกา (America), อาร์เจนตินา (Argentina), ออสเตรเลีย (Australia), เยอรมนี (Germany), แอฟริกาใต้ (South Africa), ชิลี (Chile) และโปรตุเกส (Portugal)
Wine Monster เราเป็นเพียงคนที่ชื่นชอบไวน์ ที่ศึกษาหาความรู้ต่างๆเกี่ยวกับไวน์ เพื่อมาแชร์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ ให้กับเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่านที่ชอบไวน์หรืออาจจะยังไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ซึ่งเราคาดหวังว่าบทความนี้ และบทความต่อๆไป จะสามารถมอบความรู้ ความสนุก เกี่ยวกับไวน์ อยากให้เป็นพื้นที่แห่งการเปิดประสบการณ์ให้สำหรับคำที่ไม่เคยรู้จัก "ไวน์" ได้มารู้จักกับ "ไวน์" ให้มากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับบทความต่อไปเราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักประโยชน์ และวิธีดื่มไวน์เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่มด่ำให้สนุกมากขึ้นไปด้วยกัน โปรดกดติดตามเพจเราเพื่อเป็นกำลังใจ และจะได้ไม่พลาดบทความต่อๆไปนะครับ
Wine Monster ขอให้ทุกท่านมีความสุข สนุก ในการดื่มด่ำไวน์ในแก้วต่อๆไปครับ
เพราะเราเชื่อว่า "ไวน์" เป็นได้แค่มากกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โฆษณา